วิกิซอร์ซ thwikisource https://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81 MediaWiki 1.39.0-wmf.22 first-letter สื่อ พิเศษ พูดคุย ผู้ใช้ คุยกับผู้ใช้ วิกิซอร์ซ คุยเรื่องวิกิซอร์ซ ไฟล์ คุยเรื่องไฟล์ มีเดียวิกิ คุยเรื่องมีเดียวิกิ แม่แบบ คุยเรื่องแม่แบบ วิธีใช้ คุยเรื่องวิธีใช้ หมวดหมู่ คุยเรื่องหมวดหมู่ สถานีย่อย คุยเรื่องสถานีย่อย ผู้สร้างสรรค์ คุยเรื่องผู้สร้างสรรค์ งานแปล คุยเรื่องงานแปล หน้า คุยเรื่องหน้า ดัชนี คุยเรื่องดัชนี TimedText TimedText talk มอดูล คุยเรื่องมอดูล Gadget Gadget talk Gadget definition Gadget definition talk แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน 10 15632 188252 69317 2022-07-30T08:48:56Z Venise12mai1834 8884 Venise12mai1834 ย้ายหน้า [[แม่แบบ:Softredirect]] ไปยัง [[แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน]] wikitext text/x-wiki [[ไฟล์:Redirect arrow without text.svg|#REDIRECT|link=]]<span class="redirectText" id="softredirect">[[:{{{1}}}|{{{2|{{{1}}}}}}]]</span><br /><span style="font-size:85%; padding-left:48px;">หน้านี้คือ[[m:Soft redirect|หน้าเปลี่ยนทางแบบอ่อน]]</span><includeonly>{{#switch:{{NAMESPACENUMBER}}|2|3=[[หมวดหมู่:หน้าผู้ใช้เปลี่ยนทางแบบอ่อน]]|[[หมวดหมู่:หน้าเปลี่ยนทางแบบอ่อน]]}}</includeonly><noinclude> {{documentation}} </noinclude> 7kz389dioki3c4spjem5oiu0cwz7cze แม่แบบ:เปลี่ยนทางอ่อน 10 17236 188254 163921 2022-07-30T08:50:05Z Venise12mai1834 8884 แม่แบบซ้ำซ้อน wikitext text/x-wiki #REDIRECT [[แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน]] 0csabfgs27j5k1r0kc4splc0qd5t7ak สถานีย่อย:ประเทศฝรั่งเศส 100 38887 188240 187190 2022-07-30T06:49:34Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=France|หมายเหตุ=ประเทศในยุโรป}} ==กฎหมาย== * {{ลปงป|กฎหมาย ลงวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1878||พ.ศ. 2421|fr}} * {{ลปงป|กฎหมาย ลงวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1849||พ.ศ. 2392|fr}} * {{ลปงป|กฎอัยการศึก ลงวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1789||พ.ศ. 2332|fr}} * {{ลปง|ประมวญหนังสือสัญญาใหญ่แลอนุสัญญาระหว่างกรุงสยามกับประเทศฝรั่งเศส|พระยาราชเสนา (ศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา)|พ.ศ. 2470}} * {{ลปงป|รัฐธรรมนูญฝรั่งเศส (ค.ศ. 1791)||ค.ศ. 1791|fr|แสดง=รัฐธรรมนูญฝรั่งเศส}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||พ.ศ. 2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||กระษัตรเยี่ยมกัน|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||พ.ศ. 2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปง|จดหมายเหตุฟอร์บัง|โกลด เดอ ฟอร์แบ็ง|2486|หม่อมเจ้าดำรัสดำรงค์ เทวกุล}} {{ลฟใน|จมห ฟอร์บัง - ดำรัสดำรง - ๒๔๘๖.pdf}} * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 12/เรื่องที่ 1|พระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค)|2462|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 12||จดหมายเหตุทูตฝรั่งเศสเข้ามาเมืองไทยในแผ่นดินสมเด็จพระนารายน์มหาราช|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 12}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๒) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปง|เรื่องทูตานุทูตของสมเด็จพระนารายณ์ออกไปกรุงฝรั่งเศสครั้งสุดท้าย|พระสารสาสน์พลขันธ์ (เยโรลาโม เอมิลิโอ เยรินี)}} ==ดูเพิ่ม== * '''[[สถานีย่อย:คดีปราสาทพระวิหาร]]''' * '''[[สถานีย่อย:อินโดจีนฝรั่งเศส]]''' [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|ฝรั่งเศส]] dqothybuf9bxpc6pt9sllvzwn2f85bn นิทานโบราณคดี 0 45716 188257 143790 2022-07-30T08:54:57Z Venise12mai1834 8884 แทนที่เนื้อหาด้วย "{{เปลี่ยนทางแบบอ่อน|นิทานโบรานคดี}}" wikitext text/x-wiki {{เปลี่ยนทางแบบอ่อน|นิทานโบรานคดี}} 1q76vsdj32aycmer8h04s33urtoou6y สถานีย่อย:ประเทศจีน 100 47355 188241 186260 2022-07-30T06:49:44Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=China|หมายเหตุ=ประเทศในเอเชียตะวันออก}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||กำปั่นแตก|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวเมืองจีน|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||จีนกระบท|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||น้ำทว่ม|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||เฮาควา|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} ==ประเพณี== * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 23|ง่วนติ้ด บุญญถี|2473|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 23||ประเพณีแต่งงานบ่าวสาวของจีน|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 23}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๒๓) - ๒๔๗๓.pdf}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 5/จดหมายเหตุจีนว่าด้วยกรุงสยามแต่โบราณ|หลวงเจนจีนอักษร (สุดใจ ตัณฑากาศ)|2460|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 5||จดหมายเหตุจีนว่าด้วยกรุงสยามแต่โบราณ|ประชุมพงษาวดาร ภาคที่ 5}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕) - ๒๔๖๐ reorganised.pdf}} * {{ลปง|จีน|พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ)|2512}} {{ลฟใน|จีน - เสฐียรโกเศศ - ๒๕๑๒.pdf}} * {{ลปง|ตำนานหนังสือสามก๊ก|สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2471}} {{ลฟใน|ตำนานฯ สามก๊ก - ดำรง - ๒๔๗๑ b.pdf}} * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 9/พงษาวดารเมืองเชียงรุ้ง||2461|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 9||พงษาวดารเมืองเชียงรุ้ง|ประชุมพงษาวดาร ภาคที่ 9}} * {{ลปงย|แม่ย่านาง วรรณคดี และราชาวดี/เรื่อง 1||2481|แม่ย่านาง วรรณคดี และราชาวดี||แม่ย่านาง|เขียนทับผู้สร้างสรรค์={{ลผส|เสฐียรโกเศศ}} และ{{ลผส|นาคะประทีป}}}} * {{ลปง|ลักษณอาญาจีนสมัยเก่า|จอร์จ เฮนรี เมสัน|2454}} ==วรรณกรรม== * '''[[สถานีย่อย:วรรณกรรมจีน]]''' ==ดูเพิ่ม== * '''[[สถานีย่อย:อินโดจีนฝรั่งเศส]]''' * '''[[สถานีย่อย:ฮ่อ]]''' [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|จีน]] od8hf7da2nj8h637v956ajp3vj5e6kq คุยกับผู้ใช้:CCavadov 3 50229 188176 157016 2022-07-30T02:38:56Z EmausBot 6006 บอต: แก้หน้าเปลี่ยนทางซ้ำซ้อนไปเป็น [[คุยกับผู้ใช้:Grenzsoldat]] wikitext text/x-wiki #เปลี่ยนทาง [[คุยกับผู้ใช้:Grenzsoldat]] 82w6wlxeq0afnudhwykttlwkh7pjxve หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/57 250 55446 188296 176363 2022-07-30T11:01:39Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Praesideo" /></noinclude>{{ก|นิทานที่ 5|บ=font-size:140%}} {{ก|เรื่อง ของแปลกที่เมืองชัยบุระไนอินเดีย}} {{สต|7em}} เมื่อ พ.ส. 2434 พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าหยู่หัวซงกรุนาโปรดไห้ฉันเปนผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมตอบแกรนด์ดุ๊กซาเรวิตช รัชทายาทประเทสรุสเซีย (ต่อมาได้เสวยราชย์เปนพระเจ้านิโคลัสที่ 2) ซึ่งได้เข้ามาเฝ้าถึงกรุงเทพฯ เมื่อต้นสกนั้น และโปรดไห้ไปยังราชสำนักอื่น ๆ ไนยุโรปเพื่อถวายเครื่องราชอิสริยาภรน์แก่พระเจ้าแผ่นดินบ้าง เพื่อเจริญทางพระราชไมตรีบ้าง อีกหลายประเทส คือ ประเทสอังกริด ฝรั่งเสส เดนมาร์ก เยอรมนี รุสเซีย เตอรกี ครีส และอิตาลี รวมเปนแปดแห่งด้วยกัน ไนสมัยนั้นตัวฉันรับราชการเปนตำแหน่งอธิบดีกะซวงธัมการซึ่งจะโปรดไห้สถาปนาเปนกะซวงเสนาบดี เมื่อฉันไปยุโปรด จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปว่า ขากลับจะอ้อมมาทางประเทสอเมริกาและญี่ปุ่นหรือจะกลับผ่านมาทางประเทสอียิปต์และอินเดียเพื่อตรวดตราหาความรู้เอามาไช้ไห้เปนประโยชน์แก่ราชการบ้านเมืองก็ได้ เมื่อฉันไปถึงลอนดอนจึงปรึกสาหาพวกที่เขาชำนาญการเที่ยวเตร่ว่า จะกลับทางไหนดี เขาว่า ฉันยังจะต้องไปตามประเทสต่าง ๆ ไนยุโรปอีกหลายแห่ง กว่าจะเสร็จธุระจะตกถึงปลายเดือนธันวาคม ไปอเมริกาไนเวลานั้นเปนรึดูหนาว ที่อเมริกาหนาวจัดนัก เกรงฉันจะทนไม่ไหว กลับทางอียิปต์และอินเดียดีกว่า เพราะ<noinclude></noinclude> 9za3to8f9snqoo1ibx40qiuk47x1ggh 188297 188296 2022-07-30T11:04:07Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude>{{ก|นิทานที่ 5|บ=font-size:140%}} {{ก|เรื่อง ของแปลกที่เมืองชัยบุระไนอินเดีย}} {{สต|7em}} เมื่อ พ.ส. 2434 พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าหยู่หัวซงพระกรุนาโปรดไห้ฉันเปนผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมตอบแกรนด์ดุ๊กซาเรวิตช รัชทายาทประเทสรุสเซีย (ต่อมาได้เสวยราชย์เปนพระเจ้านิโคลัสที่ 2) ซึ่งได้เข้ามาเฝ้าถึงกรุงเทพฯ เมื่อต้นสกนั้น และโปรดไห้ไปยังราชสำนักอื่น ๆ ไนยุโรปเพื่อถวายเครื่องราชอิสริยาภรน์แก่พระเจ้าแผ่นดินบ้าง เพื่อจเรินทางพระราชไมตรีบ้าง อีกหลายประเทส คือ ประเทสอังกริด ฝรั่งเสส เดนมาร์ค เยอรมนี รุสเซีย เตอรกี ครีส และอิตาลี รวมเปน 8 แห่งด้วยกัน ไนสมัยนั้น ตัวฉันรับราชการเปนตำแหน่งอธิบดีกะซวงธัมการซึ่งจะโปรดไห้สถาปนาเปนกะซวงเสนาบดี เมื่อฉันไปยุโปรด จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปว่า ขากลับจะอ้อมมาทางประเทสอเมริกาและยี่ปุ่น หรือจะกลับผ่านมาทางประเทสอียิปต์และอินเดีย เพื่อตรวดตราหาความรู้เอามาไช้ไห้เปนประโยชน์แก่ราชการบ้านเมืองก็ได้ เมื่อฉันไปถึงลอนดอน จึงปรึกสาพวกที่เขาชำนาญการเที่ยวเตร่ว่า จะกลับทางไหนดี เขาว่า ฉันยังจะต้องไปตามประเทสต่าง ๆ ไนยุโรปอีกหลายแห่ง กว่าจะเส็ดธุระจะตกถึงปลายเดือนธันวาคม ไปอเมริกาไนเวลานั้นเปนรึดูหนาว ที่ไนอเมริกาหนาวจัดนัก เกรงฉันจะทนไม่ไหว กลับทางอียิปต์และอินเดียดีกว่า เพราะ<noinclude></noinclude> obuldhrefy4xtzzvsashpxvg6by3v6o หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/58 250 55447 188298 176364 2022-07-30T11:16:43Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|43}}</noinclude>เปนเวลาสบเหมาะกับรึดูสำหรับเที่ยวทางนั้น เขาบอกหย่างเดียวกันหลายคน ฉันก็ลงความเห็นเปนยุติว่า จะกลับทางอียิปต์และอินเดีย แต่เมื่อไถ่ถามผู้ที่ชำนาญทางอินเดีย ได้ความแปลกออกไปหย่างหนึ่งว่า การเที่ยวอินเดียไนสมัยนั้นผิดกับเที่ยวไนยุโรปเปนข้อสำคันหลายหย่าง เปนต้นว่า เที่ยวไนยุโรป ถ้ามีเงินพอไช้ ไปถึงไหนก็หาพาหนะและที่กินหยู่ได้ง่าย แต่ไนอินเดียมีโฮเต็ลแต่ไนเมืองไหย่ แม้โฮเต็ลเหล่านั้นก็ไม่สอาดสอ้านและต้องหยู่ปะปนกับผู้คนชั้นต่ำสำส่อน ไม่สบายเหมือนโฮเต็ลไนยุโรป พวกชั้นผู้ดีที่ไปอินเดีย ถ้าเปนข้าราชการ ก็ไปหยู่กับพวกข้าราชการด้วยกัน ถ้ามิไช่ข้าราชการ เขาก็มักไปพักหยู่กับญาติและมิตรที่มีบ้านเรือนเปนหลักแหล่ง มิไคร่มีไครไปหยู่โฮเต็ล อีกประการหนึ่ง เวลาออกจากเมืองไหย่ไปเที่ยวตามเมืองน้อย ถ้าไม่ได้รับความสงเคราะห์ของรัถบาลก็ลำบาก เพราะไม่มีที่พักนอกจากเปนของรัถบาล เมื่อซาบดังนี้ก็ออกวิตก ยังมิรู้ที่จะแก้ไขด้วยประการไดดี ผเอินสมเด็ดพระบรมราชินีนาถวิกตอเรียโปรดไห้ฉันขึ้นไปเฝ้าที่พระราชวังบอล์มอรัลไนสก็อตแลนด์ ซงเลี้ยงกลางวันพระราชทานพร้อมกับพระราชโอรสธิดา เมื่อเสวยเส็ด ควีนสเด็ดขึ้นแล้ว พระเจ้าเอดวาดที่ 7 (เวลานั้นยังเปนปรินซ์ออฟเวลส์ รัชทายาท) {{ตตฉ|ตรด|ตรัด}}ชวนไห้ไปกินกาแฟและสูบบุหรี่ไนห้องที่ประทับของพระองค์ท่าน เมื่อซงสนทนาปราสัย ตรัดถามฉันว่า จะซงทำอะไรไห้เปนประโยชน์แก่ฉันได้บ้าง ฉันนึกขึ้นถึงเรื่องที่จะไปอียิปต์และอินเดีย จึงทูนว่า มีการหย่าง{{ตตฉ|หนึง|หนึ่ง}} ถ้าโปรดซงสงเคราะห์<noinclude></noinclude> e2mx4vvutit33mnzbb8pxvtkpjedscl หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/59 250 55448 188299 176365 2022-07-30T11:19:02Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|44}}</noinclude>ได้ จะเปนประโยชน์แก่ฉันมาก ด้วยขากลับบ้านเมือง ฉันหยากจะแวะดูประเทสอียิปต์และอินเดีย แต่ไม่รู้จักกับไคร ถ้าโปรดตรัดแก่รัถบาลไห้ช่วยสงเคราะห์พอหย่าไห้มีความลำบากเมื่อไปถึงประเทสนั้น ๆ จะเปนพระเดชพระคุนหย่างยิ่ง ท่านตรัดรับว่า จะจัดประทานตามประสงค์ ฉันขอบพระหรึทัยแล้วทูนลามา พระเจ้าเอดวาดที่ 7 ซงทำหย่างไรฉันไม่ซาบ แต่เมื่อไกล้เวลาที่ฉันจะออกจากยุโรป กะซวงการต่างประเทสถามมายังสถานทูตไทยว่า กำหนดฉันจะไปถึงเมืองอาเล็กซานเดรียท่าขึ้นประเทสอียิปต์วันได ได้ซาบก็แน่ไจว่า รัถบาลอังกริดคงสงเคราะห์ตามกะแสรับสั่งของพระเจ้าเอดวาดที่ 7 เมื่อเส็ดราชการไนยุโรปแล้ว ฉันลงเรือที่เมืองบรินดีสี ประเทสอิตาลี พอไปถึงเมืองอาเล็กซานเดรีย กงสุลเยเนราลอังกริดที่เมืองนั้นลงมารับที่ไนเรือ แล้วพาไปส่งสถานีรถไฟ ขึ้นรถไฟไปถึงเมืองไกโร ลอร์ดโครเมอ (ผู้สำเหร็ดราชการอังกริดไนอีปยิปต์) เวลานั้นยังเปนเซอร์เอเวลิน แบริง มาคอยรับหยู่ที่สถานีรถไฟ พาขึ้นรถไปส่งที่โฮเต็ลเชปเหิดส์ อันเปนโฮเต็ลไหย่ที่สำนักของพวกผู้ดีที่ไปเที่ยวอียิปต์ เมื่อถึงโฮเต็ลแล้ว จึงได้ซาบความหย่างประหลาดไจว่า พระเจ้าติวฟิก ซึ่งเปนเคดิฟครองประเทสอียิปต์ (คงได้ซาบจากลอร์ดโครเมอ) โปรดไห้รับเปนแขกเมือง มีราชองครักส์คนหนึ่งมาหยู่ประจำกับฉัน เวลาจะไปไหน ๆ ก็มียานของหลวงจัดมาไห้ไช้ ไนสมัยนั้นยังไม่มีรถยนต์ ไช้รถเทียมม้าคู่มีคนถือแส้วิ่งนำหน้ากับคนสองข้าง ถ้าไปเที่ยวทางทเลซาย เช่น ไปดู<noinclude></noinclude> k7owi6rtxvm4az8mmmc2cm99j9ibag9 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/60 250 55449 188300 176366 2022-07-30T11:22:36Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|45}}</noinclude>เจดีย์ปิรมิด ก็จัดอูถระวางไนผูกเครื่องอานกาไหล่ทองและกำมะหยี่ปักไหมทองมาไห้ขี่ ทั้งมีการเลี้ยงหย่างไหย่ประทานที่ไนวัง เส็ดเลี้ยงพาไปดูละคอนออปะราด้วยครั้งหนึ่ง ทางฝ่ายอังกริด ลอร์ดโครเมอก็มีการเลี้ยง และผู้บันชาการทหานก็พาไปดูทหานซ้อมรบ ทั้งได้ไปดูวัตถุสถานของโบรานที่สำคันแทบทุกแห่ง ฉันพักหยู่ที่เมืองไกโร 4 วัน (ได้พบเจ้าพระยาอภัยราชา โรงลังยัคมินส์ ดังเล่าเปนเรื่องหนึ่งต่างหากต่อไปข้างหน้า) ออกจากเมืองไกโรขึ้นรถไฟไปลงเรือที่เมืองอิสไมเลีย แล่นต่อมาไนคลองสุเอสจนออกทเลแดงทางมาอินเดีย พอลงเรือเมล์ถึงบอมเบ ก็มีข้าราชการอังกริด 2 คนคุมเรือของเจ้าเมืองออกมารับ คนหนึ่งเปนนายพันตรีชื่อ เฮส์ แสดเลอ มาบอกว่า ลอร์ดแลนสดาวน์ ผู้เปนอุปราช (ไวสรอย) ครองอินเดียไห้มาเชินฉันเปนแขกของรัถบาลตลอดเวลาที่หยู่ไนอินเดีย และไห้ตัวเขาเปนผู้มาหยู่ประจำด้วย อีกคนหนึ่งจะเปนตำแหน่งอะไรไนสำนักเจ้าเมืองบอมเบและชื่อไรฉันลืมไปเสียแล้ว มาบอกว่า ลอร์ดแฮริส เจ้าเมืองบอมเบ ไห้เอาเรือมารับ และขอเชินไปพักหยู่นะจวนเจ้าเมืองตลอดเวลาที่ฉันหยู่เมืองบอมเบ ได้ฟังก็ยิ่งประหลาด ด้วยเดิมประสงค์แต่เพียงจะไห้รัถบาลอินเดียช่วยสงเคราะห์พอมิไห้มีความลำบาก แต่จะเที่ยวไนอินเดียด้วยทุนของตนเอง มากลายเปนรับหย่างแขกเมืองซึ่งรัถบาลเลี้ยงดูไห้หยู่กินและจัดพาหนะไห้เที่ยวเตร่ทุกหย่างหมด ก็ต้องขอบพระเดชพระคุนพระเจ้าเอดวาดที่ 7 กับทั้งรัถบาลอังกริดยิ่งขึ้น พอลงเรือหลวงมาถึงท่าขึ้นบก{{วว}}<noinclude></noinclude> s7h0i7h6yzfcbz4xys8q24j4ffbln3b หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/61 250 55450 188301 176367 2022-07-30T11:29:34Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|46}}</noinclude>ปืนไหย่ยิงสลุตรับ 21 นัด แล้วขึ้นรถมีทหานม้าแซงทั้งสองข้างแห่ไปยังบ้านเจ้าเมืองอันหยู่ริมชายทเลที่ปลายแหลม พบลอร์ดแฮริสกับภรรยาคอยรับหยู่ที่นั่น เมื่อถึงบ้านเจ้าเมืองแล้ว ซาบความต่อไปอีกว่า รัถบาลอินเดียได้คิดกะโปรแกรมที่ฉันจะเที่ยวไนอินเดียไว้ไห้ และได้บอกไปตามท้องที่ไห้ซาบล่วงหน้าแล้ว พอฉันถึงเมืองบอมเบ ก็ได้รับโทรเลขของเจ้าประเทสราชหลายองค์ คือ มหาราชาไนสัม ผู้ครองนครไฮเดอรบัด องค์หนึ่ง มหาราชาผู้ครองนครบะโรดา องค์หนึ่ง มหาราชาผู้ครองนครชัยบุระ (เรียกว่า ไชปัว) องค์หนึ่ง มหาราชาผู้ครองนครเบนารีส (คือ เมืองพารานสี) องค์หนึ่ง ล้วนเชินไห้เปนแขกเมือง เมื่อฉันไปประเทสนั้น ๆ ต้องมีโทรเลขตอบรับและขอบพระทัยไปตั้งแต่ยังไม่รู้จักกันทุกพระองค์ ระยะทางที่รัถบาลอินเดียกะไห้ฉันเที่ยวครั้งนั้นออกจากเมืองบอมเบไปเมืองไฮเดอระบัดซึ่งหยู่ข้างฝ่ายไต้ก่อน กลับจากเมืองไฮเดอระบัดย้อนทางมาข้างเหนือผ่านเมืองบอมเบขึ้นไปเมืองบะโรดา เมืองประยาคะแต่โบราน เดี๋ยวนี้เรียกว่า เมืองอะมะดะบัด เมืองชัยบุระ พูเขาอาบู ที่มีวัดไนสาสนาเชน (ชินะ) ทำงามมาก เมืองเดลี เมืองอาครา เมืองพารานสี เมืองคยา แต่แรกเขาไม่กะจะไห้ไปเมืองพุทธคยาเพราะไม่มีที่พัก แต่ฉันอยากจะไปด้วยประสงค์จะไปบูชาเจดียสถานที่พระพุทธเจ้าซงตรัสรู้ เขาจึงเพิ่มลงไนโปรแกรม ออกจากเมืองคยาไปเมืองกาละกัตตาแล้วไปเมืองดาชีลิง (อันตั้งหยู่บนพูเขาหิมาลัย) แล้วกลับมาลงเรือที่เมืองกาละกัตตา มายังเมืองร่างกุ้ง{{วว}}<noinclude></noinclude> 2f4pl1xg7qv0tzg604vp2mjfo8nvzv2 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/62 250 55451 188302 176369 2022-07-30T11:34:38Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|47}}</noinclude>เปนที่สุดเขตประเทสอินเดียเพียงนั้น ฉันเที่ยวหยู่ไนอินเดียเดือนครึ่ง ตอนออกจากเมืองร่างกุ้ง ลงเรือ "เสดถี" ของห้างโกหงวน (สกุล นะระนอง) จัดไปรับกลับมาขึ้นที่เมืองระนอง เดินทางบกข้ามกิ่วกระมาลงเรือหลวงซึ่งออกไปนะเมืองชุมพร กลับมากรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือนมีนาคม พ.ส. 2434 การที่รัถบาลอินเดียต้อนรับหย่างเปนแขกเมืองครั้งนั้นเปนเหตุไห้ฉันได้เห็นอะไรแปลก ๆ ไนอินเดียผิดกับคนท่องเที่ยวสามัญหลายหย่าง โดยฉเพาะตามเมืองที่เปนประเทสราช ด้วยเจ้าผู้ครองมักไห้มีการต่าง ๆ อันนับว่าเปนของควนอวดไนเมืองนั้นไห้ฉันดู หรือว่าหย่างเข้าไจง่าย ๆ ก็ทำนองเดียวกับไทยเรารับเจ้าต่างประเทสนั้นเอง แต่จะเขียนเล่าทุกหย่างไปยืดยาวนัก จะพรรนนาว่าแต่ด้วยเห็นของแปลกซึ่งพ้องกับของที่มีไนเมืองไทยเราโดยได้แบบแผนมาจากอินเดียแต่ดึกดำบรรพอันเปนคติไนทางโบรานคดี {{ก|ชนช้าง|บ=font-size:120%}} ที่เมืองชัยบุระ Jaipure มหาราชาไห้มีการชนช้างไห้ฉันดูที่ไนวัง ราชวังของมหาราชาชัยบุระนั้นไหย่โตมาก มีประตูทางเข้าหลายทาง มนเทียรที่ประทับ ที่ทำพิธี และที่ประพาส ตลอดจนโรงช้างต้นม้าต้น และสนามที่ฝึกหัดช้างม้า หยู่ไนบริเวนราชวังทั้งนั้น วันแรก ฉันไปเฝ้ามหาราชา เข้าทางประตูหนึ่งไปยังที่ท้องพระโรง มหาราชาตรัดภาสา<noinclude></noinclude> 6ps3r6do59nygvdcop9o27kulgz1vds 188308 188302 2022-07-30T11:58:03Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|47}}</noinclude>เปนที่สุดเขตประเทสอินเดียเพียงนั้น ฉันเที่ยวหยู่ไนอินเดียเดือนครึ่ง ตอนออกจากเมืองร่างกุ้ง ลงเรือ "เสดถี" ของห้างโกหงวน (สกุล นะระนอง) จัดไปรับกลับมาขึ้นที่เมืองระนอง เดินทางบกข้ามกิ่วกระมาลงเรือหลวงซึ่งออกไปนะเมืองชุมพร กลับมากรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือนมีนาคม พ.ส. 2434 การที่รัถบาลอินเดียต้อนรับหย่างเปนแขกเมืองครั้งนั้นเปนเหตุไห้ฉันได้เห็นอะไรแปลก ๆ ไนอินเดียผิดกับคนท่องเที่ยวสามัญหลายหย่าง โดยฉเพาะตามเมืองที่เปนประเทสราช ด้วยเจ้าผู้ครองมักไห้มีการต่าง ๆ อันนับว่าเปนของควนอวดไนเมืองนั้นไห้ฉันดู หรือว่าหย่างเข้าไจง่าย ๆ ก็ทำนองเดียวกับไทยเรารับเจ้าต่างประเทสนั้นเอง แต่จะเขียนเล่าทุกหย่างไปยืดยาวนัก จะพรรนนาว่าแต่ด้วยเห็นของแปลกซึ่งพ้องกับของที่มีไนเมืองไทยเราโดยได้แบบแผนมาจากอินเดียแต่ดึกดำบรรพอันเปนคติไนทางโบรานคดี {{ลห|ร1|ชนช้าง}} ที่เมืองชัยบุระ Jaipure มหาราชาไห้มีการชนช้างไห้ฉันดูที่ไนวัง ราชวังของมหาราชาชัยบุระนั้นไหย่โตมาก มีประตูทางเข้าหลายทาง มนเทียรที่ประทับ ที่ทำพิธี และที่ประพาส ตลอดจนโรงช้างต้นม้าต้น และสนามที่ฝึกหัดช้างม้า หยู่ไนบริเวนราชวังทั้งนั้น วันแรก ฉันไปเฝ้ามหาราชา เข้าทางประตูหนึ่งไปยังที่ท้องพระโรง มหาราชาตรัดภาสา<noinclude></noinclude> s6h8ab1ws7hrmzyugoql8ljnvlwemi2 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/63 250 55452 188303 176370 2022-07-30T11:42:16Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|48}}</noinclude>อังกริดคล่อง ไม่ต้องมีล่าม แต่ต้อนรับตามประเพนีฝรั่ง วันรุ่งขึ้น ไปดูชนช้าง เข้าวังทางประตูอื่น ลงจากรถก็ถึงบันไดเชิงเทินก่อถมดินเหมือนหย่างเชิงเทินที่พเนียดคล้องช้างนะพระนครสรีอยุธยา เดินไปตามทางบนเชิงเทินนั้น ดูข้างด้านไนที่เปนที่เลี้ยงช้างทั้งนั้น ช้างหยู่ไนโรงยาวก็มี หยู่ไนคอกฉเพาะตัวก็มี เห็นช้างตัวหนึ่งหยู่ไนคอกมีโซ่ล่ามทั้ง 4 เท้า แยกปลายโซ่ไปผูกไว้กับเสาหมอสายละต้น เขาบอกว่า เปนช้างตกน้ำมัน และว่า เวลาช้างตัวไดตกน้ำมัน ก็เอาโซ่ล่ามไว้เช่นนั้นจนหายตกน้ำมันจึงเอาไปเลี้ยงหย่างปรกติตามเดิม เดินบนเชิงเทินต่อไปอีกหน่อยหนึ่งถึงหัวเลี้ยวเปนด้านสกัด มีสนามไหย่หย่างเราเรียกว่า "สนามชัย" หยู่ข้างหน้าพลับพลาที่มหาราชาทอดพระเนตรหยู่บนเชิงเทินด้านสกัดนั้น ตรงหน้าเชิงเทินลงไปมีกำแพงแก้วก่ออิถถือปูนแถวหนึ่งสูงขนาดพอเสมอไต้ตาคนยืนและทำช่องไห้คนลอดได้หลายทาง มีพวกกรมช้างหยู่ไนกำแพงแก้วนั้นหลายคน พอพวกเรานั่งที่บนพลับพลาเรียบร้อยแล้ว สักประเดี๋ยวก็เห็นคนขี่ม้าแต่งกายหย่างนายทหานอินเดียคนหนึ่งถือแพนเปนไม้ลำยาวสักเท่าทวนมีพู่ผูกข้างปลาย ล่อช้างพลายตัวหนึ่งวิ่งเหย่า ๆ ไล่ม้ามา เปนช้างงาสูงราว 5 สอกเสส หลังเปล่าไม่มีคนขี่ มีแต่ผ้าสักหลาดสีแดงผืนไหย่ผูกคลุมหลังผืนหนึ่งเท่านั้น ขนะนั้น มีนายทหานขี่ม้าถือแพนอีกคนหนึ่งล่อช้างพลายอีกตัวหนึ่งแต่งหย่างตัวก่อนเข้าสนามมาทางด้านข้างซ้าย แต่พอช้างสองตัวนั้นแลเห็นกันก็ผละจากม้าวิ่งตรงเข้าชนกัน ชนหยู่เพียงสัก<noinclude></noinclude> 4e8bdyfej648fd008cr3k0i986cno95 188305 188303 2022-07-30T11:45:05Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|48}}</noinclude>อังกริดคล่อง ไม่ต้องมีล่าม แต่ต้อนรับตามประเพนีฝรั่ง วันรุ่งขึ้น ไปดูชนช้าง เข้าวังทางประตูอื่น ลงจากรถก็ถึงบันไดเชิงเทินก่อถมดินเหมือนหย่างเชิงเทินที่พเนียดคล้องช้างนะพระนครสรีอยุธยา เดินไปตามทางบนเชิงเทินนั้น ดูข้างด้านไนที่เปนที่เลี้ยงช้างทั้งนั้น ช้างหยู่ไนโรงยาวก็มี หยู่ไนคอกฉเพาะตัวก็มี เห็นช้างตัวหนึ่งหยู่ไนคอกมีโซ่ล่ามทั้ง 4 เท้า แยกปลายโซ่ไปผูกไว้กับเสาหมอสายละต้น เขาบอกว่า เปนช้างตกน้ำมัน และว่า เวลาช้างตัวไดตกน้ำมัน ก็เอาโซ่ล่ามไว้เช่นนั้นจนหายตกน้ำมันจึงเอาไปเลี้ยงหย่างปรกติตามเดิม เดินบนเชิงเทินต่อไปอีกหน่อยหนึ่งถึงหัวเลี้ยวเปนด้านสกัด มีสนามไหย่หย่างเราเรียกว่า "สนามชัย" หยู่ข้างหน้าพลับพลาที่มหาราชาทอดพระเนตรหยู่บนเชิงเทินด้านสกัดนั้น ตรงหน้าเชิงเทินลงไปมีกำแพงแก้วก่ออิถถือปูนแถวหนึ่งสูงขนาดพอเสมอไต้ตาคนยืนและทำช่องไห้คนลอดได้หลายทาง มีพวกกรมช้างหยู่ไนกำแพงแก้วนั้นหลายคน พอพวกเรานั่งที่บนพลับพลาเรียบร้อยแล้ว สักประเดี๋ยวก็เห็นคนขี่ม้าแต่งกายหย่างนายทหานอินเดียคนหนึ่งถือแพนเปนไม้ลำยาวสักเท่าทวนมีพู่ผูกข้างปลาย ล่อช้างพลายตัวหนึ่งวิ่งเหย่า ๆ ไล่ม้ามา เปนช้างงาสูงราว 5 สอกเสส หลังเปล่าไม่มีคนขี่ มีแต่ผ้าสักหลาดสีแดงผืนไหย่ผูกคลุมหลังผืนหนึ่งเท่านั้น ขนะนั้น มีนายทหานขี่ม้าถือแพนอีกคนหนึ่งล่อช้างพลายอีกตัวหนึ่งแต่งหย่างตัวก่อนเข้าสนามมาทางด้านข้างซ้าย แต่พอช้างสองตัวนั้นแลเห็นกันก็ผละจากม้าวิ่งตรงเข้าชนกัน ชนหยู่เพียงสัก{{วว}}<noinclude></noinclude> 8usbbsyji86ylrqslefc1cacuqjur1k หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/64 250 55453 188304 176371 2022-07-30T11:44:07Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Praesideo" />{{ก|49}}</noinclude>สองนาที เผอิญงาช้างตัวหนึ่งหักสะบั้น ผู้อำนวยการเห็นก็ถามฉันทันทีว่า จะโปรดไห้หยุดหรือยัง ฉันเข้าไจว่าเขาอยากไห้หยุด ก็ตอบว่า หยุดเถิด แต่ยังนึกฉงนว่า เขาจะห้ามช้างหย่างไร เห็นเขาโบกมือไห้สัญญา พวกกรมช้างที่แอบหยู่ไนกำแพงแก้วก็จุดดอกไม้ไฟหย่างไฟพเนียงมีด้ามถือวิ่งตรงเข้าไปที่ช้าง ช้างกลัวไฟก็เลิกชนวิ่งหนีแยกกันไป พอช้างสองตัวไปห่างแล้ว คนก็ขี่ม้าเข้าไปเอาแพนล่อพาช้างกลับไปโรงทั้งสองตัว ได้ดูชนกันครู่เดียว ผู้อำนวยการเขาบอกไห้ซาบเมื่อพายหลังว่า ธัมดาช้างชนนั้น ถ้าตัวไหนชนแพ้ครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่สู้ช้างอีกต่อไป เห็นช้างตัวงาหักเสียที กลัวจะเลยเสียช้าง จึงได้ขอไห้รีบเลิกเสีย ฉันได้ดูชนช้างที่ชัยบุระแม้ดูเพียงครู่เดียวก็สนุกจับไจ ด้วยเปนการหย่างหนึ่งไนตำราคชสาสตรแต่ดึกดำบรรพซึ่งชาวอินเดียเขายังรักสามา เปนแต่มาแปลงเปนการกีลาไนสมัยเมื่อเลิกไช้ช้างรบพุ่งแล้ว ไทยเราก็มีวิชาคชสาสตรคล้ายกับชาวอินเดียดังจะพรรนนาไนนิทานเรื่องอื่นต่อไปข้างหน้า {{ก|รือสีดัดตน|บ=font-size:120%}} วันหนึ่ง เขาพาฉันไปดูพิพิธภันทสถานของเมืองชัยบุระ ไปเห็นรูปปั้นเปนรือสีหย่างไนอินเดีย ทำท่าต่าง ๆ เหมือนหย่างรูปรือสีดัดตนไนวัดพระเชตุพนฯ แต่ขนาดย่อม ๆ ตั้งเรียงไว้ไนตู้ไบหนึ่ง ที่จิงควนฉันจะถามเขาว่า รูปอะไร แต่ฉันไปอวดรู้ถามเขาว่า รูปเหล่านั้นเปนแบบ<noinclude>{{ข|7|4em}}</noinclude> p6zapqn600c3xrp61494meq3rkymrbl 188306 188304 2022-07-30T11:57:10Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|49}}</noinclude>2 นาที เผอิญงาช้างตัวหนึ่งหักสะบั้น ผู้อำนวยการเห็นก็ถามฉันทันทีว่า จะโปรดไห้หยุดหรือยัง ฉันเข้าไจว่า เขาหยากไห้หยุด ก็ตอบว่า หยุดเถิด แต่ยังนึกฉงนว่า เขาจะห้ามช้างหย่างไร เห็นเขาโบกมือไห้สัญญา พวกกรมช้างที่แอบหยู่ไนกำแพงแก้วก็จุดดอกไม้ไฟหย่างไฟพเนียงมีด้ามถือวิ่งตรงเข้าไปที่ช้าง ช้างกลัวไฟก็เลิกชนวิ่งหนีแยกกันไป พอช้างสองตัวไปห่างแล้ว คนก็ขี่ม้าเข้าไปเอาแพนล่อพาช้างกลับไปโรงทั้งสองตัว ได้ดูชนกันครู่เดียว ผู้อำนวยการเขาบอกไห้ซาบเมื่อพายหลังว่า ธัมดาช้างชนนั้น ถ้าตัวไหนชนแพ้ครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่สู้ช้างอีกต่อไป เห็นช้างตัวงาหักเสียที กลัวจะเลยเสียช้าง จึงได้ขอไห้รีบเลิกเสีย ฉันได้ดูชนช้างที่ชัยบุระแม้ดูเพียงครู่เดียวก็สนุกจับไจ ด้วยเปนการหย่างหนึ่งไนตำราคชสาสตรแต่ดึกดำบรรพซึ่งชาวอินเดียเขายังรักสามา เปนแต่มาแปลงเปนการกิลาไนสมัยเมื่อเลิกไช้ช้างรบพุ่งแล้ว ไทยเราก็มีวิชาคชสาสตรคล้ายกับชาวอินเดียดังจะพรรนนาไนนิทานเรื่องอื่นต่อไปข้างหน้า {{ก|รือสีดัดตน|บ=font-size:120%}} วันหนึ่ง เขาพาฉันไปดูพิพิธภันทสถานของเมืองชัยบุระ ไปเห็นรูปปั้นเปนรือสีหย่างไนอินเดีย ทำท่าต่าง ๆ เหมือนหย่างรูปรือสีดัดตนไนวัดพระเชตุพนฯ แต่ขนาดย่อม ๆ ตั้งเรียงไว้ไนตู้ไบหนึ่ง ที่จิงควนฉันจะถามเขาว่า รูปอะไร แต่ฉันไปอวดรู้ถามเขาว่า รูปเหล่านั้นเปนแบบ<noinclude>{{ข|7|4em}}</noinclude> nm5sjr9t1l4ev92nkhnr7ywefs0owbc 188307 188306 2022-07-30T11:57:38Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|49}}</noinclude>2 นาที เผอิญงาช้างตัวหนึ่งหักสะบั้น ผู้อำนวยการเห็นก็ถามฉันทันทีว่า จะโปรดไห้หยุดหรือยัง ฉันเข้าไจว่า เขาหยากไห้หยุด ก็ตอบว่า หยุดเถิด แต่ยังนึกฉงนว่า เขาจะห้ามช้างหย่างไร เห็นเขาโบกมือไห้สัญญา พวกกรมช้างที่แอบหยู่ไนกำแพงแก้วก็จุดดอกไม้ไฟหย่างไฟพเนียงมีด้ามถือวิ่งตรงเข้าไปที่ช้าง ช้างกลัวไฟก็เลิกชนวิ่งหนีแยกกันไป พอช้างสองตัวไปห่างแล้ว คนก็ขี่ม้าเข้าไปเอาแพนล่อพาช้างกลับไปโรงทั้งสองตัว ได้ดูชนกันครู่เดียว ผู้อำนวยการเขาบอกไห้ซาบเมื่อพายหลังว่า ธัมดาช้างชนนั้น ถ้าตัวไหนชนแพ้ครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่สู้ช้างอีกต่อไป เห็นช้างตัวงาหักเสียที กลัวจะเลยเสียช้าง จึงได้ขอไห้รีบเลิกเสีย ฉันได้ดูชนช้างที่ชัยบุระแม้ดูเพียงครู่เดียวก็สนุกจับไจ ด้วยเปนการหย่างหนึ่งไนตำราคชสาสตรแต่ดึกดำบรรพซึ่งชาวอินเดียเขายังรักสามา เปนแต่มาแปลงเปนการกิลาไนสมัยเมื่อเลิกไช้ช้างรบพุ่งแล้ว ไทยเราก็มีวิชาคชสาสตรคล้ายกับชาวอินเดียดังจะพรรนนาไนนิทานเรื่องอื่นต่อไปข้างหน้า {{ลห|ร2|รือสีดัดตน}} วันหนึ่ง เขาพาฉันไปดูพิพิธภันทสถานของเมืองชัยบุระ ไปเห็นรูปปั้นเปนรือสีหย่างไนอินเดีย ทำท่าต่าง ๆ เหมือนหย่างรูปรือสีดัดตนไนวัดพระเชตุพนฯ แต่ขนาดย่อม ๆ ตั้งเรียงไว้ไนตู้ไบหนึ่ง ที่จิงควนฉันจะถามเขาว่า รูปอะไร แต่ฉันไปอวดรู้ถามเขาว่า รูปเหล่านั้นเปนแบบ<noinclude>{{ข|7|4em}}</noinclude> j71rsdvh5lpskk9tl68ey1nnu456slu สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย 100 55864 188213 186261 2022-07-30T05:58:38Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{portal header | title = {{PAGENAME}} | class = r | subclass1 = z | shortcut = | reviewed = | notes = | portal = ประเทศไทย }} [[File:(The Official Site of The Prime Minister of Thailand Photo by พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์) - Flickr - Abhisit Vejjajiva (21).jpg|thumb|หม้อยาไทย]] __TOC__ ==ตำรา== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ตำรารักษาแผลต่อไป|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปง|ตำรายาเกร็ดประจำบ้าน|พระซำ อินทสุวัณโณ|2506}} {{ลฟใน|ตำรายาเกร็ด - ๒๕๐๖.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาเกล็ด||2513}} {{ลฟใน|ตำรายาเกร็ด - ๒๕๑๓.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาไทย||2485}} {{ลฟใน|ตำรายาไทย - ๒๔๘๕.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาแผนโบราณ||2506}} {{ลฟใน|ตำรายาแผนฯ - ๒๕๐๖.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาพิเศษ||2498}} {{ลฟใน|ตำรายาพิเศษ - ๒๔๙๘.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาหมอกลางบ้าน||2492}} {{ลฟใน|ตำรายากลางบ้าน - ๒๔๙๒.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาหัวกวาวเครือ|เปลี่ยน กิติศรี|2475}} {{ลฟใน|ตำรายากวาวเครือ - สุ่นฮี้ ชุติมา - ๒๔๗๕.pdf}} * {{ลปง|ตำราสรรพคุณยา|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท|2465}} {{ลฟใน|ตำรายา - วงศาธิราชสนิท - ๒๔๖๕.pdf}} * {{ลปง|ตำราโอสถพระนารายน์||2460}} {{ลฟใน|ตำราโอสถนารายณ์ - ๒๔๖๐.pdf}} * {{ลปง|ตำหรับยาประจำตัวของคุณแม่||2503}} {{ลฟใน|ตำรับยาแม่ - ๒๕๐๓.pdf}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||น้ำฌะแผลทั้งปวง|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปง|สยามแพทยศาสตร์||2467}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 10|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||ความไข้ที่เมืองเพชรบูรน์}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 12|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||ตั้งโรงพยาบาล}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4/เรื่องที่ 1|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์|2462|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4||เรื่องแพทย์หมอ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 4}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๔) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4/เรื่องที่ 2|พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ|2462|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4||เวชชปุจฉา|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 4}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๔) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 13|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||อนามัย}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} ==พิธีกรรม== * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8/เรื่องที่ 1||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8||พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราช|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 8}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8/เรื่องที่ 2||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8||พระราชพิธีอาพาธพินาศ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 8}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศไทย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยแพทยศาสตร์]] 166473f6sqowsjyh6ec03vvp80vc4w7 188215 188213 2022-07-30T06:01:22Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{portal header | title = {{PAGENAME}} | class = r | subclass1 = z | shortcut = | reviewed = | notes = | portal = ประเทศไทย }} [[File:(The Official Site of The Prime Minister of Thailand Photo by พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์) - Flickr - Abhisit Vejjajiva (21).jpg|thumb|หม้อยาไทย]] __TOC__ ==ตำรา== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||การปลูกฝีให้สำเร็จในสยาม|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ตำรารักษาแผลต่อไป|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปง|ตำรายาเกร็ดประจำบ้าน|พระซำ อินทสุวัณโณ|2506}} {{ลฟใน|ตำรายาเกร็ด - ๒๕๐๖.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาเกล็ด||2513}} {{ลฟใน|ตำรายาเกร็ด - ๒๕๑๓.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาไทย||2485}} {{ลฟใน|ตำรายาไทย - ๒๔๘๕.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาแผนโบราณ||2506}} {{ลฟใน|ตำรายาแผนฯ - ๒๕๐๖.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาพิเศษ||2498}} {{ลฟใน|ตำรายาพิเศษ - ๒๔๙๘.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาหมอกลางบ้าน||2492}} {{ลฟใน|ตำรายากลางบ้าน - ๒๔๙๒.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาหัวกวาวเครือ|เปลี่ยน กิติศรี|2475}} {{ลฟใน|ตำรายากวาวเครือ - สุ่นฮี้ ชุติมา - ๒๔๗๕.pdf}} * {{ลปง|ตำราสรรพคุณยา|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท|2465}} {{ลฟใน|ตำรายา - วงศาธิราชสนิท - ๒๔๖๕.pdf}} * {{ลปง|ตำราโอสถพระนารายน์||2460}} {{ลฟใน|ตำราโอสถนารายณ์ - ๒๔๖๐.pdf}} * {{ลปง|ตำหรับยาประจำตัวของคุณแม่||2503}} {{ลฟใน|ตำรับยาแม่ - ๒๕๐๓.pdf}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||น้ำฌะแผลทั้งปวง|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปง|สยามแพทยศาสตร์||2467}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 10|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||ความไข้ที่เมืองเพชรบูรน์}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 12|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||ตั้งโรงพยาบาล}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4/เรื่องที่ 1|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์|2462|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4||เรื่องแพทย์หมอ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 4}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๔) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4/เรื่องที่ 2|พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ|2462|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4||เวชชปุจฉา|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 4}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๔) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 13|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||อนามัย}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} ==พิธีกรรม== * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8/เรื่องที่ 1||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8||พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราช|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 8}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8/เรื่องที่ 2||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8||พระราชพิธีอาพาธพินาศ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 8}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศไทย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยแพทยศาสตร์]] j9nidn74gnycvlqernx0ksl89lanod4 188238 188215 2022-07-30T06:48:12Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{portal header | title = {{PAGENAME}} | class = r | subclass1 = z | shortcut = | reviewed = | notes = | portal = ประเทศไทย }} [[File:(The Official Site of The Prime Minister of Thailand Photo by พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์) - Flickr - Abhisit Vejjajiva (21).jpg|thumb|หม้อยาไทย]] __TOC__ ==ตำรา== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||การปลูกฝีให้สำเร็จในสยาม|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ตำรารักษาแผลต่อไป|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปง|ตำรายาเกร็ดประจำบ้าน|พระซำ อินทสุวัณโณ|2506}} {{ลฟใน|ตำรายาเกร็ด - ๒๕๐๖.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาเกล็ด||2513}} {{ลฟใน|ตำรายาเกร็ด - ๒๕๑๓.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาไทย||2485}} {{ลฟใน|ตำรายาไทย - ๒๔๘๕.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาแผนโบราณ||2506}} {{ลฟใน|ตำรายาแผนฯ - ๒๕๐๖.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาพิเศษ||2498}} {{ลฟใน|ตำรายาพิเศษ - ๒๔๙๘.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาหมอกลางบ้าน||2492}} {{ลฟใน|ตำรายากลางบ้าน - ๒๔๙๒.pdf}} * {{ลปง|ตำรายาหัวกวาวเครือ|เปลี่ยน กิติศรี|2475}} {{ลฟใน|ตำรายากวาวเครือ - สุ่นฮี้ ชุติมา - ๒๔๗๕.pdf}} * {{ลปง|ตำราสรรพคุณยา|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท|2465}} {{ลฟใน|ตำรายา - วงศาธิราชสนิท - ๒๔๖๕.pdf}} * {{ลปง|ตำราโอสถพระนารายน์||2460}} {{ลฟใน|ตำราโอสถนารายณ์ - ๒๔๖๐.pdf}} * {{ลปง|ตำหรับยาประจำตัวของคุณแม่||2503}} {{ลฟใน|ตำรับยาแม่ - ๒๕๐๓.pdf}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 4||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||น้ำฌะแผลทั้งปวง|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปง|สยามแพทยศาสตร์||2467}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 10|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||ความไข้ที่เมืองเพชรบูรน์}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 12|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||ตั้งโรงพยาบาล}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4/เรื่องที่ 1|พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์|2462|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4||เรื่องแพทย์หมอ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 4}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๔) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4/เรื่องที่ 2|พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ|2462|ลัทธิธรรมเนียมภาคต่าง ๆ/ภาคที่ 4||เวชชปุจฉา|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 4}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๔) - ๒๔๖๒.pdf}} * {{ลปงย|นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 13|สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ|2487|นิทานโบรานคดี||อนามัย}} {{ลฟใน|นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf}} ==พิธีกรรม== * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8/เรื่องที่ 1||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8||พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราช|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 8}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8/เรื่องที่ 2||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 8||พระราชพิธีอาพาธพินาศ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 8}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศไทย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยแพทยศาสตร์]] oor5ttcq35adxpwlevbcd2u2kczpt8u หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3 0 57034 188219 186231 2022-07-30T06:09:50Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 1]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 3. ข่าวต่าง ๆ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 2|2.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = ประเทศ }} {{สบช| : {{ตลล|ส-ข0|ข่าวต่าง ๆ|ข0}} :# {{ตลล|ส-ข1|เสือเมืองใหม่|ข1}} :# {{ตลล|ส-ข2|งาใหญ่|ข2}} :# {{ตลล|ส-ข3|จีนกระบท|ข3}} :# {{ตลล|ส-ข4|น้ำทว่ม|ข4}} :# {{ตลล|ส-ข5|กำปั่นแตก|ข5}} :# {{ตลล|ส-ข6|น้ำตานทราย|ข6}} :# {{ตลล|ส-ข7|เฮาควา|ข7}} :# {{ตลล|ส-ข8|คำสุภาสิต|ข8}} }} ---- <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="3" fromsection="3-2" to="4" tosection="4-1"/> fs343mjli3y2zsk9aj48dvumz28adp8 หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4 0 57035 188209 186161 2022-07-30T05:49:22Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 1]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = ตอนที่ 1 ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง | ก่อน = | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3|ตอนที่ 2]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="4" fromsection="4-2" to="5" tosection="5-1"/> 30tsflxuvfuvp1q2z9idbrl5e0n4h29 188210 188209 2022-07-30T05:49:44Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 1]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 1. ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง | ก่อน = | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3|2.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="4" fromsection="4-2" to="5" tosection="5-1"/> 6wozxfv4uszkeins4g9p2ahlxxzek5d 188237 188210 2022-07-30T06:47:47Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 1]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 1. ตำราขี้ผึ้งปิดแผลทั้งปวง | ก่อน = | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 4|2.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="4" fromsection="4-2" to="5" tosection="5-1"/> gus4x2lw9a2dlri770tou4g5my06i2d หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 5 0 57036 188232 186230 2022-07-30T06:36:39Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 1]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 5. ราคาสินค้าเมืองใหม่ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | ถัดไป = | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:ประเทศสิงคโปร์|ราคาสินค้าเมืองใหม่]] | ชื่อ = ฉบับที่ 1 | ก่อน = | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5|2.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="5" onlysection="5-2"/> 4lx9a7mg50mrss2gclgzd6x9d146iru สถานีย่อย:อุตุนิยมวิทยา 100 57037 188218 186165 2022-07-30T06:08:16Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{portal header | title = {{PAGENAME}} | class = q | subclass1 = c | reviewed = | portal = | shortcut = | notes = | commonscat = Meteorology | wikipedia = {{PAGENAME}} }} [[File:Mai-Khao-Beach Phuket Tsunami-warning-siren-01.jpg|thumb|เสาสัญญาณภัยพิบัติ จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย]] ==งาน== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 2|แดน บีช แบรดลีย์|2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||ตำราไฟฟ้า|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 1|แดน บีช แบรดลีย์|2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ตำราลมอากาษ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อยวิทยาศาสตร์]] dim84qk20nk1f3i11p2vj4mjamnobja สถานีย่อย:ประเทศสิงคโปร์ 100 57038 188235 187195 2022-07-30T06:46:54Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=Singapore|หมายเหตุ=ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ฃ่าวเมืองซิงกะโประ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 5||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||ราคาสินค้าเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ราคาสินค้าเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 5||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ราคาสินค้าเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||เสือเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สิงคโปร์]] akb441ukvdo2t0tiickmr82t1opapmt 188242 188235 2022-07-30T06:49:56Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=Singapore|หมายเหตุ=ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ฃ่าวเมืองซิงกะโประ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 5||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||ราคาสินค้าเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ราคาสินค้าเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 5||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ราคาสินค้าเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1||เสือเมืองใหม่|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 1}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สิงคโปร์]] 2d271goz1g63qoq5cjap4y23ryw04rh หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/6 250 57042 188226 186221 2022-07-30T06:28:55Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="6-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder.}}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1}} เล่ม ๑. บังกอก เดือนแปดทุติยาสาตร์ จุลศักราช ๑๒๐๖ {{พญ|August, 1844.}}|คริศศักราช ๑๘๔๔.|ใบ ๒. No. 2.}} {{สต}} {{สต}} หนังสือฃ่าวนี้ตีภิมหน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ที่บ้านพวกครูอเมริกาอาไศรย. ตีเดือนละแผ่น, คือ ปีหนึ่งสิบสองแผ่น. ราคา, ถ้าซื้อเปนปี, ก็เปนบาทหนึ่ง. ถ้าซื้อเปนแผ่น, ก็เปนแผ่นละเฟื้อง. คนที่ซื้อทั้งปี จะให้เงินเมื่อได้แผ่นที่หนึ่งก็ได้, จะให้เงินเมื่อถึงแผ่นที่หกก็ได้, ตามแต่ใจผู้ซื้อ. {{สกอ|sp|100}} <section end="6-1" /> <section begin="6-2" />{{ก|ภาษาไทภาษาคัมตีเทียบกัน.{{ชว}}Siamese and Khamti compared.}} ตั้งแต่ปีนี้ลว่งไปได้เจดปีแปดปีแล้ว, มีอังกฤษอยู่ในเมืองกาลกัตตาพวกหนึ่ง, มีจิตร์ปราถนาจะใครรู้ว่า ภาษาพูดที่ภาษาต่าง ๆ นั้น, จะพูดถูกกันผิดกันเปนคำมากนอ้ยศักเท่าใด. เขาจะใค่รรู้ดั่งนี้ จึ่งแต่งหนังสือคำพูด, มีชื่อศักหกสิบชื่อ, เปนชื่อของซึ่งมีอยู่ทุกเมือง. เขาจึ่งจำลองหนังสือคำพูดนั้นเปนหลายฉะบัพ, ฝากไปถึงอังกฤษซึ่งอาไศรยอยู่ในเมืองพม่า เมืองไท เมืองยวน เมืองจีน แลเมืองอื่น ๆ หลายเมือง, ปราถนาจะให้เขาเอาคำหกสิบคำนี้แปลออกเปนคำภาษาต่าง ๆ, แต่ทว่า ให้เขาเฃียนเปนอักษรอังกฤษ. ครั้นได้หนังสือแปลคำภาษาต่าง ๆ นับได้ยี่สิบเก้าภาษาแล้ว, ก็จัดเรียงกันไว้เปนแถว ๆ ได้ยี่สิบเก้าแถว, แล้วก็ตีภิมแจกกันไป. หนังสือนั้นก็มีอยู่แก่พวกครูอเมริกาซึ่งมาอาไศรยอยู่ในเมืองนี้. เมื่อตรึกตรองดูในหนังสือคำพูดยี่สิบเก้าภาษานั้น, ก็เหนว่า มีสองภาษาคำพูดนั้นคล้ายกันนัก, คือ ภาษาไทแลภาษาคัมตี. ภาษาคัมตีนั้น, คือ คนอาไศรยอยู่ใก้ลเมืองอาซัม, อยู่ทิศเหนือแห่งเมืองพม่านั้น. ที่นี้ จะเอาคำหกสิบคำในภาษาไท ภาษาคัมตี, เฃียนเรียงกันเปนคู่ ๆ กัน, ดว้ยปราถนาจะให้ท่านทั้งปวงเหนว่า ภาษาคำพูดสองภาษานั้นจะถูกกันผิดกันเปนคำศักขี่คำ. คำกอ่นนั้นเปนภาษาไท, คำทีหลังนั้นเปนภาษาคัมตี. ลม ลุม, มด มุด, ลูกสอน เลมปืน, นก นก, เลือด เลอืด, เรือ เฮอื, กระดูก นูก, ควาย ควาย, แมว มีว, งัว โง, กา กา, วัน วัน, หมา หมา, หู หู, ดิน ลังนิน, ไข่ ไฃ, ข้าง ตซ้าง, ตา ตา, พ่อ พ่อ, ไฟ ไฟ, ปลา ปา, ดอกไม้ มอก, ตีน ตีน, แพะ แพะ, ผม ผุม, มือ มือ, หัว โห, หมู หมู, เขา เขา, ม้า ม้า, เรือน เฮอืน, เหลก เหลก, ไบไม้ มาอื, แสง แลง, คน คุน, ลิ้ง ลิง, เดือน เลอืน, แม่ แม, ภูเฃา นอย, ปาก ปาก, ยุ้ง ยูง, ชื่อ ตซือ, คืน คืน, น้ำมัน น้ำมัน, กล้วย กวย, แม่น้ ำแม่น้ำ, ทาง ทาง, เกลือ เกือ, หนัง หนัง, ฟ้า ฟ้า, งู งู, ดาว นาว, หิน หิน, ตะวัน วัน, เสือ เสือ, ฟัน เคียว, ต้นไม้ ตุน, น้ำ น้ำ, บ้าน มาน, หัวมัน โหมัน. {{สกอ|sp|100}} <section end="6-2" /> <section begin="6-3" />{{ก|ราคากำปั่นไฟ.{{ชว}}Price of Steamboats.}} ในเมืองกาละกัตตานั้น, มีพ่อค้าพวกหนึ่งคิดปฤกษากันว่า จะซื้อกำปั่นไฟหลายลำ, สำหรับจะได้จ้างเขาลากเรือในแม่น้ำคงคา. คิดพร้อมกันแล้ว, จึ่งจัดแจงให้พ่อค้าสองสามคนไปเที่ยวสืบราคากำปั่นไฟ, ดว้ยจะไค่รรู้ว่า จะซื้อกำปั่นไฟมาจ้างเขาลากเรือนั้นจะมีกำไรหฤๅ ๆ ไม่มีกำไร. ครั้นถึงปีเถาะ เดือนญี่นั้น, พ่อค้าสองสามคนนั้นสืบได้ราคาแล้ว, ก็เอาราคานั้นมาบอกแก่พ่อค้าทั้งปวง. ราคากำปั่นไฟนั้น เราจะว่าต่อไปข้างหน้านี้. ความว่า มีกำปั่นไฟลำหนึ่งยาว ๙๐ ศอก, กว้าง ๑๕ ศอก, ไช้เครื่องไฟเปนกำลังม้าได้ ๑๒๐ ม้า, กำปั่นนั้นมีหอ้งสอาดที่สำหรับคนเดินสานอาไศรยหลายหอ้ง, แลมีที่จะบันทุกสิ่งต่าง ๆ จุได้ถึง ๒๑๘๘ หาบ. แลกำปั่นลำนั้น, เมื่อซื้อมาแต่เมืองอังกฤษ, เปนแต่ตัวไม้ ยังไม่ได้ต่อเปนกำปั่น, ทั้งซื้อไม้ทั้งจ้างบันทุกไม้มาแต่เมืองอังกฤษนั้น, เปนราคาเงินถึง ๒๘๐๐๐ รูเปีย. ราคาค่าจ้างทำกำปั่นไม้ที่ซื้อมาแต่เมืองอังกฤษนั้น, เปนเงินจ้างถึง ๒๕๐๐ รูเปีย. ราคาที่{{ตตฉ|ชื้อ}}ไม้แลราคาที่จ้างต่อไม้ที่ซื้อในเมืองกาละกัตตาใส่อีก, นั้นเปนเงินถึง ๑๐๐๐๐ รูเปีย. ราคาเครื่องไฟสำหรับกำปั่นลำนั้นเปนราคาซื้อถึง ๓๐๐๐๐ รูเปีย. ราคากำปั่นลำ<section end="6-3" /><noinclude></noinclude> rwc239aw9h6trzm3dtieagn7q6jaejv หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/7 250 57043 188227 186220 2022-07-30T06:29:56Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|6|1}}</noinclude><section begin="7-1" />นั้นคิดเปนเสจ์, ทั้งค่าจ้างต่าง ๆ, ทั้งต่อ, ทั้งค่าไม้, จนแล้วลงอยู่ในน้ำ, เปนราคาเงินถึง ๗๐๕๐๐ รูเปีย. รูเปียหนึ่งนั้น, ถ้าแม้นจะคิดเปนสามสลึงเงินไท, เจ๊ดหมื่นห้ารอ้ยรูเปียนั้น ก็คิดเปนเงินบาทไท, ได้ถึง ๕๒๘๗๕ บาท. อีกอย่างหนึ่ง, คนที่สืบราคานั้นบอกว่า, ปีหนึ่งจะตอ้งเสียเงินอีกปีละ ๓๙๕๐๐ รูเปีย, เปนเงินบาทคิดได้ถึง ๒๙๖๒๕ บาท, คือ {{ตตฉ|คา}}จ้างซ่อมแปลงกำปั่นบ้าง, คือ ค่าจ้างนายกำปั่นแลลูกเรือบ้าง, คือ ซื้อสเบียงอาหารกินบ้าง, คือ ซื้อพืนที่ใส่ไฟบ้าง. ราคาที่เราว่ามานี้ เปนราคากำปั่นไฟลำหนึ่ง. <section end="7-1" /> <section begin="7-2" />{{ลห|ข2|ฃ่าวเมืองอเมริกา.{{ชว}}America.}} อนึ่ง ข่าวเมืองอเมริกาว่า เดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค่ำ, เจ้าเมืองอเมริกากับขุนนางใหญ่หลายคนลงกำปั่นไฟจะไปเที่ยวเล่นที่แม่น้ำปะโตมัก. ในกำปั่นไฟนั้นมีปืนใหญ่อยู่บอกหนึ่ง, ปืนใหญ่นั้นใช้ลูกหนัก ๑๗๓ ชั่งจีน. นายกำปั่นจะยิงปืนบอกนั้นเล่น, ยิงหนหนึ่งไม่เปนอันตราย, หนที่สองนั้นปืนก็แตก ถูกขุนนางใหญ่ตายสองคน, ขุนนางนอ้ยสองคน กับลูกเรือสองสามคน. เมื่อกอ่นปืนจะแตกครู่หนึ่งนั้น, เจ้าเมืองอเมริกายืนอยู่ในที่ขุนนางใหญ่ถูกปืนตายนั้น, แต่ทว่า มีธุระดว้ยเหตุใดเหตุหนึ่ง จึ่งไปจากที่น้น. เหตุดั่งนั้น เจ้าเมืองอเมริกาจึ่งไม่ตาย. ครั้นลว่งมาได้สามวัน, ก็เอาสภขุนนางใหญ่ไปฝัง. เมื่อฝังสภแล้ว, เจ้าเมืองอเมริกาขึ้นขี่รถจะกลับไปวัง, ม้าที่ลากรถนั้นก็ตกใจดว้ยเหตุใดเหตุหนึ่ง จึ่งภารถวิ่งไปในหนทางหน้ากลัวนัก. บังเหียนม้านั้นก็ขาด จะชักม้านั้นก็มิได้. ม้าก็ภารถวิ่งไปเกือบจะถึงที่หนึ่งที่มีหินมาก, ถ้ารถจะถูกหินนั้นแล้ว ก็คงจะฉิบหายหมด. แต่ทว่า ม้านั้นมันวิ่งไป ก็อยุดอยู่ครู่หนึ่ง, ก็มีคนก้ลาวิ่งเข้าไปจับเอาปากม้านั้นไว้. ม้านั้นก็มิได้วิ่งไปอีกได้, เจ้าเมืองอเมริกานั้นก็มิได้เปนอันตราย. {{ลห|ข3|กระษัตรเยี่ยมกัน.{{ชว}}Kings visiting each other.}} ปีเถาะ เดือนสิบ ข้างขึ้นนั้น, มหากระษัตรเมืองอังกฤษเสดจ์ออกจากเมืองไปเยี่ยมเจ้าเมืองฝรั่งเศศ. ในสามรอ้ยปีที่ลว่งไปกอ่นนั้น, กระษัตรสองนครนั้นไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนกันเลย. แลเมื่อกระษัตรอังกฤษเสดจ์ไปเยี่ยมกระษัตรฝรั่งเศศ, แลอยู่ในเมืองฝรั่งเศศศักเจดวัน, แล้วก็เสดจ์ออกจากเมืองฝรั่งเศศไปเยี่ยมกระษัตรเมืองเบลเชียม. เสดจ์อยู่ในเมืองเบลเชียมนอ่ยหนึ่ง, แล้วก็เสดจ์ออกจากเมืองเบลเชียมไปเยี่ยมกระษัตรเมืองยามะนี. อยู่ในเมืองยามะนีนอ่ยหนึ่ง, แล้วก็เสดจ์กลับไปเมืองอังกฤษดั่งเก่า. แลข่าวว่า ในเดือนสิบ ปีนี้ กระษัตรเมืองฝรั่งเศศจะเสดจ์ไปเยี่ยมกระษัตรเมืองอังกฤษตอบบ้าง. ที่กระษัตรจะไปเยี่ยมซึ่งกันแลกันดั่งนี้ ก็ดีกว่าจะกระทำซึ่งสงครามกัน. {{ลห|ข4|สงครามเมืองฆวาลิโอร.{{ชว}}Battle of Gwalior.}} ในประเทษฮินดูสถาน ข้างทิศ{{ตตฉ|เหนอ}} มีเมือง ๆ หนึ่งชื่อ ฆวาลิโอร. เมื่อปีกลายนี้ ก็เกิดสงครามแก่พวกอังกฤษ. ปีเถาะ เดือนญี่ ขึ้นแปดค่ ำก็เกิดรบพุ่งกันมากนัก, พวกอังกฤษได้ไชยขำนะ, แต่คนตายในที่รบนั้นเปนอันมาก. ฝ่ายพวกอังกฤษนั้นตายร้อยหกคน, ที่ถูกเปนแผลแต่ไม่ตายหกร้อยแปดสิบสี่คน. ฝ่าชาวฆวาลิโอร, ที่ตาย แลไม่ตายที่เปนแผลนั้น มิได้กำหนด, แต่ว่ามาก. เดี๋ยวนี้ เมืองฆวาลิโอรนั้นขึ้นแก่อังกฤษ. อนึ่ง มีเมืองอีกสองเมืองที่ขึ้นแก่อังกฤษในปีกลายนี้, คือ เมืองซินดะ หนึ่ง, อยู่ที่ปากแม่น้ำอินดัษเหนือเมืองซูรัด, แลเมืองไกตูล อยู่ในประเทษฮินดูสถานข้างทิศเหนือ, เปนเมืองเลกหนึ่ง. {{ลห|ข5|ข่าวเมืองจีน.{{ชว}}China.}} เดือนแปด ปัถมาสาท {{ปตปต|ขึ้นสา}}มค่ำ, มีหนังสื่อฃ่าวตีภิมในเมืองจีนว่า, มีอังกฤษคนหนึ่งชื่อว่า ดาวิษ จะมาเปนเจ้าเมืองในเมืองฮงคง. เจ้าเมืองเก่าชื่อว่า โปตินเชร ซึ่งแต่ก่อนเปนทูต, นั้น จะกลับไปเมืองอังกฤษแล้วไม่ช้า. อนึ่ง พ่อค้าอังกฤษที่อาไศรยอยู่ในเกาะมกาวแต่ก่อนนั้น, เดี๋ยวนี้เฃาฃนเฃ้าของจะไปอาไศรยอยู่ในเมืองฮงคง. อนึ่ง มีคนหนึ่งชื่อว่า กูชิง เปนทูตมาแต่เมืองอเมริกา มาถึงเมืองจีนแล้ว. อนึ่ง มีทูตฝรั่งเศศจะมาเมืองจีน แต่ว่าเฃามายังไม่ถึง. อนึ่ง เมื่อก่อนเดือนแปด ปถมาสาทนั้น กำปั่นไทมาถึงเกาะมกาวแล้ว {{ลห|ข6|ฃ่าวเมืองซิงกะโประ.{{ชว}}Singapore.}} เดือนแปด ปถมาสาท แรมห้าค่ำ, เฃาตีภิมหนังสือฃ่าว ในหนังสือฃ่าวนั้น, ว่า มีกำปั่นไฟลำหนึ่งมาแต่เมืองฮงคง, มาถึงเมืองใหม่ มาเรวนัก ๙ วันถึง, เมื่อมานั้น ทวนลมด้วย. แลโปตินเชร ทูตนั้น ก็มาในกำปั่นไฟลำนั้นด้วย. แลทูตฝรั่งเศศที่จะไปเมืองจีนนั้น, ก็มาถึงเมืองซิงกะโประก่อนวันที่ตีภิมหนังสือฃ่าวนี้. {{มปก}} <section end="7-2" /><noinclude></noinclude> arnjht1nwdeacs8f2kq9gles89brfn5 หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2 0 57052 188229 186242 2022-07-30T06:32:18Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 2. ราคากำปั่นไฟ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 1|1.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = }} {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:ประเทศอินเดีย|ราคากำปั่นไฟ]] | ชื่อ = 1. ราคากำปั่นไฟ | ก่อน = | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2|2.]] }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="6" fromsection="6-3" to="7" tosection="7-1"/> dgvflo18i5kw7vdbevazevbvttk1g9z หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3 0 57053 188211 186236 2022-07-30T05:50:48Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 3. น้ำฌะแผลทั้งปวง | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 2|2.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 2. น้ำฌะแผลทั้งปวง | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4|1.]] | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4|3.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="8" fromsection="8-2" to="9" tosection="9-1"/> fu5t41f4atxo93b94sbfijb2k5q82xi 188224 188211 2022-07-30T06:27:00Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. น้ำฌะแผลทั้งปวง | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 2. น้ำฌะแผลทั้งปวง | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4|1.]] | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4|3.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="8" fromsection="8-2" to="9" tosection="9-1"/> 4uwdn8fbiynju9cjk5jnmf9p92wk04t 188228 188224 2022-07-30T06:30:15Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 3. ข่าวต่างประเทศ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 2|2.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 2|2.]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = ประเทศ }} {{สบช| # {{ตลล|ส-ข2|ฃ่าวเมืองอเมริกา|ข2}} # {{ตลล|ส-ข3|กระษัตรเยี่ยมกัน|ข3}} # {{ตลล|ส-ข4|สงครามเมืองฆวาลิโอร|ข4}} # {{ตลล|ส-ข5|ข่าวเมืองจีน|ข5}} # {{ตลล|ส-ข6|ฃ่าวเมืองซิงกะโประ|ข6}} # {{ตลล|ส-ข7|ข่าวต่าง ๆ|ข7}} }} ---- <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="7" fromsection="7-2" to="8" tosection="8-1"/> jgwu69sqcxufk9ybwqohu89bszx2gqv หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5 0 57054 188221 186235 2022-07-30T06:26:15Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 5. ราคาสินค้าเมืองใหม่ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | ถัดไป = | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = ประเทศสิงคโปร์ }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="9" onlysection="9-2"/> a6gqnlp3gg7eu3mmvznq4ut0zk4ho5p 188222 188221 2022-07-30T06:26:31Z Venise12mai1834 8884 Venise12mai1834 ย้ายหน้า [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 4]] ไปยัง [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5]] wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 5. ราคาสินค้าเมืองใหม่ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | ถัดไป = | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = ประเทศสิงคโปร์ }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="9" onlysection="9-2"/> a6gqnlp3gg7eu3mmvznq4ut0zk4ho5p 188233 188222 2022-07-30T06:37:08Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 5. ราคาสินค้าเมืองใหม่ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | ถัดไป = | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:ประเทศสิงคโปร์|ราคาสินค้าเมืองใหม่]] | ชื่อ = ฉบับที่ 2 | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 5|1.]] | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 5|3.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="9" onlysection="9-2"/> gu6drk33ol2ui2fnei2pph01deuqe8j หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2 0 57055 188220 186243 2022-07-30T06:25:53Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../|เล่มที่ 1 (แรก)]], ใบที่ 2 | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ใบที่ 1|1]] | ถัดไป = [[../ใบที่ 3|3]] | หมายเหตุ = }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="6" onlysection="6-1"/> {{สบช| # [[/ส่วนที่ 1|ภาษาไทภาษาคัมตีเทียบกัน]] # [[/ส่วนที่ 2|ราคากำปั่นไฟ]] # [[/ส่วนที่ 3|ข่าวต่างประเทศ]] # [[/ส่วนที่ 4|น้ำฌะแผลทั้งปวง]] # [[/ส่วนที่ 5|ราคาสินค้าเมืองใหม่]] }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="9" onlysection="9-3"/> svlub8t6ah8h7xe9h60564fdlyotgv8 สถานีย่อย:สหรัฐ 100 57056 188243 187612 2022-07-30T06:50:11Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=United States}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ฃ่าวเมืองอเมริกา|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} ==กฎหมาย== * '''[[สถานีย่อย:กฎหมายสหรัฐ]]''' ==การปกครอง== * '''[[สถานีย่อย:สำนักข่าวกรองกลาง]]''' ==สงคราม== * {{ลปง|ประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 25 มกราคม 2485||2485}} ==อื่น ๆ== * {{ลปง|หนังสือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ที่ ชย 0032.006/3567||2564}} ห้ามบุคลากรชื่นชมยินดีที่ได้วัคซีนจากสหรัฐ [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สหรัฐ]] o7ebfnmzhfmdqmj077n0hph774v5c03 188245 188243 2022-07-30T06:54:04Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=United States}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ฃ่าวเมืองอเมริกา|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} ==กฎหมาย== * '''[[สถานีย่อย:กฎหมายสหรัฐ]]''' ==การปกครอง== * '''[[สถานีย่อย:สำนักข่าวกรองกลาง]]''' ==สงคราม== * {{ลปง|ประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 25 มกราคม 2485||2485}} ==อื่น ๆ== * {{ลปง|หนังสือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ที่ ชย 0032.006/3567||2564}} ห้ามบุคลากรชื่นชมยินดีที่ได้วัคซีนจากสหรัฐ [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สหรัฐ]] dn6gqf4oj387u7125lxio0sp35207bs 188246 188245 2022-07-30T06:54:25Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=United States}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ฃ่าวเมืองอเมริกา|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||จำนวนแกะในอังกฤษและสหรัฐ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} ==กฎหมาย== * '''[[สถานีย่อย:กฎหมายสหรัฐ]]''' ==การปกครอง== * '''[[สถานีย่อย:สำนักข่าวกรองกลาง]]''' ==สงคราม== * {{ลปง|ประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 25 มกราคม 2485||2485}} ==อื่น ๆ== * {{ลปง|หนังสือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ที่ ชย 0032.006/3567||2564}} ห้ามบุคลากรชื่นชมยินดีที่ได้วัคซีนจากสหรัฐ [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สหรัฐ]] mjw8k18y7omh9h1ujpyc9xrrsg5yfu7 สถานีย่อย:สหราชอาณาจักร 100 57057 188244 187197 2022-07-30T06:50:19Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=United Kingdom}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||กระษัตรเยี่ยมกัน|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปง|ข่าวตอนต้นรัชชกาลที่ 3 ตามรายงานราชการอังกฤษ||2475|พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} ==คดีความ== * {{ลปง|คดีอาร์มสต๎รอง||2465|กรมราชเลขาธิการ}} {{ลฟใน|อาร์มสตรอง - ๒๔๖๕.pdf}} ==ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 29|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2476|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 29||จดหมายเหตุ เรื่อง ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษในรัชชกาลที่ 4 เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. 2400|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 29}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๙) - ๒๔๗๖ a.pdf}} * {{ลปง|พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ไปยังประเทศอังกฤษ|พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว|2502||พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานไปยังประเทศอังกฤษ}} {{ลฟใน|ราชสาส์นไปอังกฤษ - ๒๕๐๒.pdf}} * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45/เรื่องที่ 1|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2470|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45||รายงานของหม่อมราโชทัย|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 45}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔๕.๑) - ๒๔๗๐.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 9||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 9||เรื่อง รับเซอร์ยอน เบาริง ราชทูตอังกฤษ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 9}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๙) - ๒๔๖๓.pdf}} ==วรรณกรรม== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45/เรื่องที่ 2|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2470|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45||นิราศลอนดอน|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 45}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔๕.๑) - ๒๔๗๐.pdf}} ==สงคราม== * {{ลปง|ประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 25 มกราคม 2485||2485}} ==สนธิสัญญา== * {{ลปง|ประกาศสัญญาว่าด้วยส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษฯ ร.ศ. 130||2454}} * {{ลปง|สนธิสัญญาเบาว์ริง||2398}} * {{ลปง|สัญญาในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษฯ 10 มีนาคม ร.ศ. 127||2451}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สหราชอาณาจักร]] cvayic7zq4z90h30m7tzq814j9afsaw 188247 188244 2022-07-30T06:55:44Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=United Kingdom}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||กระษัตรเยี่ยมกัน|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปง|ข่าวตอนต้นรัชชกาลที่ 3 ตามรายงานราชการอังกฤษ||2475|พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||จำนวนแกะในอังกฤษและสหรัฐ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} ==คดีความ== * {{ลปง|คดีอาร์มสต๎รอง||2465|กรมราชเลขาธิการ}} {{ลฟใน|อาร์มสตรอง - ๒๔๖๕.pdf}} ==ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 29|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2476|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 29||จดหมายเหตุ เรื่อง ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษในรัชชกาลที่ 4 เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. 2400|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 29}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๙) - ๒๔๗๖ a.pdf}} * {{ลปง|พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ไปยังประเทศอังกฤษ|พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว|2502||พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานไปยังประเทศอังกฤษ}} {{ลฟใน|ราชสาส์นไปอังกฤษ - ๒๕๐๒.pdf}} * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45/เรื่องที่ 1|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2470|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45||รายงานของหม่อมราโชทัย|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 45}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔๕.๑) - ๒๔๗๐.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 9||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 9||เรื่อง รับเซอร์ยอน เบาริง ราชทูตอังกฤษ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 9}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๙) - ๒๔๖๓.pdf}} ==วรรณกรรม== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45/เรื่องที่ 2|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2470|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45||นิราศลอนดอน|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 45}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔๕.๑) - ๒๔๗๐.pdf}} ==สงคราม== * {{ลปง|ประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 25 มกราคม 2485||2485}} ==สนธิสัญญา== * {{ลปง|ประกาศสัญญาว่าด้วยส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษฯ ร.ศ. 130||2454}} * {{ลปง|สนธิสัญญาเบาว์ริง||2398}} * {{ลปง|สัญญาในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษฯ 10 มีนาคม ร.ศ. 127||2451}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สหราชอาณาจักร]] 2bfxvoo85oxwv8zjy17hee0kpj79tul 188249 188247 2022-07-30T06:59:36Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=United Kingdom}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||กระษัตรเยี่ยมกัน|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปง|ข่าวตอนต้นรัชชกาลที่ 3 ตามรายงานราชการอังกฤษ||2475|พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||จำนวนแกะในอังกฤษและสหรัฐ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} ==คดีความ== * {{ลปง|คดีอาร์มสต๎รอง||2465|กรมราชเลขาธิการ}} {{ลฟใน|อาร์มสตรอง - ๒๔๖๕.pdf}} ==ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 29|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2476|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 29||จดหมายเหตุ เรื่อง ราชทูตไทยไปประเทศอังกฤษในรัชชกาลที่ 4 เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. 2400|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 29}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๙) - ๒๔๗๖ a.pdf}} * {{ลปง|พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ไปยังประเทศอังกฤษ|พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว|2502||พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานไปยังประเทศอังกฤษ}} {{ลฟใน|ราชสาส์นไปอังกฤษ - ๒๕๐๒.pdf}} * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45/เรื่องที่ 1|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2470|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45||รายงานของหม่อมราโชทัย|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 45}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔๕.๑) - ๒๔๗๐.pdf}} * {{ลปงย|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 9||2463|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ/ภาคที่ 9||เรื่อง รับเซอร์ยอน เบาริง ราชทูตอังกฤษ|ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 9}} {{ลฟใน|ลัทธิฯ (๐๙) - ๒๔๖๓.pdf}} ==วรรณกรรม== * {{ลปงย|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45/เรื่องที่ 2|หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร)|2470|ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 45||นิราศลอนดอน|ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 45}} {{ลฟใน|ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๔๕.๑) - ๒๔๗๐.pdf}} ==สงคราม== * {{ลปง|ประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 25 มกราคม 2485||2485}} ==สนธิสัญญา== * {{ลปง|ประกาศสัญญาว่าด้วยส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษฯ ร.ศ. 130||2454}} * {{ลปง|สนธิสัญญาเบาว์ริง||2398}} * {{ลปง|สัญญาในระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษฯ 10 มีนาคม ร.ศ. 127||2451}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|สหราชอาณาจักร]] ld1jddsva7dcsi4iw4lfi5ct8z6j54e สถานีย่อย:ประเทศอินเดีย 100 57058 188231 187198 2022-07-30T06:34:21Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=India}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ราคากำปั่นไฟ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ราคากำปั่นไฟอีกที|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปง|พงษาวดารอินเดียย่อ||2452}} {{ลฟใน|พงศาวดารอินเดีย - ๒๔๕๒.pdf}} * {{ลปง|เมืองพาราณศรี||2373}} {{ลฟใน|วชรญ (๐๗๗).pdf|พาราณสี - ๒๕๐๒.pdf}} * {{ลปงย|เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ/เรื่อง 4|เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)|2480|เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ||รพินทรนารถ ตกูร์ กับชมภูทวีป}} {{ลฟใน|เรื่องสั้น - สนั่น เทพหัสดิน - ๒๔๘๐.pdf}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|อินเดีย]] okrf9digklrxs3m15xie5ab3k2dnw90 188239 188231 2022-07-30T06:49:21Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=India}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ราคากำปั่นไฟ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ราคากำปั่นไฟอีกที|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปง|พงษาวดารอินเดียย่อ||2452}} {{ลฟใน|พงศาวดารอินเดีย - ๒๔๕๒.pdf}} * {{ลปง|เมืองพาราณศรี||2373}} {{ลฟใน|วชรญ (๐๗๗).pdf|พาราณสี - ๒๕๐๒.pdf}} * {{ลปงย|เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ/เรื่อง 4|เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)|2480|เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ||รพินทรนารถ ตกูร์ กับชมภูทวีป}} {{ลฟใน|เรื่องสั้น - สนั่น เทพหัสดิน - ๒๔๘๐.pdf}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|อินเดีย]] 71atyjfptufrt0neddub4la6j851sky 188250 188239 2022-07-30T07:00:18Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{ระดับชาติ|ธง=India}} ==ข่าว== * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ข่าวต่าง ๆ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ม้าเมืองอารับ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2||ราคากำปั่นไฟ|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 2}} * {{ลปงย|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2||2387|หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3||ราคากำปั่นไฟอีกที|หนังสือจดหมายเหตุ เล่มที่ 1 (แรก) ใบที่ 3}} ==ประวัติศาสตร์== * {{ลปง|พงษาวดารอินเดียย่อ||2452}} {{ลฟใน|พงศาวดารอินเดีย - ๒๔๕๒.pdf}} * {{ลปง|เมืองพาราณศรี||2373}} {{ลฟใน|วชรญ (๐๗๗).pdf|พาราณสี - ๒๕๐๒.pdf}} * {{ลปงย|เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ/เรื่อง 4|เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)|2480|เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ||รพินทรนารถ ตกูร์ กับชมภูทวีป}} {{ลฟใน|เรื่องสั้น - สนั่น เทพหัสดิน - ๒๔๘๐.pdf}} [[หมวดหมู่:สถานีย่อย]] [[หมวดหมู่:สถานีย่อยเกี่ยวกับประเทศ|อินเดีย]] dvyvwpsyqpagzod9e1whgrq5kghnrny หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/81 250 57486 188153 188036 2022-07-29T12:08:40Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๖๖|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>มิได้ทูลถามตรง ๆ เป็นแต่สังเกตวาจาที่ตรัสและทูลไล่เลียงอ้อมค้อม จนในที่สุด พระวัชรมุกุฏทรงเล่าให้นางฟังถึงพุทธิศริระผู้มีปัญญา เริ่มแต่ความเห็นทับถมหญิงทั้งหลายตลอดจนแปลกิริยาต่าง ๆ ที่นางได้ทำเป็นเครื่องสัญญาณ ในที่สุด ตรัสเล่าความเห็นของพุทธิศริระว่า นางฉลาดเกินที่จะเป็นเมียที่เป็นความสุขแก่ผัว นางปัทมาวดีทรงคิดในใจว่า "ถ้าเราไม่แก้แค้นชายคนนั้นได้ ขอให้เราเกิดเป็นฬาของคนทำสวนในชาติหน้าเถิด" ทรงคิดดังนี้แล้ว นางก็ตรัสชมความฉลาดของพุทธิศริระยอขึ้นไปถึงฟ้า ตรัสว่า ทรงรู้สึกบุญคุณของชายผู้นั้นที่ได้ช่วยให้นางถึงความสุข และสำแดงประสงค์จะใคร่พบพุทธิศริระสักครั้งหนึ่ง ฝ่ายพระวัชรมุกุฏเสด็จซ่อนอยู่ในนิเวศน์นางประมาณเดือนหนึ่ง ก็รำลึกถึงโลกภายนอก เธอเสวยมากไป ผธมมากไป ไม่ได้ออกขี่ม้าล่าเนื้อบ่อย ๆ เหมือนแต่ก่อน ก็เกิดไม่สบาย พระพักตร์และพระ<noinclude></noinclude> opuqg7owk6h8njyn1c8tp4n7d73qw02 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/82 250 57487 188154 188037 2022-07-29T12:10:30Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๖๗|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>เนตร์เหลือง มีอาการหาวดังซึ่งคนตับพิการมักจะเป็น บางเวลาก็ปวดพระเศียรและเสวยอาหารไม่ได้ จะซ่อนอยู่ก็ไม่เป็นสุข วันหนึ่ง อยู่พระองค์เดียว ทรงนึกดัง ๆ ว่า "เราได้ทิ้งเมืองมาก็นานแล้ว และสหายซึ่งได้ช่วยให้เราได้รับความสุขเช่นนี้ก็ไม่ได้พบกันมาตั้งเดือน สหายของเราจะบ่นอย่างไรบ้าง และจะอยู่เป็นสุขหรือไร เราก็ไม่ทราบได้เลย" ขณะนั้น นางปัทมาวดีเข้าไปถึง ได้ยินหางเสียงที่ตรัส ก็เข้าใจตลอด นางเห็นเป็นช่องอันดีที่จะสำเร็จความคิด จึ่งตรัสหาความพระสามีว่า พระหฤทัยไม่ยั่งยืน อยากจะเปลี่ยนบ่อย ๆ ครั้นเห็นพระสามีตรัสปฏิเสธ นางก็กล่าวซ้ำจนเธอจวนจะกริ้วอยู่แล้ว เธอจึงตรัสอ้างคัมภีร์โบราณว่า ภริยาที่ไม่มีลูก สามีควรทิ้งไปหาใหม่ในปีที่แปด ภริยาที่มีลูกเกิดมาตายหมดในปีที่ ๑๐ ภริยาที่มีแต่ลูกหญิงในปีที่ ๑๑ และภริยาซึ่งกล่าวดุดันสามีนั้น ควรทิ้งไปหาใหม่ทันที นางได้ยินพระสามีตรัสดังนั้นก็อธิบายว่า คำที่นางกล่าวนั้น<noinclude></noinclude> 2hz3k5msvhsoizkk2l6v15fp58bxizn หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/83 250 57488 188155 188039 2022-07-29T12:12:38Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๖๘|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>มิใช่กล่าวถึงความรักระหว่างระหว่างสองพระองค์ นางกล่าวถึงข้อที่พระสามีลืมพุทธิศริระผู้สหายนั้นดอก นางตรัสว่า "พระองค์เสด็จอยู่ที่นี่ พระหฤทัยออกไปอยู่กับสหายเช่นนี้ จะมีสุขอย่างไรได้ พระองค์ทรงซ่อนความในพระหฤทัยไว้ด้วยเหตุใด เกรงว่า ถ้าข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าจะเดือดร้อนฉะนั้นหรือ พระองค์จงเชื่อชายาของพระองค์ว่า คงจะไม่มีประสงค์ให้พระองค์เริศร้างจากสหายซึ่งมีคุณแก่เราทั้งสองนั้นเป็นอันขาด" นางปัทมาวดีทูลเช่นนั้นแล้ว ก็แนะนำให้เสด็จออกไปหาพุทธิศริระในคืนวันนั้นเพื่อจะได้สิ้นห่วงถึงสหาย อนึ่ง นางจะฝากของออกไปแทนคุณพุทธิศริระบ้าง พระวัชรมุกุฏทรงยินดี ตรงเข้าสวมกอดนาง กลับทำให้นางโกรธในใจ เพราะเห็นถนัดว่า ทรงยินดีที่จะทิ้งนางไปหาสหาย นางเกรงจะซ่อนความโกรธไว้ไม่ได้ ก็รีบหนีไปจัดของที่จะฝากไปประทานพุทธิศริระ สักครู่หนึ่ง นางเสด็จกลับมาในห้อง ถือถุงบรรจุของกินมาส่งถวาย ทูลว่า ขอให้ประทานแก่พุทธิศริระว่า{{วว}}<noinclude></noinclude> arbn8hx01kgm6a7l9v2a5j51fjkyb2q หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/84 250 57489 188156 188040 2022-07-29T12:19:34Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๖๙|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>เป็นของซึ่งนางทำด้วยพระหัตถ์ ถึงแม้คนมีปัญญาก็คงจะชมรสซึ่งมีในขนมนั้น พระยุพราช เมื่อได้ล่ำลานาง สวมองค์แล้วสอดกรเล่า คำลาคำท้ายกลับเป็นคำต้นหลายครั้ง แล้วก็เสด็จเล็ดลอดออกจากวัง ครั้นผ่านพ้นประตูซึ่งนายประตูนั่งหลับตามเคย ถึงถนนใหญ่ก็รีบทรงดำเนินตรงไปบ้านหญิงนางนม เวลานั้นเป็นเวลาเที่ยงคืน แม้ฉะนั้น พุทธิศริระยังนั่งอยู่หน้าเรือน ครั้นพระยุพราชเสด็จไปถึง ต่างก็แสดงความยินดี พระวัชรมุกุฏตรัสแสดงความร้อนพระหฤทัยที่เห็นพุทธฺศริระมีอาการซูบซีด พุทธิศริระทูลว่า ไม่ได้ยินข่าวเจ้าช้านานก็ร้อนใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ จึงมีอาการเช่นนี้ พระวัชรมุกุฏได้ทรงฟัง ก็อธิบายถึงความสำราญในวังซึ่งทรงคิดว่า ไม่ยิ่งหย่อนกว่าความสุขในสวรรค์ ทั้งยกนางปัทมาวดีเชิดชูขึ้นไปถึงฟ้า เทียบกับนางเทพธิดาซึ่งเป็นหมู่ชนที่ไม่เคยทรงพบเห็นก็จริงอยู่ แต่คงจะไม่ล้ำเลิศเกินนางปัทมาวดีไปได้ ทั้งในความงามและความเฉลียวฉลาดทุกประการ {{มปก}}<noinclude></noinclude> p2p7p3o79pmnciz1k64fjhrl6pmzd74 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/85 250 57490 188157 188041 2022-07-29T12:22:20Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๐|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>พุทธิศริระได้ยินรับสั่งยอพระเกียรตินางยืดยาวเช่นนั้น ก็โคลงศีร์ษะยิ้ม มิได้กล่าวประการใด พระยุพราชทรงเห็นดังนั้นก็ตรัสว่า "อย่างเก่าอีกแล้ว ความสำราญของท่านอยู่ในความลบหลู่ปัญญาของผู้อื่น ไม่เปลี่ยนแปลงบ้างเลย ท่านคงจะคิดอิจฉานางเสียแล้ว อิจฉาว่า มีปัญญา และอิจฉาว่า นางรักข้า ท่านจงเชื่อข้าว่า นางองค์นี้ดีหาที่เปรียบมิได้ ถึงแม้ท่านเกลียดผู้หญิง เมื่อได้ทราบคำสรรเสริญที่นางกล่าวถึงท่านทราบ คำสั่งที่นางสั่งมาถึง และทราบรสแห่งของกินที่นางฝากมาประทาน ท่านก็เว้นที่จะชมนางไม่ได้เป็นแน่ {{ตตฉ|นี่แนะ|นี่แน่ะ}} ท่านจงกินขนมนี้ซึ่งนางฝากมาให้ท่านโดยเฉพาะ เป็นขนมซึ่งนางทำด้วยพระหัตถ์นางเอง" พุทธิศริระทูลว่า "นางสั่งมาถึงข้าพเจ้าอย่างไรได้ อย่างไรนางจึ่งฝากของมาประทาน นางไม่ทรงทราบว่า มีข้าพเจ้าอยู่ในโลกนี้ พระองค์ไปรับสั่งถึงข้าพเจ้าขึ้นแล้วกระมัง" พระวัชรมุกุฏตรัสตอบว่า "คืนหนึ่ง ข้านั่งอยู่คนเดียว กำลังคิดถึงท่าน ก็มีอาการซึมเซาไป นาง<noinclude></noinclude> 65gwne9ubyt3b3d3o1zi4rczn635tac หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/86 250 57491 188158 188042 2022-07-29T12:28:04Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๑|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>เข้ามาพบก็ถามว่า เหตุไรจึงเป็นเช่นนั้น ข้าก็ตอบนางตามจริง และเล่าให้ฟังถึงท่านและความฉลาดของท่าน นางได้ทราบก็อนุญาตให้ข้าออกมาหาท่าน และส่งขนมนี้มาให้ท่านกิน ท่านจงกินให้สมศรัทธาของนางผู้ทำและข้าผู้ถือมาเถิด" พุทธิศริระทูลว่า "พระองค์จงประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า และทรงฟังคำที่ข้าพเจ้าทูลนี้เถิด การที่รับสั่งบอกชื่อข้าพเจ้าแก่นางนั้นไม่ดีเลย ผู้ชายไม่ควรทำให้ผู้หญิงรู้ได้ว่า ความลับซึ่งนางบอกแก่มือซ้ายแห่งชายนั้นทราบไปถึงมือขวา ถึงยิ่งทราบไปถึงคนอื่นด้วยยิ่งร้ายใหญ่ อีกอย่างหนึ่ง การที่ทรงสำแดงให้นางทราบว่า ทรงพระ{{ตตฉ|เม็ตตา}}ข้าพเจ้านั้น ก็ไม่เป็นทางดี เพราะผู้หญิงย่อมจะเกลียดเพื่อนของชายที่รัก" พระยุพราชตรัสว่า "ข้าจะทำอย่างไรได้ เมื่อข้ารักนางข้า ก็ไม่อยากปกปิดข้อความอะไร เมื่อนางถาม ก็บอกตรง ๆ ทั้งนั้น" พุทธิศริระทูลว่า "พระหฤทัยเช่นนี้ เมื่อพระองค์จำเริญพระชนม์ยิ่งขึ้น ก็คงจะเปลี่ยน เพราะจะทรงทราบ<noinclude></noinclude> pf11vyfzjae901goittnei37vdfy0qg หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/87 250 57492 188159 188043 2022-07-29T12:29:59Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๒|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ได้ว่า ความรักระหว่างหญิงกับชายนั้นคือการเล่นซึ่งต้องใช้ปัญญาระหว่างคนสองคนที่มีเพศต่างกัน ฝ่ายหนึ่งเพียรจะเอาเปรียบมากที่สุด อีกฝ่ายหนึ่งเพียรจะเสียเปรียบน้อยที่สุดที่จะเป็นได้ คนทั้งสองต่อสู้กันบนกระดานสะกาเช่นนี้ ฝ่ายที่ปัญญาแหลมกว่าแลชำนาญกว่าย่อมชะนะเสมอ ความไม่พูดนั้นเป็นสิ่งที่หัดทำได้ ถ้าพระองค์ทรงซ้อมอยู่สักปีหนึ่ง จะทรงเห็นว่า การเปิดความลับนั้นยากกว่าการปิดไปเสียอีก ถ้าจะกล่าวถึงขนมที่นางประทานมานี้ ข้าพเจ้ายอมเอาชีวิตข้าพเจ้าเป็นสินพะนันกับชีวิตหมาว่า ขนมนี้ผสมด้วยยาพิษ" พระวัชรมุกุฏตรัสว่า "เป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด ไม่มีใครในโลกนี้จะทำอย่างที่ท่านว่า ถ้าคนไม่กลัวคนด้วยกัน ก็ต้องกลัวพระผู้เป็นเจ้าบ้าง" พุทธิศริระกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเกิดมายังไม่เคยรู้เลยว่า ผู้หญิงที่กำลังรักกลัวพระผู้เป็นเจ้าหรือกลัวอะไรบ้าง แต่ข้อที่ข้าพเจ้ากล่าวนั้นทดลองได้ง่าย ๆ{{วว}}<noinclude></noinclude> l4mib4g78zunboc129xhtgam7p2hebb หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/88 250 57493 188160 188044 2022-07-29T13:01:18Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๓|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>(พูดพลางเรียกหมาที่นอนอยู่ข้างนั้น แล้วโยนขนมให้หน่อยหนึ่ง กล่าวว่า) "เอ้า เองไปหาญาติสามหัวของเองซึ่งเป็นผู้รับใช้มัจจุราชนั้นเกิด" หมาได้ยินก็ลุกขึ้นกินขนมที่พุทธิศริระโยนให้ ประเดี๋ยวก็ล้มลงขาดใจตาย พระยุพราชเห็นดังนั้นก็ทรงเสียใจเป็นกำลัง ตรัสว่า "นางช่างเป็นเช่นนี้ได้ ไม่คิดเลยว่า จะชั่วช้าถึงปานนี้ ข้าหลงรักนางนักหนา ไม่รู้เลยว่าใจคอหยาบคายมาก ข้าจะกล้าอยู่กับนางไปอย่างไรได้" พุทธิศริระทูลว่า "สิ่งใดเกิดแล้ว สิ่งนั้นย่อมเกิดแล้ว จะแก้ให้กลับไม่เกิดนั้นไม่ได้ ข้าพเจ้าคิดเกรงมาแต่แรกแล้วว่า พระราชกุมารีทรงปัญญาหลักแหลมนัก คงจะทำอะไรชะนิดนี้เป็นแน่ เพราะคนเราไม่มีใครจะทำอะไรผิด จะทำอะไรโง่ จะทำอะไรนอกคอกเหมือนหญิงสาวมีปัญญา แม้จะทำการที่มีโทษ ก็ทำให้สนิทสนมไม่ได้ ข้าพเจ้าขออยู่ห่างไกลปัญญาหญิง ขออยู่กับความโง่เขลา จึ่งจะเป็นสุข" {{มปก}}<noinclude></noinclude> e4f6z3j15fc3jq56nlrj1l1okcvpepj หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/89 250 57494 188161 188045 2022-07-29T13:03:45Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๔|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ในตอนนี้ พระราชบุตรมิได้ทรงยกย่องความฉลาดเลย พุทธิศริระจึงทูลต่อไปว่า "ข้าพเจ้าก็ได้ทูลกำชับแล้ วเพราะเกรงจะเป็นเช่นนี้ แต่บัดนี้ เมื่อได้เห็นฤทธิ์นาง แล้วก็เบาใจ นางคิดไม่สำเร็จครั้งนี้ นับว่า สิ้นโอกาสที่จะทำการเช่นเดียวกันอีก หรือถ้าทำ ก็ไม่ใช่ทำในเร็ววันนี้ ข้าพเจ้าขอทูลถามปัญหาข้อหนึ่ง คือ ถ้าไม่ได้อยู่กับนาง พระองค์จะมีความสุขได้หรือ" พระยุพราชทรงถอนใจใหญ่ ตรัสว่า "ไม่ได้เป็นแน่" พุทธิศริระทูลว่า "ถ้าไม่ได้ ก็ต้องใช้ปัญญาด้วยมีความรู้ว่าไม่ได้นั้นเป็นบรรทัด เราจะต้องประชันหน้ากับนางในสนามรบ แลพเอาชัยในเชิงอาวุธที่นางใช้เอง อาวุธนั้นคือความหลอกล่อ ตามธรรมดาข้าพเจ้าไม่เต็มใจจะทำกลกับหญิง แต่นางองค์นี้เห็นจะเป็นชายาที่ดีต่อสามี แท้จริงการวางยาพิษนี้นางเพียรจะเอาชีวิตข้าพเจ้า มิใช่ชีวิตพระองค์ จะว่านางประทุษร้ายต่อพระองค์ไม่ได้ พระองค์เสด็จออกมาครั้งนี้ นางกำหนดให้เสด็จกลับเมื่อไร" {{มปก}}<noinclude></noinclude> n936jhub37mrseavi1yvsnmhv27w6t3 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/90 250 57495 188162 188046 2022-07-29T13:05:17Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๕|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>พระยุพราชตรัสว่า "เมื่อข้าสิ้นห่วงท่านแล้ว ให้กลับเข้าไป" พุทธิศริระกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น นางคอยท่าเสด็จกลับพรุ่งนี้กลางคืน เพราะจะเสด็จกลับเข้าวังก่อนนั้นไม่ได้ ข้าพเจ้าจะขอทูลลาไปเข้าที่นอน เพื่อจะได้ตรึกตรองหาทางที่จะทำการให้สำเร็จประสงค์" พุทธิศริระทูลดังนั้นแล้ว พระราชบุตรก็เข้าที่บรรทม พุทธิศริระก็ไปนอน กลางคืนวันรุ่งขึ้น ครั้นถึงเวลา พระวัชรมุกุฏก็เสด็จเข้าวัง พุทธิศริระไปส่งเสด็จตามทาง ทูลว่า "ความประสงค์ของเรา คือ จะพาตัวพระราชกุมารีไป พระองค์จงรับตรีศูล (คือ สามง่าม) นี้ไปซ่อนในพระองค์ และเมื่อพบนาง จงสำแดงเสน่หาให้มาก อย่าตรัสเล่าถึงการที่เป็นไปเมื่อคืนนี้ นางคอยฟังไม่เห็นตรัสว่ากระไร ก็คงจะถามถึงข้าพเจ้า พระองค์จงตรัสบอกนางว่า ข้าพเจ้ากำลังไม่สบาย ยังไม่ได้กินขนมที่นางประทานออกมา ข้าพเจ้าเก็บขนมนั้นไว้ ว่าจะกินคืน<noinclude></noinclude> 6wwk4nhr8a7k8ecurv4b5bdbddc32te หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/91 250 57496 188163 188047 2022-07-29T13:06:54Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๖|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>วันนี้ ในกลางคืนเมื่อนางบรรทมหลับ พระองค์จงลอบถอดเครื่องเพ็ชร์พลอยที่ประดับองค์นาง แล้วเอาตรีศูลนี่แทงที่ชงฆ์ซ้ายแห่งนาง แล้วรีบเสด็จออกมาหาข้าพเจ้า ถ้านางบรรทมยังไม่หลับ จงประทานผงนี้ให้นางดม เมื่อดมผงนี้แล้ว อย่าว่าแต่คน ถึงช้างก็จะหลับเหมือนตายไปจนรุ่งสว่าง แม้นแทงด้วยตรีศูลก็ไม่ตื่น ส่วนพระองค์เองนั้น อย่าลองดมยานี้เป็นอันขาด" พระวัชรมุกุฏทรงรับยาจากพุทธิศริระแล้ว ก็ทรงเล็ดลอดเข้าไปในวังในเวลาซึ่งนายประตูนั่งหลับตามเคย ครั้นถึงตำหนัก พบนางนั่งคอยท่าอยู่ สององค์ก็สำแดงยินดีต่อกันตามเยี่ยงอย่างหญิงชาย ฝ่ายนางปัทมาวดีแลดูพระเนตรและสังเกตกิริยาพระสามีเห็นยิ้มแย้มแจ่มใสดี นางก็หลอกผู้ซึ่งหญิงฉลาดชอบหลอก (คือ ตัวเอง) ว่า อุบายที่คิดไปนั้นสำเร็จประสงค์ พระสามีไม่รู้กล และตั้งแต่บัดนี้ นับว่า ไม่มีใครอื่นซึ่งพระสามีจะห่วงถึงต่อไป นางทรงนึกรื่นรมย์ในหฤทัยเช่นนี้จนบรรทมหลับไป {{มปก}}<noinclude></noinclude> nv5g559mk0xseg9zxt8rjorh85747r9 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/92 250 57497 188164 188048 2022-07-29T13:16:14Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๗|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ฝ่ายพระวัชรมุกุฏ ครั้นนางหลับแล้ว เกรงจะหลับยังไม่สนิท ก็เอายาให้ดม แล้วถอดเครื่องเพ็ชร์พลอยซึ่งประดับองค์นางจนหมด เอาตรีศูลแทงที่ชงฆ์ซ้าย แล้วรีบพาเครื่องประดับหนีออกจากวังไปหาพุทธิศริระ พุทธิศริระตรวจดูของเหล่านั้นแล้ว ก็ฉวยย่ามห้อยบ่า เชิญให้ราชบุตรทรงดำเนินตามไปจนถึงป่าช้าแห่งหนึ่ง พุทธิศริระกับพระราชบุตรก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย พุทุธิศริระเองแต่งเป็นโยคี พระราชบุตรแต่งเป็นศิษย์ แล้วซ่อนเสื้อผ้าซึ่งผลัดออกนั้น สำเร็จแล้ว พุทธิศริระผู้เป็นครูจึ่งกล่าวแก่พระราชกุมารผู้เป็นศิษย์ว่า "ท่านจงไปในตลาด แลเที่ยวบอกขายเครื่องเพ็ชร์พลอยเหล่านี้ สำแดงของให้คนเห็นมาก ๆ ด้วยกัน และถ้าใครจับกุมท่าน จงพาตัวมาหาข้าพเจ้า" ครั้นรุ่งเช้า พระวัชรมุกุฏก็พาเครื่องประดับอันมีราคาเป็นอันมากนั้นไปเที่ยวบอกขายในตลาด ครั้นไปถึงร้านช่างทองร้านหนึ่ง ยื่นของให้ดู แลบอกขายทั้ง<noinclude></noinclude> 1gj3m8xm2ndga52w3hg7ae176k72mzg หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/93 250 57498 188165 188049 2022-07-29T13:18:11Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๘|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ถามราคาของเหล่านั้นด้วย ช่างทองนั้นเป็นคนค้าขายโดยสุจริตต่อเมื่อจำเป็นจะสุจริต ครั้นเห็นคนหนุ่มไม่รู้จักราคาของนำเอาของราคามากไปบอกขายเช่นนั้น ก็กล่าวว่า เป็นของเลว แลจะรับซื้อเป็นราคาเพียงหนึ่งในพันแห่งราคาจริง ราคาที่ช่างทองจะรับซื้อนี้ พระวัชรมุกุฏไม่ยอมขาย เพราะต้องการจะเที่ยวอวดของเหล่านั้นต่อไปอีก ครั้นจะเสด็จ ออกจากร้าน ช่างทองก็เข้ากั้นประตูไว้แล้วกล่าวว่า ถ้าไม่ยอมขาย จะเรียกตำรวจจับ เพราะของเหล่านั้นช่างทองถูกขะโมยไปเมื่อ ๒–๓ วันนั่นเอง ฝ่ายพระราชกุมาร เมื่อช่างทองกล่าวขู่ดังนั้น ก็ไม่ทรงหวาดหวั่น กลับทรงพระสรวล ช่างทองลังเลในใจ ไม่กล้าเรียกตำรวจมาจริง ๆ เพราะทราบว่า ถ้าเรียกตำรวจมา สิ่งของเหล่านั้นจะเป็นลาภแก่ตำรวจยิ่งกว่าเป็นลาภแก่ช่างทองหลายร้อยเท่า ช่างทองกำลังตรึกตรองยังไม่แน่ใจว่าทำอย่างไรจะดี พอมีคนอีกคนหนึ่งเข้ามาในร้าน คนที่มาใหม่นั้นเป็นช่างทองหลวง ครั้นเห็นเครื่องประดับเข้า ก็<noinclude></noinclude> d2b569zfpohcbcmky97ea94lwsuvlpx หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/94 250 57499 188166 188050 2022-07-29T13:19:46Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๗๙|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>จำได้ แลกล่าวว่า "เครื่องประดับเพ็ชร์พลอยเหล่านี้เป็นของพระราชธิดา ข้าพเจ้าจำได้ถนัด เพราะได้เป็นผู้ทำเมื่อ ๒–๓ เดือนนี้เอง{{ปตปต|"}} (พูดเท่านั้น แล้วช่างทองหลวงหันไปถามพระราชกุมารว่า) "เจ้าจงบอกแต่ตามจริงว่า เจ้าได้ของเหล่านี้มาแต่ไหน" ในเวลาที่ไต่ถามกันอยู่เช่นนี้ มีคนมายืนมุงดูเป็นอันมาก จนข่าวทราบไปถึงผู้บังคับการตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจจึ่งให้ตามตัวพระราชกุมารแลช่างทองทั้งสองคนไปไต่สวน ครั้นไปถึงพร้อมกันแลตรวจของกลางแล้ว ผู้บังคับการตำรวจก็ถามพระราชกุมารว่า "เจ้าได้ของเหล่านี้มาแต่ไหน จงให้การไปแต่ตามจริง" พระวัชรกุมารแสร้งทำเป็นกลัว ตรัสตอบว่า "ครูของข้าพเจ้ามอบของเหล่านี้ให้ข้าพเจ้าไปเที่ยวขาย ในเวลานี้ ครูของข้าพเจ้ากระทำการบูชาอยู่ที่ป่าช้านอกเมือง จะได้ของเหล่านี้มาจากไหน ข้าพเจ้าหาทราบไม่ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีความผิด ท่านจงปล่อยตัวข้าพเจ้าไปเถิด" {{มปก}}<noinclude></noinclude> 67bxj9u64jgueilqcptff2m5hx1u2ad หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/95 250 57500 188167 188051 2022-07-29T13:21:41Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๐|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ผู้บังคับการตำรวจได้ยินดังนั้น ก็ให้ไปตามพุทธิศริระมาจากป่าช้า แล้วพาคนทั้งสองแลของกลางเข้าไปเฝ้าท้าวทันตวัต ทูลความให้ทรงทราบทุกประการ ท้าวทันตวัตทรงฟังเรื่องตลอดแล้ว ก็ตรัสถามพุทธิศริระว่า ได้ของเหล่านั้นมาแต่ไหน พุทธิศริระได้ยินรับสั่งถาม ก็คลี่หนังโครำออกปูเป็นอาสนะ แล้วนั่งลงชักประคำท่องมนต์อยู่เกือบชั่วโมงหนึ่ง จึ่งทูลตอบว่า "ข้าพเจ้ากล่าวคำสัตย์ ด้วยมีพระมหาเทพเป็นพะยานว่าของเหล่านี้เป็นสมบัติของข้าพเจ้า คือ เมื่อวันแรมสิบสี่ค่ำกลางคืน ข้าพเจ้าไปที่ป่าช้าเผาศพเพื่อจะสวดมนต์เรียกแม่มด ข้าพเจ้าสวดเรียกอยู่ช้านานจึ่งเรียกมาได้ ครั้นแม่มดมาแล้ว ก็ทำกิริยากำเริบอุกอาจ ข้าพเจ้าจึ่งต้องลงโทษแทงด้วยตรีศูลอันนี้ถูกตรงขาซ้าย ถึงกระนั้นแล้ว ยังดื้อดึงอยู่อีก ข้าพเจ้าจึงปลดเอาของเหล่านี้ออกไว้เสีย แล้วไล่ให้ไปตามใจ แต่เช่นนั้นแล้ว ยังทำกิริยากำเริบอยู่อีกช้านาน ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นแม่มดที่ดื้อดึงเช่นนั้นเลย ของเหล่านี้<noinclude></noinclude> cxlm21syeewpt2neb704tl6pjhywwl9 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/96 250 57501 188168 188052 2022-07-29T13:23:14Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๑|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ข้าพเจ้าได้มาจากแม่มดนั้น โดยประการที่ทูลมาเช่นนี้" ท้าวทันตวัตได้ทรงฟังดังนั้น ก็ทรงเฉลียวใจขึ้นมา จึ่งตรัสให้โยคีคอยอยู่ที่ท้องพระโรง แล้วเสด็จขึ้นข้างใน พบพระราชมารดา ก็ทูลว่า "พระแม่จงเสด็จไปยังที่อยู่แห่งนางปัทมาวดี พระราชธิดาของข้าพเจ้า แลตรวจดู{{ตตฉ|ชงค์}}ซ้ายแห่งนางว่า มีรอยอันใดบ้าง แลเป็นรอยชะนิดไหน ข้าพเจ้าจะคอยฟังอยู่ที่นี่" พระราชมารดาเสด็จไปครู่หนึ่ง ก็เสด็จกลับมาตรัสแก่ท้าวทันตวัตผู้พระราชบุตรว่า "แม่ได้ไปถึงห้องนางปัทมาวดีแล้ว นางนอนอยู่ในที่บรรทม มีแผลสามรอยอยู่ที่ชงฆ์ซ้าย มีอาการเหมือนหนึ่งเจ็บปวดมาก แม่ถามว่า ได้แผลนั้นมาอย่างไร นางตอบว่า ตะปูตำ แต่แม่ไม่เคยเห็นตะปูสามแหลมเช่นนี้ นางคงจะได้ทุกข์มากเพราะแผลนั้น แม่จะรีบกลับไปดูแลรักษา มิฉะนั้น อาจเป็นเหตุให้เกิดความเศร้าโศกในวงศ์ญาติ" พระราชมารดาตรัสดังนั้นแล้ว ก็เสด็จกลับไปยังที่อยู่แห่งพระราชธิดา {{มปก}}<noinclude>{{ก|๖}}</noinclude> r2ngmh47fghmzo65y9ub1u6sv8jvoh0 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/97 250 57502 188169 188053 2022-07-29T13:25:03Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๒|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>ฝ่ายท้าวทันตวัตได้ทรงฟังดังนั้น ก็อ้ำอึ้งในพระหฤทัย ทรงคิดว่า "การในเรือน หนึ่ง ความคิดในใจ หนึ่ง ความเสียหาย หนึ่ง ไม่ควรจะบอกให้ใครทราบ เมื่อนางปัทมาวดีเป็นแม่มดเช่นนี้ นางก็มิใช่บุตรีของเรา จำเราจะไปหารือโยคีดู" ตรัสเท่านั้นแล้ว ก็เสด็จออกไปที่ท้องพระโรง ตรัสให้ศิษย์ของโยคีถอยห่างออกไป แล้วตรัสถามโยคีว่า "ท่านผู้ทรงความรู้ จงบอกแก่ข้าว่า หญิงที่เป็นแม่มดนั้น ธรรมศาสตร์บัญญัติให้ลงโทษอย่างไร" พุทธิศริระผู้เป็นโยคีทูลว่า "ข้าแต่พระมหาราชา ธรรมศาสตร์กล่าวว่า ถ้าพราหมณ์ หรืองัว หรือหญิง หรือเด็ก หรือผู้ที่อยู่ในปกครองของเรา กระทำความผิดอันนั้น ท่านให้ลงโทษไล่เสียจากบ้านเมือง ถึงแม้จะควรอย่างยิ่งที่จะลงโทษประหารชีวิต ก็ลงโทษถึงปานนั้นไม่ได้ เพราะพระลักษมีไม่โปรด" พระราชาได้ทรงฟังดังนั้น ก็ประทานรางวัลแก่โยคีเป็นอันมาก แล้วเสด็จขึ้นจากท้องพระโรง ครั้นเวลา<noinclude></noinclude> df3ay8atuptfkixt7z6szcaqlqmyeq8 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/98 250 57503 188170 188054 2022-07-29T13:26:30Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๓|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>เที่ยงคืน ก็ตรัสให้ราชบุรุษซึ่งเป็นที่ไว้พระหฤทัยจับนางปัทมาวดีคุมตัวออกไปนอกเมือง แลปล่อยทิ้งไว้กลางป่าซึ่งมากด้วยภูตผีปีศาจแลสิงห์เสือร้ายทั้งปวง ฝ่ายพุทธิศริระกับพระราชกุมารออกจากที่เฝ้า ก็รีบกลับไปป่าช้า ผลัดเครื่องแต่งกายตามเดิม แล้วก็กลับไปเรือนหญิงนางนม ให้รางวัลแก่หญิงนั้นมากมายจนแกนั่งร้องไห้ด้วยความยินดี แล้วชายทั้งสองก็ขึ้นม้าออกตามพวกราชบุรุษที่พานางไปปล่อย ครั้นพบนางกลางป่า ก็ชวนไปกรุงพราณสี เราท่านไม่ต้องสงสัยว่า เมื่อการเป็นเช่นนั้น นางจะยอมเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่องค์เดียวในป่าหรือจะยอมไปกับพระราชกุมาร เวตาลเล่ามาถึงเพียงนี้ ก็ทูลพระวิกรมาทิตย์ว่า "พระองค์ทรงนิ่งฟังมาช้านาน ยังมิได้ตรัสอะไรเลย ที่ทรงนิ่งฟังเช่นนี้ ก็คงจะเป็นด้วยเพลินเรื่องที่ข้าพเจ้าเล่า แต่เมื่อข้าพเจ้าเล่ามาจบเช่นนี้แล้ว ถ้าพระองค์ไม่อธิบายปัญหาที่ข้าพเจ้าจะถามเดี๋ยวนี้ พระองค์คงจะตกนรกเป็นแน่ ปัญหาของข้าพเจ้านั้น คือว่า ชายหนุ่ม<noinclude></noinclude> ro25dhk5vftabpf20s1krwxmmmoo5y3 188171 188170 2022-07-29T13:26:49Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๓|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>เที่ยงคืน ก็ตรัสให้ราชบุรุษซึ่งเป็นที่ไว้พระหฤทัยจับนางปัทมาวดีคุมตัวออกไปนอกเมือง แลปล่อยทิ้งไว้กลางป่าซึ่งมากด้วยภูตผีปีศาจแลสิงห์เสือร้ายทั้งปวง ฝ่ายพุทธิศริระกับพระราชกุมารออกจากที่เฝ้า ก็รีบกลับไปป่าช้า ผลัดเครื่องแต่งกายตามเดิม แล้วก็กลับไปเรือนหญิงนางนม ให้รางวัลแก่หญิงนั้นมากมายจนแกนั่งร้องไห้ด้วยความยินดี แล้วชายทั้งสองก็ขึ้นม้าออกตามพวกราชบุรุษที่พานางไปปล่อย ครั้นพบนางกลางป่า ก็ชวนไปกรุงพราณสี เราท่านไม่ต้องสงสัยว่า เมื่อการเป็นเช่นนั้น นางจะยอมเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่องค์เดียวในป่าหรือจะยอมไปกับพระราชกุมาร เวตาลเล่ามาถึงเพียงนี้ ก็ทูลพระวิกรมาทิตย์ว่า "พระองค์ทรงนิ่งฟังมาช้านาน ยังมิได้ตรัสอะไรเลย ที่ทรงนิ่งฟังเช่นนี้ ก็คงจะเป็นด้วยเพลินเรื่องที่ข้าพเจ้าเล่า แต่เมื่อข้าพเจ้าเล่ามาจบเช่นนี้แล้ว ถ้าพระองค์ไม่อธิบายปัญหาที่ข้าพเจ้าจะถามเดี๋ยวนี้ พระองค์คงจะตกนรกเป็นแน่ ปัญหาของข้าพเจ้านั้น คือว่า ชายหนุ่ม{{วว}}<noinclude></noinclude> 545eilnzgc0t8ttesxed7borbs895f8 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/99 250 57504 188172 188055 2022-07-29T13:32:28Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๔|เรื่องที่ ๑|นิทานเวตาล}}</noinclude>หนึ่ง สหายของชายหนุ่ม หนึ่ง หญิงสาว หนึ่ง บิดาของหญิงสาว หนึ่ง ทั้งสี่นี้ ควรจะติโทษใครมากที่สุด" พระวิกรมาทิตย์ทรงนิ่งตรึกตรอง ยังมิได้ตรัสประการใด เวตาลทูลเตือนว่า "พรองค์จนปัญญาแล้วหรือ" พระวิกรมาทิตย์ตรัสว่า "ท้าวทันตวัตเป็นผู้ที่ควรได้รับความติเตียนมากกว่าคนอื่น" เวตาลทูลถามว่า เพราะเหตุไร พระวิกรมาทิตย์ตรัสว่า "พระวัชรมุกุฏนั้นอยู่ในเวลาที่ลุ่มหลงหญิง เหตุฉะนั้น เสมอกับคนบ้า จะให้รับผิดชอบความประพฤติของตนเองนั้นไม่ได้ พุทธิศริระเป็นข้ารับใช้เจ้า เมื่อทำการให้สำเร็จประสงค์เจ้าแล้ว ก็นับว่า กระทำการดีโดยหน้าที่ ส่วนนางปัทมาวดีนั้นนางเป็นหญิงสาว เพราะฉะนั้น อาจฆ่าคนได้อยู่เสมอ ไม่นับว่า ทำอะไรแปลกประหลาด แต่ท้าวทันตวัตนั้นเป็นเจ้าครองแผ่นดิน ชนมายุไม่น้อย ควรจะรอบรู้การงานทั้งปวง ไม่ควรจะหลงเชื่ออุบายที่<noinclude></noinclude> qfczy8skcd16juumh881p45f2ikoufd หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/101 250 57506 188173 188062 2022-07-29T13:35:39Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๖|เรื่องที่ ๒|นิทานเวตาล}}</noinclude>เวตาลก็เล่าเรื่องซึ่งกล่าวว่า เป็นเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่ง ดังนี้ ในเมืองโภควดี มีพระราชกุมารองค์หนึ่งซึ่งข้าพเจ้าจะกล่าวได้ว่า ทรงเกียรติคุณแลทรงศักดิ์ประดุจดังพระราชบุตรแห่งพระองค์ซึ่งตามเสด็จอยู่ณบัดนี้ เวตาลทูลดังนั้น ประสงค์จะยอพระราชาทางอ้อม แต่พระราชามิได้รับสั่งประการใด เพราะไม่โปรดการยอ แต่ถ้าจำเป็นใครจะต้องยอใครแล้ว พระวิกรมาทิตย์โปรดให้ยอพระองค์เอง ไม่ต้องให้ยอผ่านคนอื่น พระหฤทัยในข้อนี้ เนาวรัตนกวีย่อมทราบและใช้เป็นหลักในการยอพระเกียรติ และใช้การยอพระเกียรติเป็นหลักแห่งความมั่งคั่งของเจ้าบทเจ้ากลอนทั้งเก้านั้น เวตาลเล่าต่อไปว่า พระราชกุมารองค์นั้นทรงนาม พระรามเสน เป็นพระราชบุตรของพระราชาธิบดี ซึ่งข้าพเจ้าจำต้องกล่าวว่า ผิดกับพระองค์มาก เพราะ<noinclude></noinclude> gyur67ok2nnfzrv7t21lya2sx5y2qn4 หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/102 250 57507 188174 188063 2022-07-29T13:38:12Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๗|เรื่องที่ ๒|นิทานเวตาล}}</noinclude>พระราชาองค์นั้นโปรดเข้าป่าล่าเนื้อ โปรดเล่นสกา โปรดผธมกลางวัน เสวยน้ำจัณฑ์กลางคืน โปรดความสำราญซึ่งเป็นไปในทางกาม ประกอบด้วยคุณชั่วหลายอย่าง คุณดีหายาก แต่เป็นที่รักที่นับถือของพระราชบุตรและธิดา เพราะเธอทรงเอาใจใส่ที่จะให้เป็นเช่นนั้น เธอไม่วางลงเป็นบัญญัติมาแต่สวรรค์ว่า จะมีเหตุอันควรก็ดี มิมีก็ดี ลูกจำเป็นต้องรักพ่อให้เต็มความรักซึ่งมีในใจ มิฉะนั้น ต้องตกนรก ไม่เหมือนพ่อแม่บางคนซึ่งถือตัวว่า ทรงคุณธรรมอันดี แต่ใช้ลูกวิ่งตามหลังประหนึ่ง{{...}} เวตาลพูดไม่ทันขาดคำ พระวิกรมาทิตย์ทรงพิโรธเป็นกำลัง ก็เอื้อมพระหัตถ์ไปข้างหลัง จับแขนเวตาลเต็มกำ กระชากด้วยกำลังแรง เวตาลร้องโอย ๆ เหมือนหนึ่งเจ็บปวดมาก แต่ถ้าจะสังเกต ก็เหมือนแกล้งร้องเป็นเชิงเยาะเย้ย ไม่ใช่ร้องด้วยเจ็บ เพราะเมื่อพระราชาหยุดกระชาก เวตาลก็กล่าวต่อไปด้วยสำเนียงแจ่มใสว่า {{มปก}}<noinclude></noinclude> 976zxvtmm8ssiglb30ppartywiqrb9s หน้า:เวตาล - นมส - ๒๔๘๒.pdf/103 250 57508 188175 188064 2022-07-29T13:42:39Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หสล|๘๘|เรื่องที่ ๒|นิทานเวตาล}}</noinclude>พ่อทั้งหลายแบ่งเป็นสามประเภท และถ้าจะกล่าวการจำแนกประเภทแห่งแม่ก็ฉันเดียวกัน พ่อประเภทที่หนึ่งเป็นคนชะนิดที่กล่าวได้โดยอุปมาว่า มีอกกว้างสามศอก มีใจกว้างตามขนาดแห่งอก พ่อชะนิดนี้เป็นคนใจดี ชอบสนุก เอาใจลูก มักจะจน แต่ลูกรักเหมือนเทวดา พ่อประเภทที่สองอกกว้างเพียงศอกคืบ มีใจแคบเข้ามาตามส่วนแห่งอก พ่อชะนิดนี้ ถ้าได้ยินข้าพเจ้าพูดดังที่พระองค์ได้ยินอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คงคิดในใจว่า อ้ายตัวนี่มันพูดถูก กูจะจำคำของมันเป็นคติ ลองดูว่า จะเป็นผลอย่างไรบ้าง คิดดังนั้นแล้ว ก็กลับไปบ้าน ปฏิบัติการเอาใจลูกเป็นขนานใหญ่ แต่ไม่ช้าก็กลับเป็นไปอย่างเก่า เพราะความเที่ยงในใจไม่มี พ่อประเภทที่สามเป็นคนอกกว้างศอกเดียวไม่มีเศษ สมมุติเป็นที่สุดแห่งความแคบ และใจก็ได้ขนาดกับอก พระองค์ผู้เป็นพระราชาธิบดีอันสูงสุด เป็นตัวอย่างพ่ออกศอกเดียว คือ ประเภทที่สามนี้ เมื่อยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงเรียนวิชาซึ่งมีผู้สั่งสอนถวาย{{วว}}<noinclude></noinclude> 5v2ax9c4tf3tuj2dncbgtfr8od19bgp หน้า:อธิบายเบ็ดเตล็ดฯ พงศาวดารฯ - ดำรง - ๒๔๖๙.pdf/1 250 57527 188152 2022-07-29T12:04:32Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude>[[File:Wachirayan Royal Library Seal.svg|center|170px]] {{ก|อธิบายเบ็ดเตล็ดในเรื่องพงศาวดารสยาม|บ=font-size:140%}} {{ก|พระเจ้าบรมวงศเธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ}} {{ก|ทรงพระนิพนธ์}} {{สกอ|sp|100}} {{ก|พิมพ์ในงารพระราชทานเพลิงศพ}} {{ก|หม่อมเจ้าหญิงพร้อมเพราพรรณ ทจ. รัตน จ ป ร ๓.}} {{ก|ชายาในพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนสิงหวิกรมเกรียงไกร}} {{ก|เมื่อปีขาล พ.ศ. ๒๔๖๙}} {{สกอ|sp|100}} {{ก|พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร|บ=font-size:90%}}<noinclude></noinclude> j12cchdo9frsvw55gwlgqevi9pyp749 หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/10 250 57528 188177 2022-07-30T03:37:32Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder.}}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1.}} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844.}}|คริศศักราช ๑๘๔๔.|ใบ ๓. No. 3.}} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ.{{ชว}}The Atmosphere.}}<section end="10-2" /><noinclude></noinclude> s0zejrpzg5257ffrsidv5ppf3w42dcl 188178 188177 2022-07-30T03:40:51Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder.}}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1.}} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844.}}|คริศศักราช ๑๘๔๔.|ใบ ๓. No. 3.}} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ.{{ชว}}The Atmosphere.}} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า.แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป.ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา.ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง.ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว.แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ.ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง.แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก.นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น.แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที.ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้.แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้วๆยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้.แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่างๆตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />นกถือหนังสือCarrierPigeons แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่างๆ, เปนทำเนียม.แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน.ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่นๆ, มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น.อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลกๆแลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้.แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกทีๆ, นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกทีๆ.เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้.เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> 4dxh1gjyqeu6vymiikecf2zagmc32uz 188191 188178 2022-07-30T04:35:01Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder.}}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1.}} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844.}}|คริศศักราช ๑๘๔๔.|ใบ ๓. No. 3.}} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ.{{ชว}}The Atmosphere.}} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า.แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป.ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา.ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆ ก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง.ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว.แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ.ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง.แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก.นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น.แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที.ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้.แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้ว ๆ ยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้.แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่าง ๆ ตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />นกถือหนังสือCarrierPigeons แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่าง ๆ , เปนทำเนียม.แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน.ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่น ๆ , มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น.อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลก ๆ แลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้.แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกที ๆ , นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกที ๆ .เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้.เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> febw9akcgoozg94pgzsaqsyxffgr477 188192 188191 2022-07-30T04:36:22Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder.}}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1.}} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844.}}|คริศศักราช ๑๘๔๔.|ใบ ๓. No. 3.}} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ.{{ชว}}The Atmosphere.}} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า.แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป.ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา.ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆ ก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง.ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว.แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ.ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง.แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก.นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น.แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที.ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้.แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้ว ๆ ยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้.แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่าง ๆ ตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />{{ก|นกถือหนังสือ{{ชว}}Carrier Pigeons}} แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่าง ๆ , เปนทำเนียม.แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน.ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่น ๆ , มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น.อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลก ๆ แลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้.แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกที ๆ , นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกที ๆ .เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้.เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> n7t6tbujv8hys97sytq6kq9yuuysrnr 188193 188192 2022-07-30T04:36:47Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder. }}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1. }} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844. }}|คริศศักราช ๑๘๔๔. |ใบ ๓. No. 3. }} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ. {{ชว}}The Atmosphere. }} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า. แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป. ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา. ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆ ก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง. ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว. แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ. ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง. แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก. นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น. แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที. ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้. แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้ว ๆ ยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้. แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่าง ๆ ตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />{{ก|นกถือหนังสือ{{ชว}}Carrier Pigeons}} แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่าง ๆ , เปนทำเนียม. แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน. ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่น ๆ , มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น. อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลก ๆ แลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้. แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกที ๆ , นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกที ๆ . เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้. เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> 8h5h82regn4fqy0ye19dqprudrvrlca 188194 188193 2022-07-30T04:51:30Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder. }}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1. }} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844. }}|คริศศักราช ๑๘๔๔. |ใบ ๓. No. 3. }} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ. {{ชว}}The Atmosphere. }} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า. แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป. ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา. ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆ ก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง. ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว. แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ. ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง. แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก. นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น. แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที. ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้. แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้ว ๆ ยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้. แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่าง ๆ ตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />{{ก|นกถือหนังสือ{{ชว}}Carrier Pigeons}} แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่าง ๆ, เปนทำเนียม. แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน. ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่น ๆ, มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น. อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลก ๆ แลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้. แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกที ๆ, นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกที ๆ. เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้. เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> f283aanv8mfsdgs4qg4llp5wztygfk0 188195 188194 2022-07-30T04:52:57Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder. }}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1. }} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844. }}|คริศศักราช ๑๘๔๔. |ใบ ๓. No. 3. }} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ. {{ชว}}The Atmosphere. }} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า. แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป. ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา. ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆ ก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง. ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว. แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ. ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง. แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก. นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น. แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที. ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้. แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้ว ๆ ยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้. แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่าง ๆ ตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />{{ก|นกถือหนังสือ{{ชว}}Carrier Pigeons}} แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่าง ๆ, เปนทำเนียม. แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน. ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่น ๆ, มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น. อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลก ๆ แลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้. แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกที ๆ, นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกที ๆ. เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้. เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> o9cni9na68i2it9a793i6temmcnftec 188196 188195 2022-07-30T05:23:23Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude><section begin="10-1" />{{ก|๏หนังสือจดหมายเหตุ๚|บ=font-size:200%}} {{สต}} {{สต}} {{ก|{{พญ|Bangkok Recorder. }}|บ=font-size:140%}} {{สต}} {{หว|{{พญ|Vol. 1. }} เล่ม ๑. บังกอก เดือนเก้า ปีมโรง จุลศักราช ๑๒๐๖. {{พญ|September, 1844. }}|คริศศักราช ๑๘๔๔. |ใบ ๓. No. 3. }} {{สต}} {{สต}} <section end="10-1" /> <section begin="10-2" />{{ก|ตำราลมอากาษ. {{ชว}}The Atmosphere. }} อันว่าอากาษนั้นลอ้มรอบแผ่นดินทุกทิศ, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินทุกทิศ, แต่ลมนั้นเบากว่าน้ำหลายเท่า. แลสิ่งของทั้งหมดอยู่บนแผ่นดิน, เปนหนักมากนอ้ยตามกำลังแผ่นดินจะชักเข้าไป. ทองคำหนักกวาเหลก, เหลกหนักกว่าไม้, ไม้หนักกว่ากระดาด, เพราะเหตุแผ่นดินได้ชักตามของหนักแลเบา. ถ้าแผ่นดินมิได้ชักของทั้งปวงนั้น, ๆ ก็จะมีน้ำหนักนอ้ยจะเบาเท่ากันทุกสี่ง. ฝ่ายว่าอากาษนั้นแผ่นดินได้ชักแรงเท่าไร, นักปราชได้คิดกำหนฏไว้แล้ว. แลอากาษนั้นอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนซะเลก็ดี, นิ้วแลนิ้วทั่วไปหนักได้สิบชั่ง, เปรียบเหมือนน้ำอยู่บนแผ่นดินฦกได้ห้าวากับเจดนิ้ว, อากาษนั้นก็หนักเท่ากับน้ำนั้นทุกทิศ. ถ้าผู้ใดมีวิมุติสงไสย, จะใค่รลองดูว่า, จะจริงเหมือนว่าแล้วนั้นหฤๅไม่, ถ้าจะลองจงทำท่อสี่เหลี่ยม, ข้างในนั้นกว้างเหลี่ยมละนิ้ว, สูงหกวาให้ตันไว้ข้างหนึ่ง. แล้วใส่น้ำให้เตมจึ่งกลับท่อนั้น, เอาก้นขึ้นเอาปากข้างเปิดไว้นั้น, ลงจุ่มไว้ในขันน้ำก็ได้ในชามน้ำก็ได้, น้ำในท่อนั้นก็จะทรุดลงมาคงยู่แต่ห้าวากับเจดนี้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันน้ำในขันแลในชามนั้นไว้ทุก. นี้วเท่ากันกับน้ำในท่อนั้น. แล้วจงเทที่อยู่ในท่อนั้นขึ้นชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเหมือนที่ว่าแล้ว. อีกประการหนึ่ง, อากาษอยู่บนแผ่นดินก็ดี, อยู่บนชะเลก็ดี, แลนี้วแลนี้วทั่วไป, หนักเท่ากับปรอดสูงสามสิบเจดนี้วทุกที. ถ้าจะรู้เปนสำคัญแน่, จงเอาท่อสี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนี้ว, ยาวสามสิบแปดนี้ว, ให้ก้นหันข้างหนึ่ง, จึ่งเอาปรอดใส่ให้เตมแล้ว, จึ่งกลับท่อนั้นเอาก้นขึ้นเอาปากลงในขันในชามเปล่าก็ได้, ปรอดนั้นก็จะทรุดลงมาคงอยู่แต่สามสิบเจดนิ้วเท่านั้น, ไม่ได้ทรุดลงมาอีกเลย, เพราะเหตุลมอากาษนั้นดันปรอดที่ปากท่อนั้นไว้ทุกนี้วทุกนึ้ว, เท่ากันกับปรอดในท่อนั้น, ไม่ให้ปรอดในท่อนั้นไหลออกได้. แล้วจงเทปรอดในท่อนั้นออกชั่งดู, ก็จะเหนว่าหนักสิบชั่งเท่ากัน, เปนสำคัญว่า, อากาษหนักเท่ากับปรอดในท่อสามสิบเจดนี้ว, แลหนักเท่ากับน้ำในท่อห้าวากับเจดนี้วเหมือนกัน. อีกประการหนึ่ง, ถ้าจะเอาท่อทำดว้ยเหลกก็ดี, แลทองแดงก็ดี, สี่เหลี่ยมข้างในเหลี่ยมละนิ้ว, ยาวสั้นตามชอบใจ, ให้ตันข้างหนึ่งแล้ว, จึ่งเอาปากข้างเปิดนั้นคว่ำลงกับกอ้นตะกั่วแลกอ้นทองแดง, หนักสิบชั่งให้อัดลมไว้, แลทำรูข้างก้นเปิดหนีดหนึ่ง, ภอจะชักสูบลมให้ออกหมดแล้ว, ก็ปิดรูนั้นเสีย, ท่อนั้นก็จะยกกอ้นตะกั่วแลของทั้งปวงหนักได้สิบชั่ง, เปนเพราะเหตุว่าไม่มีลมข้างใน, แลลมอากาศข้างนอกนั้นมันจึ่งดันไว้ให้ติดหนักสิบชั่งได้, เปนสำคัญว่า, ลมอากาษอยู่ทุกนิ้ว ๆ ยกหนักได้สิบชั่งสิ้นตำราแต่เท่านี้. แลเดือนภายหน้าจะว่าดว้ยเครื่องสูบน้ำ, แลเครื่องต่าง ๆ ตามวิชาที่เราว่ามาแล้ว. <section end="10-2" /> <section begin="10-3" />{{ลห|ข1|นกถือหนังสือ{{ชว}}Carrier Pigeons}} แต่กอ่นเมืองตูระเกียเมืองเประเซียใช้นกพิราบถือหนังสือบอกข่าวต่าง ๆ, เปนทำเนียม. แลนกพิราบนั้นไม่เหมือนนกพิราบในเมืองนี้, แต่ว่าคล้ายกัน. ถ้าเขาจะเอานกพิราบนั้นไปจากที่มันเกิด, แลเอาไปปล่อยในอื่น ๆ, มันก็จะกลับมาสู่ที่ที่มันเกิดนั้นได้โดยเรว, ดว้ยใจมันผูกอยู่ในที่นั้น. อีกประการหนึ่ง, เขาหัดมันใว้, เมึ่อมันเปนเลก ๆ แลมีปีกบินได้, แลเขาก็เอาตัวนกนั้น, ไปสู่หนทางไกลได้รอ้ยเส้นสองรอ้ยเส้น, แล้วก็ปล่อยนกนั้นนกนั้นก็บินมาสู่ที่ของตนได้. แล้วเขาก็เอานกนั้นไปปล่อยให้ไกลไปทุกที ๆ, นกนั้นก็กลับมาสู่ที่ของตนได้ทุกที ๆ. เขาฝึกหัดมันให้มันเคยอย่างนี้. เมื่อมันเคยแล้ว, ถึง<section end="10-3" /><noinclude></noinclude> 0ku6jk6f704b4cfop8eyjljloheb6l0 หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/11 250 57529 188179 2022-07-30T03:43:37Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่นๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล. LowellCottons. ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น๑๖๙๖๘๔หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้๕๙๐๐หาบ. นกใหญ่. Alargebird. จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆนั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่นๆบ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. ราคากำปั่นไฟอีกที. PriceofSteamboatsagain. จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก๗๕๓๓๕บาท. NumberofSheepinEnglandandtheUnitedStates. ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่นๆอีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าคักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าคักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> iz5ejhfnkgu0sfoho83l7a8mewg9f4o 188197 188179 2022-07-30T05:28:12Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่น ๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆ ได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. {{ลห|ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล.{{ชว}}Lowell Cottons.}} ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น๑๖๙๖๘๔หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้๕๙๐๐หาบ. {{ลห|ข3|นกใหญ่. Alargebird. จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆ นั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่น ๆ บ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆ ก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. {{ลห|ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที.{{ชว}}Price of Steamboats again.}} จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก๗๕๓๓๕บาท. {{ลห|ข5|Number of Sheep in England and the United States.}} ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าคักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าคักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> d800nr6vw5pxyu4jggydxyzoossuv7q 188198 188197 2022-07-30T05:28:39Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่น ๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆ ได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. {{ลห|ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล.{{ชว}}Lowell Cottons.}} ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น๑๖๙๖๘๔หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้๕๙๐๐หาบ. {{ลห|ข3|นกใหญ่. Alargebird.}} จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆ นั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่น ๆ บ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆ ก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. {{ลห|ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที.{{ชว}}Price of Steamboats again.}} จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก๗๕๓๓๕บาท. {{ลห|ข5|Number of Sheep in England and the United States.}} ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าคักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าคักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> 333ee80f0aqfnoi49hgc3tvi5xszj6c 188199 188198 2022-07-30T05:29:36Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่น ๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆ ได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. {{ลห|ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล.{{ชว}}Lowell Cottons.}} ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น ๑๖๙๖๘๔ หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้ ๕๙๐๐ หาบ. {{ลห|ข3|นกใหญ่.{{ชว}}Alargebird.}} จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆ นั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่น ๆ บ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆ ก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. {{ลห|ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที.{{ชว}}Price of Steamboats again.}} จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก ๗๕๓๓๕ บาท. {{ลห|ข5|Number of Sheep in England and the United States.}} ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าคักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าคักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> ioeynptm5p7gxo9e7en54wrth0tdhtn 188200 188199 2022-07-30T05:30:18Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่น ๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆ ได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. {{ลห|ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล.{{ชว}}Lowell Cottons.}} ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น ๑๖๙๖๘๔ หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้ ๕๙๐๐ หาบ. {{ลห|ข3|นกใหญ่.{{ชว}}Alargebird.}} จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆ นั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่น ๆ บ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆ ก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. {{ลห|ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที.{{ชว}}Price of Steamboats again.}} จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก ๗๕๓๓๕ บาท. {{ลห|ข5|Number of Sheep in England and the United States.}} ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าคักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าคักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> b37bg2bzcs32nnrpmmqewoiy6vgi4id 188201 188200 2022-07-30T05:30:35Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่น ๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆ ได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. {{ลห|ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล.{{ชว}}Lowell Cottons.}} ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น ๑๖๙๖๘๔ หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้ ๕๙๐๐ หาบ. {{ลห|ข3|นกใหญ่.{{ชว}}A large bird.}} จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆ นั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่น ๆ บ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆ ก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. {{ลห|ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที.{{ชว}}Price of Steamboats again.}} จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก ๗๕๓๓๕ บาท. {{ลห|ข5|Number of Sheep in England and the United States.}} ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าคักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าคักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> bfbxmtq376ke536oyb7x2ilm8kadxdm 188248 188201 2022-07-30T06:56:39Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|9|1}}</noinclude>จะเอามันไปทางไกลหลายวันแล้วจะปล่อยมัน, มันก็จะกลับมาสู่ที่ของมันได้. แต่กอ่นนั้นมีพ่อค้าอังกฤษพวกหนึ่งอยู่ในเมืองอเลโปเปนประเทษตูระเกีย, เขาเคยไช้นกพิราบให้บอกข่าวกำปั่นว่ากำปั่นนั้นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อไร. แลเมืองซะกันดะรูนนั้นอยู่ริมชะเล, เมืองอเลโปนั้นอยู่ที่ดอน, เมืองสองเมืองนี้หนทางไกลกันศักสองสามวัน. แลพ่อค้าในเมืองอเลโปนั้นก็สังเกดว่า, อีกศักสองวันสามวัน, จะมีกำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนแล้ว, เขาก็ฝากนกพิราบนั้นไปถึงพ่อค้าซึ่งอยู่ในเมืองซะกันดะรูน. ถ้ากำปั่นเข้ามาถึงเมืองซะกันดะรูนเมื่อใด, พ่อค้าในเมืองนั้นก็เฃียนหนังสือผูกในนกพิราบ, แล้วก็ปล่อยนกพิราบให้มันไปหาพ่อค้าที่อยู่ในเมืองอเลโปนั้น. เมื่อนกพิราบมันมานั้นเรวนัก, หนทางไกลกันสองวันสามวัน, มันมานั้นสองโมงสามโมงก็ถึง. ถ้าเขาจะไช้การเรว, เขาก็เอาแม่นกที่มีลูกออ่นยังบินไม่ได้ฝากไป, ถ้ามิฉนั้นก็เอาแม่นกที่ยังฟักไข่อยู่ฝากไป. แม่นกเหล่านี้แลมันจะกลับมาเรวกว่านกอื่น ๆ, ดว้ยมันคิดถึงลูกนัก. อนึ่งเขาก็ฝากนกอื่นให้สืบข่าว. แลมีเรื่องในบูราณนั้น, ว่ามีกระษัตรในเมืองอายฆุบโตองค์หนึ่ง, มีนกกาตัวหนึ่งเปนที่สำหรับไช้, ๆ ได้ง่าย, ไช้เปนผลเปนประโยชน์มากนัก. กระษัตรนั้นรักษนกกาตัวนั้นมาก, ครั้นนกกาตัวนั้นตายกระษัตรนั้นก็เอานกกานั้นไปฝังไว้ในอุโมง, เหมือนกับฝังลูกของตนนั้น. แลเราคิดในใจของเราว่า, เหนจะไช้นกพิราบในเมืองนี้ให้ไปเอาข่าวในเมืองปากน้ำก็จะได้ดอกกระมัง. {{ลห|ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล.{{ชว}}Lowell Cottons.}} ในประเทษอเมริกามีเมืองหนึ่งชื่อว่าโลเวล, เขาทำผ้าฟ่ายฃายมาก. ผ้าฃาวพับที่เขาฃายที่แพในเมืองนี้, ลางทีก็เปนผ้าที่มาแต่เมืองโลเวล, ดว้ยเหตุว่าเราได้เหนหนังสือที่เขาเฃียนติดอยู่กับพับผ้าฃาวนั้น. แลในเมืองโลเวลนั้นวันหนึ่งเขาธอผ้าฃาวยาวได้ประมาณศักสองแสนห้าหมื่นศอก. คนที่ทำผ้าทั้งปั่นทั้งธอนั้นประมาณได้ศักเก้าพันคน. วันหนึ่งเขาไช้ฟ่ายทำผ้านั้นสิ้นฟ่ายวันละห้ารอ้ยสี่สิบสี่หาบ, ปีหนึ่งคิดเปนฟ่ายสิ้น ๑๖๙๖๘๔ หาบ. จะภอบันทุกกำปั่นได้ศักห้าสิบลำ, ลำหนึ่งคิดบันทุกประมาณได้ ๕๙๐๐ หาบ. {{ลห|ข3|นกใหญ่.{{ชว}}A large bird.}} จะว่าดว้ยนกใหญ่ในเกาะเซลันดา, ๆ นั้นขึ้นแก่เมืองอังกฤษ. เมื่อลว่งไปได้สองสามปีตั้งแต่ปีนี้ไปเจ้าเมืองเซลันดานั้นได้ยินว่าที่ปากน้ำแห่งหนึ่ง, มีกะดูกนกใหญ่ตายจมอยู่ที่แผ่นดินเปนอันมาก. เจ้าเมืองจึ่งสั่งชาวเกาะเซลันดาว่าจะซื้อซึ่งกระดูกนกนั้น, ให้พวกเกาะเซลันดาขุดมาขาย. พวกเกาะเซลันดาก็ขุดซึ่งกระดูกนกนั้น, ลางที่ก็พบแต่กระดูกฃาบ้าง, ลางทีก็พบแต่กระดูกอื่น ๆ บ้าง, ลางทีก็พบกระดูกบริบูรรณ์อยู่ทั้งตัว. ได้แล้วก็เอาไปฃายแก่เจ้าเมือง, ๆ ก็เอากระดูกนกนั้นต่อกันเข้าตามที่ของมัน, แล้วก็วัดกระดูกนั้น, โดยสูงนั้นวัดได้เก้าศอก, เปนแต่กระดูกนกตาย. แลอยู่มามีลูกเรืออังกฤษคนหนึ่งว่าได้เหนซึ่งนกเปนสูงเท่านกตายนั้น. มันเที่ยวกินอยู่ที่ริมชะเลในเกาะเซลันดานั้น, ครั้นลูกเรือเข้าไปใก้ลนกนั้น, มันก็เดินหนีขึ้นภูเฃาเสียโดยเรว. {{ลห|ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที.{{ชว}}Price of Steamboats again.}} จะว่าดว้ยราคากำปั่นไฟอีกที่หนึ่ง. ในหนังสือจดหมายเหตุใบที่สอง, เราได้บอกราคาไว้ว่าเปนเงินห้าหมื่นสองพันแปดรอ้ยเจดสิบห้าบาท. ครั้นเราตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่าราคาผิดพลั้งไปบ้าง, ดว้ยหนังสือแบบที่มาแต่เมืองกาละกัตตานั้นเปนความมัวอยู่ไม่ชัด. ครั้นตรึกตรองดูใหม่ก็เหนว่า, พวกพ่อค้าที่สืบกำปั่นนั้นเขาสืบกำปั่นสองลำเปินคู่. สองลำนั้นเท่ากันแต่ลำหนึ่งมีเครื่องไฟแลมีหอ้งสำหรับคนจะเดินสารไป, แต่ลำหนึ่งไม่มีเครื่องไฟไม่มีหอ้งที่คนจะเดินสาร, เปนแต่กำปั่นบันทุกของ, ไม่มีใบ, กำปั่นไฟตอ้งลาก. เหตุฉนั้นราคากำปั่นทั้งสองนั้นจะไม่เสมอกัน, ลำที่มีเครื่องไฟจะมีราคามากกว่าลำที่ไม่มีเครื่องไฟ. เราคิดราคาใหม่, ว่าราคากำปั่นไฟนั้นจะมีราคาศัก ๗๕๓๓๕ บาท. {{ลห|ข5|Number of Sheep in England and the United States.}} ในเมืองอังกฤษแลเมืองอเมริกาแลเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง, เฃาไช้ผ้าศักลาตมาก, ดว้ยว่าเมืองเหล่านั้นเปนเมืองหนาว. ผ้าศักลาตนั้นเขาทำด้วยขนแกะ. ขนแกะนั้นปีหนึ่งเขาตัดหนหนึ่ง, ตัดเมื่อสิ้นระดูหนาวแล้ว. แกะตัวหนึ่งนั้นเขาตัดได้ขนหนักได้สองชั่งจีนบ้างสามชั่งจีนบ้าง. แลแมืองอังกฤษนั้นมีตัวแกะอยู่ประมาณคักสามสิบสองล้านตัว, แลเมืองอเมริกานั้นมีตัว<noinclude></noinclude> iqajzjdqvcwro9yz1p7ygo20pwlnaov หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/12 250 57530 188180 2022-07-30T03:48:02Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|10|1}}</noinclude>แกะอยู่ประมาณศัก๒๐ล้านตัว. แลแกะ๒๐ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัวๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ๒๐ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. ม้าเมืองอำรับ. Arabianhorses. จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบๆ. VaccinationSuccessfulinSiam. ที่นี้จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลายๆพันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่างๆดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า๔๖ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรงๆว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือบุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใสๆ. ครั้นถึง๑๑วัน๑๓วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง๑๙คน๒๐คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใสๆอยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. ตำรารักษาแผลต่อไป. TreatmentofUlcersContinued. ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาวๆขึ้นออ่นๆกอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า<noinclude></noinclude> h04qr6dei15qc3cq8r8vo9yi2tupzko 188202 188180 2022-07-30T05:31:07Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude>แกะอยู่ประมาณศัก๒๐ล้านตัว. แลแกะ๒๐ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัวๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ๒๐ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. ม้าเมืองอำรับ. Arabianhorses. จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบๆ. VaccinationSuccessfulinSiam. ที่นี้จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลายๆพันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่างๆดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า๔๖ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรงๆว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือบุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใสๆ. ครั้นถึง๑๑วัน๑๓วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง๑๙คน๒๐คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใสๆอยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. ตำรารักษาแผลต่อไป. TreatmentofUlcersContinued. ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาวๆขึ้นออ่นๆกอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า<noinclude></noinclude> 7gkf0996alc961tmc1zdqt1pu1ahm9b 188203 188202 2022-07-30T05:38:00Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude>แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. ม้าเมืองอำรับ. Arabian horses. จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ. Vaccination Successful in Siam. ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. ตำรารักษาแผลต่อไป. Treatment of Ulcers Continued. ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า<noinclude></noinclude> 9mxbtf4eav4u2jhzscoj6st4s6z5mv9 188204 188203 2022-07-30T05:38:31Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude><section begin="12-1" />แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. ม้าเมืองอำรับ. Arabian horses. จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ. <section end="12-1" /> <section begin="12-2" />Vaccination Successful in Siam. ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. <section end="12-2" /> <section begin="12-3" />ตำรารักษาแผลต่อไป. Treatment of Ulcers Continued. ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า <section end="12-3" /><noinclude></noinclude> 8g3egd1tndhvu6vezqwhb17ws1adg23 188205 188204 2022-07-30T05:40:51Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude><section begin="12-1" />แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. {{ลห|ข6|ม้าเมืองอำรับ.{{ชว}}Arabian horses.}} จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ. <section end="12-1" /> <section begin="12-2" />{{ก|Vaccination Successful in Siam.}} ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. <section end="12-2" /> <section begin="12-3" />{{ก|ตำรารักษาแผลต่อไป.{{ชว}}Treatment of Ulcers Continued.}} ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า <section end="12-3" /><noinclude></noinclude> 59q9k9l0ped7r6ju9kepz6cuqw5qojk 188206 188205 2022-07-30T05:42:23Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude><section begin="12-1" />แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. {{ลห|ข6|ม้าเมืองอำรับ.{{ชว}}Arabian horses.}} จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ. <section end="12-1" /> <section begin="12-2" />{{ก|Vaccination Successful in Siam.|บ=font-size:120%}} ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. <section end="12-2" /> <section begin="12-3" />{{ก|ตำรารักษาแผลต่อไป.{{ชว}}Treatment of Ulcers Continued.}} ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า <section end="12-3" /><noinclude></noinclude> 3pm913m5vyojge22lyir9abgedadqz4 188207 188206 2022-07-30T05:42:41Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude><section begin="12-1" />แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. {{ลห|ข6|ม้าเมืองอำรับ.{{ชว}}Arabian horses.}} จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ. <section end="12-1" /> <section begin="12-2" />{{ก|Vaccination Successful in Siam.|บ=font-size:120%}} ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. <section end="12-2" /> <section begin="12-3" />{{ก|ตำรารักษาแผลต่อไป.{{ชว}}Treatment of Ulcers Continued.}} ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า <section end="12-3" /><noinclude></noinclude> 29ra40yonhu0o307h88f499mbzp7rqz 188216 188207 2022-07-30T06:02:03Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|2|10|1}}</noinclude><section begin="12-1" />แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า. {{ลห|ข6|ม้าเมืองอารับ.{{ชว}}Arabian horses.}} จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ. <section end="12-1" /> <section begin="12-2" />{{ก|Vaccination Successful in Siam.|บ=font-size:120%}} ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย. ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้. จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย. <section end="12-2" /> <section begin="12-3" />{{ก|ตำรารักษาแผลต่อไป.{{ชว}}Treatment of Ulcers Continued.}} ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า <section end="12-3" /><noinclude></noinclude> 2k0vfjayppl906n2jo84pjgkcyuq21c หน้า:BKK Rec vol 1a.pdf/13 250 57531 188181 2022-07-30T03:48:46Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude>ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่งถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หายเว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่นจึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลกๆเปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบาๆที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวันจนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้วจึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออก. แต่บางๆวางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาดๆในที่๑ที่๒ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้งเหนีอวที่สองในจดหมายเหตุใบที่๑นั้นทาผ้าให้บางๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บางๆปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้ามสาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่าซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ยเพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่าซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่าๆ. ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน<noinclude></noinclude> pys5u76jozi48osyee7913s6a1zauks 188182 188181 2022-07-30T04:02:39Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude>ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน<noinclude></noinclude> bl7im7ctn40zxxy8mjvkrp6dcdmyzzr 188183 188182 2022-07-30T04:03:39Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} <section end="13-2" /><noinclude></noinclude> szdtty2ee0esom70w85x3a8r9eupyvs 188184 188183 2022-07-30T04:06:42Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- |}<section end="13-2" /><noinclude></noinclude> afvoeyizgfuctvt8o65ihnmkps1xsl7 188185 188184 2022-07-30T04:19:18Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ผ้าใบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ขี้ผึ้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | กำญานอย่างกลาง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | หมากแห้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | งาช้างใหญ่ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | งาช้างเลก | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | หนังควายดี | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครามไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำมันมะพร้าวไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกลอ่น | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกเทด | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนีก ๔๐ หาบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำตายซายเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เกลือเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝางเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครั่งเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ตะกั่วเกรียบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | รง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ด้ายดิบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- |}<section end="13-2" /><noinclude></noinclude> bd1oikoqn63g1ucfymzitqr9ksyqwfv 188186 188185 2022-07-30T04:21:04Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ผ้าใบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ขี้ผึ้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | กำญานอย่างกลาง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | หมากแห้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | งาช้างใหญ่ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | งาช้างเลก | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | หนังควายดี | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครามไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำมันมะพร้าวไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกลอ่น | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกเทด | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนีก ๔๐ หาบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำตายซายเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เกลือเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝางเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครั่งเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ตะกั่วเกรียบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | รง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ด้ายดิบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- |} <section end="13-2" /> <section begin="13-3" />{{พญล|The recorder}} is published on the first Thursday of every month, at the press of the mission of the A. B. C. F. M. in Siam. Price, one tical, or sixty cents, a year.<section end="13-3" /><noinclude></noinclude> 6ocne0n3g4djw89yh8j28jupyv8hjme 188187 188186 2022-07-30T04:22:31Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ผ้าใบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ขี้ผึ้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | กำญานอย่างกลาง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | หมากแห้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | งาช้างใหญ่ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | งาช้างเลก | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | หนังควายดี | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครามไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำมันมะพร้าวไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกลอ่น | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกเทด | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนีก ๔๐ หาบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำตายซายเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เกลือเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝางเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครั่งเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ตะกั่วเกรียบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | รง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ด้ายดิบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- |} <section end="13-2" /> <section begin="13-3" />หนังสือฃ่าวนี้ตีภิมหน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ที่บ้านพวกครูอเมริกาอาไศรย. ตีเดือนละแผ่น, คือ ปีหนึ่งสิบสองแผ่น. ราคา, ถ้าซื้อเปนปี, ก็เปนบาทหนึ่ง{{ปตปต|,}} ถ้าซื้อเปนแผ่น, ก็เปนแผ่นละเฟื้อง. {{พญล|The recorder}} is published on the first Thursday of every month, at the press of the mission of the A. B. C. F. M. in Siam. Price, one tical, or sixty cents, a year.<section end="13-3" /><noinclude></noinclude> 5ye2g6we5zi5vmqu1lzuzrbm3axn09i 188188 188187 2022-07-30T04:25:29Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๐ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | ๕๓ | {{ts|bl}} | ๓ |- | {{ts|al}} | ผ้าใบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๓ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๑๕ | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ขี้ผึ้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๐ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | ๕๓ | {{ts|bl}} | ๓ |- | {{ts|al}} | กำญานอย่างกลาง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๘ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๖๑ | {{ts|bl}} | ๗ |- | {{ts|al}} | หมากแห้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑ |- | {{ts|al}} | เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๙ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๒๕ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | ๒๖ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๓ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๒๖ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | งาช้างใหญ่ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๖๗ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑๘๓ | {{ts|bl}} | ๗ |- | {{ts|al}} | งาช้างเลก | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๐๐ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑๓๓ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | หนังควายดี | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๗ | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครามไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๐ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ |- | {{ts|al}} | น้ำมันมะพร้าวไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๐ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๗ | {{ts|bl}} | ๐ |- | {{ts|al}} | พริกลอ่น | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๔ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกเทด | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนีก ๔๐ หาบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๙๗ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำตายซายเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๘ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๙ | {{ts|bl}} | ๑ |- | {{ts|al}} | เกลือเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓๖ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝางเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครั่งเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๘ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๑๑ | {{ts|bl}} | ๕ |- | {{ts|al}} | ตะกั่วเกรียบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๒๕ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | ๒๗ | {{ts|bl}} | ๔ |- | {{ts|al}} | รง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๑๗ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ด้ายดิบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓๐ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๕๕ | {{ts|bl}} | ๒ |- |} <section end="13-2" /> <section begin="13-3" />หนังสือฃ่าวนี้ตีภิมหน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ที่บ้านพวกครูอเมริกาอาไศรย. ตีเดือนละแผ่น, คือ ปีหนึ่งสิบสองแผ่น. ราคา, ถ้าซื้อเปนปี, ก็เปนบาทหนึ่ง{{ปตปต|,}} ถ้าซื้อเปนแผ่น, ก็เปนแผ่นละเฟื้อง. {{พญล|The recorder}} is published on the first Thursday of every month, at the press of the mission of the A. B. C. F. M. in Siam. Price, one tical, or sixty cents, a year.<section end="13-3" /><noinclude></noinclude> 0ox3e3pjniz016yowdwr93dcdlc4o20 188189 188188 2022-07-30T04:28:01Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๐ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | ๕๓ | {{ts|bl}} | ๓ |- | {{ts|al}} | ผ้าใบ | {{ts|al}} | พับละ | {{ts|bl}} | ๑๓ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๑๕ | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ขี้ผึ้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๐ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | ๕๓ | {{ts|bl}} | ๓ |- | {{ts|al}} | กำญานอย่างกลาง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๘ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๖๑ | {{ts|bl}} | ๗ |- | {{ts|al}} | หมากแห้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑ |- | {{ts|al}} | เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๙ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง | {{ts|al}} | ห่อละ | {{ts|bl}} | ๒๕ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | ๒๖ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ | {{ts|al}} | ห่อละ | {{ts|bl}} | ๑๓ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๒๖ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | งาช้างใหญ่ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๖๗ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑๘๓ | {{ts|bl}} | ๗ |- | {{ts|al}} | งาช้างเลก | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๐๐ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑๓๓ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | หนังควายดี | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๗ | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครามไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๐ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ |- | {{ts|al}} | น้ำมันมะพร้าวไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๐ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๗ | {{ts|bl}} | ๐ |- | {{ts|al}} | พริกลอ่น | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๔ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกเทด | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนีก ๔๐ หาบ | {{ts|al}} | เกียนละ | {{ts|bl}} | ๙๗ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำตายซายเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๘ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๙ | {{ts|bl}} | ๑ |- | {{ts|al}} | เกลือเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓๖ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝางเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครั่งเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๘ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๑๑ | {{ts|bl}} | ๕ |- | {{ts|al}} | ตะกั่วเกรียบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๒๕ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | ๒๗ | {{ts|bl}} | ๔ |- | {{ts|al}} | รง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๑๗ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ด้ายดิบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓๐ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๕๕ | {{ts|bl}} | ๒ |- |} <section end="13-2" /> <section begin="13-3" />หนังสือฃ่าวนี้ตีภิมหน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ที่บ้านพวกครูอเมริกาอาไศรย. ตีเดือนละแผ่น, คือ ปีหนึ่งสิบสองแผ่น. ราคา, ถ้าซื้อเปนปี, ก็เปนบาทหนึ่ง{{ปตปต|,}} ถ้าซื้อเปนแผ่น, ก็เปนแผ่นละเฟื้อง. {{พญล|The recorder}} is published on the first Thursday of every month, at the press of the mission of the A. B. C. F. M. in Siam. Price, one tical, or sixty cents, a year.<section end="13-3" /><noinclude></noinclude> 1zudphnk9yu0kpao9769vibi2248g73 188190 188189 2022-07-30T04:28:16Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{หบร|1|11|1}}</noinclude><section begin="13-1" />ขาวบางก็ได้, ปิดแผลเข้า. ถ้าไม่ชอบ ก็เอาขี้ผึ้งที่หนึ่งในจดหมายเหตุใบที่หนึ่งนั้นทำปิดไปเถิด, แล้วฉีกผ้าออกพันทับกระดาดที่ปิดแผลนั้นผูกรัดไว้ให้ตึง, อย่าให้เนื้อแยกดิ้นได้, จึ่งจะหายโดยเรว. อนึ่ง ถ้าเนื้อแดงนั้นเปนเมดมะระสูงกว่าเนื้อที่ปรกติดีแล้ว, แผลนั้นจะไม่หาย เว้นแต่ให้เนื้อแดงนั้นราบเสมอเนื้อที่ดีเสียกอ่น จึ่งจะหาย. ถ้าแผลเลก ๆ เปนดั่งว่ามานี้, ก็ให้เอาจุลษรีกอ้นที่มีสันถานราบอยู่หน้าหนึ่งเหมือนหน้าหินนั้น, เอามาจุ่มน้ำลงภอเปียก, แล้วเอาถูถูลงเบา ๆ ที่เมดแผลที่งอกขึ้นสูงกว่าเนื้อดีนั้นศักประเดี๋ยวหนึ่ง, แล้วเอาน้ำท่าล้างแผลนั้นเสีย, ให้ทำดั่งนี้วันละสองเวลา, แล้วเอาขี้ผึ้งเช่นว่ามาแล้วนั้นปิดไปเถิด, แล้วเปิดออกเอาจุลษรีถูลงทุกวัน จนเหนเนื้อแดงราบลงเสมอเนื้อที่ดีแล้ว จึ่งจะหาย. ถ้าแผลที่ใหญ่กว้างเปนเมดดั่งว่ามานั้นเล่า, ก็ให้เอาสำลีประชีออกแต่บาง ๆ วางปิดลงไว้ที่กลางแผล, อย่าให้สำลีชิดปิดเนื้อดีเสีย, เอาปิดลงจำเพาะที่ตรงกลาง, แล้วจึ่งเอาขี้ผึ้งทากระดาดให้เปนวงตามช่องแผลที่เว้นสำลีไว้นั้น, แล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น, จึ่งจะเกิดผิวหนังขึ้นยืดออกไปปิดแผลที่ท่ากลางนั้น. ตอ้งฌะดว้ยน้ำท่าเสียกอ่นวันละสองหนตามขอบแผล, แล้วจึ่งฌะดว้ยน้ำยาที่ฝาด ๆ ในที่ ๑ ที่ ๒ ที่ว่าไว้แล้วนั้น. ถ้ารักษาดั่งนี้ไม่ชอบ, ก็ให้เอาขี้ผึ้ง{{ตตฉ|เหนีอว|เหนียว}}ที่สองในจดหมายเหตุใบที่ ๑ นั้นทาผ้าให้บาง ๆ, ปิดเหนี่ยวแผลให้ตึง, แล้วจึ่งฉีกผ้าออกเอาพันทับลงที่ตรงแผลนั้น, อย่าให้เนื้อแยกออกจากกันได้, อย่าให้สูงขึ้นได้. รักษาดั่งนี้หายมาโดยมากแล้ว. ถ้าไม่หาย, ก็เอาขี้ผึ้งแขงกับน้ำมันมะพร้าวที่ว่าไว้นั้น, ทาสำลีเข้าแต่บาง ๆ ปิดลงที่แผล, แล้วเอาตะกั่วท่ำชามาแต่จีนนั้น, ตัดออกปิดทับสำลีลงไว้, แล้วเอาผ้าพันเข้าให้ตึง, ก็หายโดยมากแล. เมื่อกำลังรักษาแผลอยู่ดั่งนี้. ก็ตอ้งอดของแสลงตามที่ห้ามไว้ในจดหมายเหตุใบที่สองนั้น. แต่ซ่มทั้งปวงนั้นมิได้ห้าม สาระพัดจะกินได้, ดว้ยซ่มนั้นเปนที่บำรุงโลหิตให้เอย๊นเปนปรกติอยู่. ที่คนทั้งหลายถือว่า ซ่มนั้นให้บังเกิดหนองหนักนั้น. แต่ข้าพเจ้าไม่เหนดว้ย เพราะได้รักษาบาดแผลทั้งเมืองนอกเมืองนี้มานานแล้ว, พิจรณาดูซ่มนั้นเหนไม่แสลงกับบาดแผลทั้งปวงนั้นเลย, ที่กลัวว่า ซ่มจะเปนแสลงนั้น, ก็กลัวเปล่า ๆ. <section end="13-1" /> <section begin="13-2" />{{ก|ราคาสินค้าเมืองใหม่, คิดเหรียนหนึ่งเปนเงินไทหกสลึงเพื้องสองหุน.}} {| {{ts|mc|bc|ar}} |- {{ts|ac|bb|bt}} | colspan=2 | Price Current. | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง | {{ts|bl}} | บาด | {{ts|bl}} | เฟื้อง |- | {{ts|al}} | แผ่นทองแดงแลตะปูทองแดง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๐ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | ๕๓ | {{ts|bl}} | ๓ |- | {{ts|al}} | ผ้าใบ | {{ts|al}} | พับละ | {{ts|bl}} | ๑๓ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๑๕ | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ขี้ผึ้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๐ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | ๕๓ | {{ts|bl}} | ๓ |- | {{ts|al}} | กำญานอย่างกลาง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕๘ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๖๑ | {{ts|bl}} | ๗ |- | {{ts|al}} | หมากแห้ง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑ |- | {{ts|al}} | เข้าแฟมาแต่ยะกะตรา | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๙ | {{ts|bl}} | ๒ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝ้ายดีห่อหนักสองหาบยี่สิบสี่ชั่ง | {{ts|al}} | ห่อละ | {{ts|bl}} | ๒๕ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | ๒๖ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | ฝ้ายอื่นมาแต่บำเบ | {{ts|al}} | ห่อละ | {{ts|bl}} | ๑๓ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๒๖ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | งาช้างใหญ่ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๖๗ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑๘๓ | {{ts|bl}} | ๗ |- | {{ts|al}} | งาช้างเลก | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๐๐ | {{ts|bl}} | ๔ | {{ts|bl}} | ๑๓๓ | {{ts|bl}} | ๖ |- | {{ts|al}} | หนังควายดี | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๗ | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครามไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๐ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ |- | {{ts|al}} | น้ำมันมะพร้าวไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๐ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๗ | {{ts|bl}} | ๐ |- | {{ts|al}} | พริกลอ่น | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๔ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | พริกเทด | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | เข้าสารดีเกียนหนึ่งหนีก ๔๐ หาบ | {{ts|al}} | เกียนละ | {{ts|bl}} | ๙๗ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | น้ำตายซายเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๘ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๙ | {{ts|bl}} | ๑ |- | {{ts|al}} | เกลือเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓๖ | {{ts|bl}} | ๖ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ฝางเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ครั่งเมืองไท | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๘ | {{ts|bl}} | ๓ | {{ts|bl}} | ๑๑ | {{ts|bl}} | ๕ |- | {{ts|al}} | ตะกั่วเกรียบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๒๕ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | ๒๗ | {{ts|bl}} | ๔ |- | {{ts|al}} | รง | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๑๑๗ | {{ts|bl}} | ๑ | {{ts|bl}} | | {{ts|bl}} | |- | {{ts|al}} | ด้ายดิบ | {{ts|al}} | หาบละ | {{ts|bl}} | ๓๐ | {{ts|bl}} | ๕ | {{ts|bl}} | ๕๕ | {{ts|bl}} | ๒ |- |} <section end="13-2" /> <section begin="13-3" />หนังสือฃ่าวนี้ตีภิมหน้าวัดเจ้าคุณพระคลัง, ที่บ้านพวกครูอเมริกาอาไศรย. ตีเดือนละแผ่น, คือ ปีหนึ่งสิบสองแผ่น. ราคา, ถ้าซื้อเปนปี, ก็เปนบาทหนึ่ง{{ปตปต|,}} ถ้าซื้อเปนแผ่น, ก็เปนแผ่นละเฟื้อง. {{พญล|The recorder}} is published on the first Thursday of every month, at the press of the mission of the A. B. C. F. M. in Siam. Price, one tical, or sixty cents, a year.<section end="13-3" /><noinclude></noinclude> s6rfamv4xg8ajveiyjcddd2l86qxzkj หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3 0 57532 188208 2022-07-30T05:46:38Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../|เล่มที่ 1 (แรก)]], ใบที่ 3 | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ใบที่ 2|2]] | ถัดไป = [[../ใบที่ 4|4]]..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../|เล่มที่ 1 (แรก)]], ใบที่ 3 | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ใบที่ 2|2]] | ถัดไป = [[../ใบที่ 4|4]] | หมายเหตุ = }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="10" onlysection="10-1"/> {{สบช| # [[/ส่วนที่ 1|ตำราลมอากาษ]] # [[/ส่วนที่ 2|ข่าวต่างประเทศ]] # [[/ส่วนที่ 3|การปลูกฝีให้สำเร็จในสยาม]] # [[/ส่วนที่ 4|ตำรารักษาแผลต่อไป]] # [[/ส่วนที่ 5|ราคาสินค้าเมืองใหม่]] }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="13" onlysection="13-3"/> 0hp3evn4bugek7e11dxkp25p8xmta94 หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4 0 57533 188212 2022-07-30T05:57:40Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. ตำรารักษาแผลต่อไป | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = ../ส..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. ตำรารักษาแผลต่อไป | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 3. ตำรารักษาแผลต่อไป | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 3|2.]] | ถัด = }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="12" fromsection="12-3" to="13" tosection="13-1"/> m1xllp3f7rq99f6o5kon6npnq05iwsj 188236 188212 2022-07-30T06:47:29Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. ตำรารักษาแผลต่อไป | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 3. ตำรารักษาแผลต่อไป | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 4|2.]] | ถัด = }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="12" fromsection="12-3" to="13" tosection="13-1"/> r33kh704frnxrmh7sw4zmedycv8n69c หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 3 0 57534 188214 2022-07-30T06:00:39Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 3. การปลูกฝีให้สำเร็จในสยาม | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อน..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 3. การปลูกฝีให้สำเร็จในสยาม | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 2|2.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = การแพทย์แผนไทย }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="12" onlysection="12-2"/> dvde1sngxnbl0jmq0jeui9cdulwgske หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 1 0 57535 188217 2022-07-30T06:06:53Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 1. ตำราลมอากาษ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = ../|หน้าต้..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 1. ตำราลมอากาษ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../|หน้าต้น]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 2|2.]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = อุตุนิยมวิทยา }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="10" onlysection="10-2"/> sttkpk5hsw9stcog2fwenqh3jrtfr26 หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 4 0 57536 188223 2022-07-30T06:26:31Z Venise12mai1834 8884 Venise12mai1834 ย้ายหน้า [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 4]] ไปยัง [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5]] wikitext text/x-wiki #เปลี่ยนทาง [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5]] gowagw3iim41jpad2u1qb79a2jcufto 188225 188223 2022-07-30T06:27:35Z Venise12mai1834 8884 ลบการเปลี่ยนทางไป [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5]] wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 2]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 4. น้ำฌะแผลทั้งปวง | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 5|5.]] | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:การแพทย์แผนไทย|ตำรารักษาแผล]] | ชื่อ = 2. น้ำฌะแผลทั้งปวง | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 1/ส่วนที่ 4|1.]] | ถัด = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 4|3.]] }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="8" fromsection="8-2" to="9" tosection="9-1"/> 4uwdn8fbiynju9cjk5jnmf9p92wk04t หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 2 0 57537 188230 2022-07-30T06:33:39Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 2. ข่าวต่างประเทศ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = ../ส่วน..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 2. ข่าวต่างประเทศ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 1|1.]] | ถัดไป = [[../ส่วนที่ 3|3.]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = }} {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:ประเทศอินเดีย|ราคากำปั่นไฟ]] | ชื่อ = 2. ราคากำปั่นไฟอีกที | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 2|1.]] | ถัด = }} {{สบช| # {{ตลล|ส-ข1|นกถือหนังสือ|ข1}} # {{ตลล|ส-ข2|ผ้าฟ่ายเมืองโลเวล|ข2}} # {{ตลล|ส-ข3|นกใหญ่|ข3}} # {{ตลล|ส-ข4|ราคากำปั่นไฟอีกที|ข4}} # {{ตลล|ส-ข5|จำนวนแกะในอังกฤษและสหรัฐ|ข5}} # {{ตลล|ส-ข6|ม้าเมืองอารับ|ข6}} }} ---- <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" from="10" fromsection="10-3" to="12" tosection="12-1"/> 00xizmxstyxyejsp604cc7rt4en58dq หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 3/ส่วนที่ 5 0 57538 188234 2022-07-30T06:43:53Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 5. ราคาสินค้าเมืองใหม่ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = ..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[หนังสือจดหมายเหตุ]], [[../../|เล่มที่ 1 (แรก)]], [[../|ใบที่ 3]] | ปี = 2387 | ผู้สร้างสรรค์ = | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = 5. ราคาสินค้าเมืองใหม่ | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../ส่วนที่ 4|4.]] | ถัดไป = | หมายเหตุ = {{ชุด | ชุด = [[สถานีย่อย:ประเทศสิงคโปร์|ราคาสินค้าเมืองใหม่]] | ชื่อ = ฉบับที่ 3 | ก่อน = [[หนังสือจดหมายเหตุ/เล่มที่ 1 (แรก)/ใบที่ 2/ส่วนที่ 5|2.]] | ถัด = }} }} <pages index="BKK Rec vol 1a.pdf" include="13" onlysection="13-2"/> lqjunrnt5a5406v6nicrdjrerj2p6ob คุยกับผู้ใช้:SongthamDoDo 3 57539 188251 2022-07-30T07:23:30Z New user message 1899 เพิ่ม[[Template:Welcome|สารต้อนรับ]]ในหน้าคุยของผู้ใช้ใหม่ wikitext text/x-wiki {{Template:Welcome|realName=|name=SongthamDoDo}} -- [[ผู้ใช้:New user message|New user message]] ([[คุยกับผู้ใช้:New user message|คุย]]) 14:23, 30 กรกฎาคม 2565 (+07) f5iyy9wkmbhs28cy22cdnqmgddanugt แม่แบบ:Softredirect 10 57540 188253 2022-07-30T08:48:56Z Venise12mai1834 8884 Venise12mai1834 ย้ายหน้า [[แม่แบบ:Softredirect]] ไปยัง [[แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน]] wikitext text/x-wiki #เปลี่ยนทาง [[แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน]] cqdnqtt0zpv1av3rnz1hjahdsooqbfg แม่แบบ:การเปลี่ยนทางแบบอ่อน 10 57541 188255 2022-07-30T08:51:16Z Venise12mai1834 8884 เปลี่ยนทางหน้าไปยัง [[แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน]] wikitext text/x-wiki #REDIRECT [[แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน]] 0csabfgs27j5k1r0kc4splc0qd5t7ak แม่แบบ:เปลี่ยนทางแบบอ่อน/doc 10 57542 188256 2022-07-30T08:54:36Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "แม่แบบนี้ใช้สร้างการเปลี่ยนทางแบบอ่อน (ดูเพิ่ม {{w|en:Wikipedia:Soft redirect}}) โดยใช้โค้ดดังนี้ <pre>{{เปลี่ยนทางแบบอ่อน|ชื่อหน้าปลายทาง}}</pre> [[หมวดหมู่:แม่แบบลิงก์]]" wikitext text/x-wiki แม่แบบนี้ใช้สร้างการเปลี่ยนทางแบบอ่อน (ดูเพิ่ม {{w|en:Wikipedia:Soft redirect}}) โดยใช้โค้ดดังนี้ <pre>{{เปลี่ยนทางแบบอ่อน|ชื่อหน้าปลายทาง}}</pre> [[หมวดหมู่:แม่แบบลิงก์]] eb8y7j9gkq9fnhanjd5buj7z5pmjgtl 188258 188256 2022-07-30T08:55:26Z Venise12mai1834 8884 wikitext text/x-wiki แม่แบบนี้ใช้สร้างการเปลี่ยนทางแบบอ่อน (ดูเพิ่ม {{w|en:Wikipedia:Soft redirect}}) โดยใช้โค้ดดังนี้ <pre>{{เปลี่ยนทางแบบอ่อน|ชื่อหน้าปลายทาง}}</pre> แม่แบบนี้จะเพิ่มหน้าเข้าไปใน [[:หมวดหมู่:หน้าเปลี่ยนทางแบบอ่อน]] [[หมวดหมู่:แม่แบบลิงก์]] ed65mo8lnx1tyuhrkagupb7f8fo3s2u หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/32 250 57543 188259 2022-07-30T09:03:53Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude>นิทานที่ 3 เรื่องเสือไหญ่เมืองชุมพร เมื่อ พ.ส. 2433 (ร.ส. 109) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะสเด็ดเลียบหัวเมืองแหลมมลายูทั้งปักสไต้และฝ่ายตะวันตก กำหนดระยะทางจะสเด็ดไปเรือจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองชุมพร แต่เมืองชุมพรสเด็ดโดยทางบกข้ามแหลมมลายูตรงกิ่วกระ ไปลงเรือที่เมืองกระบุรีล่องลำน้ำปากจั่นลงไปยังเมืองระนอง ต่อนั้นสเด็ดไปเรือทางทเล แวะตามหัวเมืองฝ่ายตะวันตกจนตลอดพระราชอานาเขต แล้วเลยไปอ้อมแหลมมลายูที่เมืองสิงคโปร์ เลียบหัวเมืองปักสไต้ขึ้นมา เมื่อขากลับกรุงเทพฯ โปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสครั้งนั้น เพราะเหตุไดจึงโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสเปนเรื่องอันหนึ่งไนประวัติ ของตัวฉันเอง จะเล่าฝากไว้ด้วยตรงนี้ เมื่อ พ.ส. 2432 (ร.ส. 108) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสเด็ดประพาสหัวเมืองปักสไต้ โปรดไห้ฉันไปตามสเด็ดเปนมัคคุเทส เพราะฉันได้เคยไปเที่ยวหัวเมืองทางนั้น รู้เบาะแสมาแต่ปีก่อน ก็การที่เปนมัคคุเทสนั้นมีหน้าที่เปนต้นรับสั่งกะการประพาสที่ต่าง ๆ ตลอดทางที่สเด็ดไป ฉันสนองพระเดชพระคุนชอบพระราชหรึทัยสมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวง แต่นั้นมาจึงซงพระกรุนาโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาส แต่ชอบเรียกกันเปนคำแผลงภาสาอังกริดว่า Lord Program{{วว}}<noinclude>{{ข|3|4em}}</noinclude> fwfpcrteftdmopktwp9snn18fvr67pl 188271 188259 2022-07-30T09:25:28Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" /></noinclude>{{ก|นิทานที่ 3|บ=font-size:140%}} {{ก|เรื่อง เรื่องเสือไหย่เมืองชุมพร}} {{สต|7em}} เมื่อ พ.ส. 2433 (ร.ส. 109) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะสเด็ดเลียบหัวเมืองแหลมมลายูทั้งปักสไต้และฝ่ายตะวันตก กำหนดระยะทางจะสเด็ดไปเรือจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองชุมพร แต่เมืองชุมพรสเด็ดโดยทางบกข้ามแหลมมลายูตรงกิ่วกระ ไปลงเรือที่เมืองกระบุรี ล่องลำน้ำปากจั่นลงไปยังเมืองระนอง ต่อนั้น สเด็ดไปเรือทางทเล แวะตามหัวเมืองฝ่ายตะวันตกจนตลอดพระราชอานาเขต แล้วเลยไปอ้อมแหลมมลายูที่เมืองสิงคโปร์ เลียบหัวเมืองปักสไต้ขึ้นมา เมื่อขากลับกรุงเทพฯ โปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสครั้งนั้น เพราะเหตุไดจึงโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสเปนเรื่องอันหนึ่งไนประวัติ ของตัวฉันเอง จะเล่าฝากไว้ด้วยตรงนี้ เมื่อ พ.ส. 2432 (ร.ส. 108) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสเด็ดประพาสหัวเมืองปักสไต้ โปรดไห้ฉันไปตามสเด็ดเปนมัคคุเทส เพราะฉันได้เคยไปเที่ยวหัวเมืองทางนั้น รู้เบาะแสมาแต่ปีก่อน ก็การที่เปนมัคคุเทสนั้นมีหน้าที่เปนต้นรับสั่งกะการประพาสที่ต่าง ๆ ตลอดทางที่สเด็ดไป ฉันสนองพระเดชพระคุนชอบพระราชหรึทัยสมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวง แต่นั้นมาจึงซงพระกรุนาโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาส แต่ชอบเรียกกันเปนคำแผลงภาสาอังกริดว่า Lord Program{{วว}}<noinclude>{{ข|3|4em}}</noinclude> hwg9x25mj31pk834t7sryayg8dy9m8z 188272 188271 2022-07-30T09:26:32Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude>{{ก|นิทานที่ 3|บ=font-size:140%}} {{ก|เรื่อง เรื่องเสือไหย่เมืองชุมพร}} {{สต|7em}} เมื่อ พ.ส. 2433 (ร.ส. 109) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะสเด็ดเลียบหัวเมืองแหลมมลายูทั้งปักสไต้และฝ่ายตะวันตก กำหนดระยะทางจะสเด็ดไปเรือจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองชุมพร แต่เมืองชุมพรสเด็ดโดยทางบกข้ามแหลมมลายูตรงกิ่วกระ ไปลงเรือที่เมืองกระบุรี ล่องลำน้ำปากจั่นลงไปยังเมืองระนอง ต่อนั้น สเด็ดไปเรือทางทเล แวะตามหัวเมืองฝ่ายตะวันตกจนตลอดพระราชอานาเขต แล้วเลยไปอ้อมแหลมมลายูที่เมืองสิงคโปร์ เลียบหัวเมืองปักสไต้ขึ้นมา เมื่อขากลับกรุงเทพฯ โปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสครั้งนั้น เพราะเหตุไดจึงโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาส เปนเรื่องอันหนึ่งไนประวัติของตัวฉันเอง จะเล่าฝากไว้ด้วยตรงนี้ เมื่อ พ.ส. 2432 (ร.ส. 108) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสเด็ดประพาสหัวเมืองปักสไต้ โปรดไห้ฉันไปตามสเด็ดเปนมัคคุเทส เพราะฉันได้เคยไปเที่ยวหัวเมืองทางนั้น รู้เบาะแสมาแต่ปีก่อน ก็การที่เปนมัคคุเทสนั้นมีหน้าที่เปนต้นรับสั่งกะการประพาสที่ต่าง ๆ ตลอดทางที่สเด็ดไป ฉันสนองพระเดชพระคุนชอบพระราชหรึทัยสมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวง แต่นั้นมา จึงซงพระกรุนาโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาส แต่ชอบเรียกกันเปนคำแผลงภาสาอังกริดว่า Lord Program{{วว}}<noinclude>{{ข|3|4em}}</noinclude> 0tp0cpn03dxaqj4kndzfivip44vfq0x 188273 188272 2022-07-30T09:27:40Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" /></noinclude>{{ก|นิทานที่ 3|บ=font-size:140%}} {{ก|เรื่อง เสือไหย่เมืองชุมพร}} {{สต|7em}} เมื่อ พ.ส. 2433 (ร.ส. 109) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะสเด็ดเลียบหัวเมืองแหลมมลายูทั้งปักสไต้และฝ่ายตะวันตก กำหนดระยะทางจะสเด็ดไปเรือจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองชุมพร แต่เมืองชุมพรสเด็ดโดยทางบกข้ามแหลมมลายูตรงกิ่วกระ ไปลงเรือที่เมืองกระบุรี ล่องลำน้ำปากจั่นลงไปยังเมืองระนอง ต่อนั้น สเด็ดไปเรือทางทเล แวะตามหัวเมืองฝ่ายตะวันตกจนตลอดพระราชอานาเขต แล้วเลยไปอ้อมแหลมมลายูที่เมืองสิงคโปร์ เลียบหัวเมืองปักสไต้ขึ้นมา เมื่อขากลับกรุงเทพฯ โปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสครั้งนั้น เพราะเหตุไดจึงโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาส เปนเรื่องอันหนึ่งไนประวัติของตัวฉันเอง จะเล่าฝากไว้ด้วยตรงนี้ เมื่อ พ.ส. 2432 (ร.ส. 108) พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสเด็ดประพาสหัวเมืองปักสไต้ โปรดไห้ฉันไปตามสเด็ดเปนมัคคุเทส เพราะฉันได้เคยไปเที่ยวหัวเมืองทางนั้น รู้เบาะแสมาแต่ปีก่อน ก็การที่เปนมัคคุเทสนั้นมีหน้าที่เปนต้นรับสั่งกะการประพาสที่ต่าง ๆ ตลอดทางที่สเด็ดไป ฉันสนองพระเดชพระคุนชอบพระราชหรึทัยสมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวง แต่นั้นมา จึงซงพระกรุนาโปรดไห้ฉันเปนผู้จัดการสเด็ดประพาส แต่ชอบเรียกกันเปนคำแผลงภาสาอังกริดว่า Lord Program{{วว}}<noinclude>{{ข|3|4em}}</noinclude> 24k8km2c6mvovu4z98r1m4b2rjtrfuu หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/33 250 57544 188260 2022-07-30T09:05:16Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|18}}</noinclude>Maker ตามสเด็ดประพาสต่อมาเปนนิจจนตลอดรัชกาลที่ 5 และคงหยู่ไนตำแหน่งนั้นสืบมาไนรัชกาลที่ 6 อีก 3 ปี รวมเวลาที่ได้เปนผู้จัดการสเด็ดประพาสหยู่ 26 ปี จึงพ้นจากหน้าที่นั้นพร้อมกับถวายเวนคืนตำแหน่งเสนาบดีกะซวงมหาดไทย ถึงรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็ดพระปกเกล้าเจ้าหยู่หัว โปรดไห้กลับเข้าไปจัดการสเด็ดประพาสถวายอีก เมื่อสเด็ดเลียบหัวเมืองมนทลพายัพครั้งหนึ่ง และสเด็ดเลียบหัวเมืองมนทลภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง จึงอ้างได้ว่าได้รับราชการเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสสนองพระเดชพระคุนมา 3 รัชกาล แต่เมื่อไปตามสเด็ดครั้งหลัง สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวกลับต้องซงระวังมิไห้ฉันเหนื่อยเกินไป เพราะตัวฉันแก่ชราอายุเกือบ 70 ปีแล้ว ก็เปนครั้งที่สุดซึ่งฉันได้จัดการสเด็ดประพาสเพียงนั้น เมื่อจัดการสเด็ดประพาสครั้ง ร.ส. 109 ฉันต้องล่วงหน้าลงไปจัดพาหนะสำหรับเดินทางบก และตรวจพลับพลาที่ประทับ กับทั้งการทำทางที่จะสเด็ดไปแต่เมืองชุมพรจนถึงเมืองระนอง แล้วจึงกลับมาเข้าขบวนตามสเด็ดที่เมืองชุมพร ฉันไปถึงเมืองชุมพรได้ฟังเขาเล่าเรื่องเสือไหญ่ ซึ่งกำลังดุร้ายกินผู้คนหยู่ไนแขวงเมืองชุมพรไนเวลานั้น และไปมีเหตุขึ้นเนื่องด้วยเรื่องเสือตัวนั้น เห็นเปนเรื่องแปลกประหลาด จึงเขียนเล่าไปยังหอพระสมุดวชิรญาน ซึ่งฉันเปนกรรมการหยู่ด้วยคนหนึ่ง สำหรับไห้ลงพิมพ์ไนหนังสือวชิรญานวิเสส ดูเรื่องเข้ากับนิทานโบรานคดีที่เขียนบัดนี้เหมาะดี จึงคัดสำเนาจากหนังสือวชิรญานวิเสสมาแก้ไข<noinclude></noinclude> bghn4r73ajut1564g3rgrqg7kfdhrlk 188274 188260 2022-07-30T09:29:44Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|18}}</noinclude>Maker ตามสเด็ดประพาสต่อมาเปนนิจจนตลอดรัชกาลที่ 5 และคงหยู่ไนตำแหน่งนั้นสืบมาไนรัชกาลที่ 6 อีก 3 ปี รวมเวลาที่ได้เปนผู้จัดการสเด็ดประพาสหยู่ 26 ปี จึงพ้นจากหน้าที่นั้น พร้อมกับถวายเวนคืนตำแหน่งเสนาบดีกะซวงมหาดไทย ถึงรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็ดพระปกเกล้าเจ้าหยู่หัวโปรดไห้กลับเข้าไปจัดการสเด็ดประพาสถวายอีก เมื่อสเด็ดเลียบหัวเมืองมนทลพายัพครั้งหนึ่ง และสเด็ดเลียบหัวเมืองมนทลภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง จึงอ้างได้ว่า ได้รับราชการเปนผู้จัดการสเด็ดประพาสสนองพระเดชพระคุนมา 3 รัชกาล แต่เมื่อไปตามสเด็ดครั้งหลัง สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวกลับต้องซงระวังมิไห้ฉันเหนื่อยเกินไป เพราะตัวฉันแก่ชราอายุเกือบ 70 ปีแล้ว ก็เปนครั้งที่สุดซึ่งฉันได้จัดการสเด็ดประพาสเพียงนั้น เมื่อจัดการสเด็ดประพาสครั้ง ร.ส. 109 ฉันต้องล่วงหน้าลงไปจัดพาหนะสำหรับเดินทางบก และตรวจพลับพลาที่ประทับ กับทั้งการทำทางที่จะสเด็ดไปแต่เมืองชุมพรจนถึงเมืองระนอง แล้วจึงกลับมาเข้าขบวนตามสเด็ดที่เมืองชุมพร ฉันไปถึงเมืองชุมพร ได้ฟังเขาเล่าเรื่องเสือไหย่ซึ่งกำลังดุร้ายกินผู้คนหยู่ไนแขวงเมืองชุมพรไนเวลานั้น และไปมีเหตุขึ้นเนื่องด้วยเรื่องเสือตัวนั้น เห็นเปนเรื่องแปลกประหลาด จึงเขียนเล่าไปยังหอพระสมุดวชิรญานซึ่งฉันเปนกัมการหยู่ด้วยคนหนึ่ง สำหรับไห้ลงพิมพ์ไนหนังสือวชิรญานวิเสส ดูเรื่องเข้ากับนิทานโบรานคดีที่เขียนบัดนี้เหมาะดี จึงคัดสำเนาจากหนังสือวชิรญานวิเสสมาแก้ไข<noinclude></noinclude> b8m950omugsn5c9zf91d86ixvhcy6km หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/34 250 57545 188261 2022-07-30T09:09:32Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|19}}</noinclude>ถ้อยคำบ้างเล็กน้อย และเขียนเล่าเรื่องเสือตัวนั้นอันมีต่อมาเมื่อพายหลัง ยังไม่ปรากตไนหนังสือซึ่งฉันเขียนไว้แต่ก่อน เพิ่มเติมไห้สิ้นกะแสความ เรื่องที่เขียนไว้แต่เดิมดังต่อไปนี้ เรื่องเสือไหญ่ที่เมืองชุมพร เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ กล่าวตามที่ฉันได้ยินด้วยหูและได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านอย่าได้สงสัยว่าเปนความเท็จซึ่งแต่งแต่โดยเดาเลย เปนความจริงแท้ทีเดียว เมื่อวันที่ 6 เมสายน (ร.ส. 109) นี้ ฉันไปถึงปากน้ำเมืองชุมพรลงเรือโบตขึ้นไปที่บ้านด่าน หาเรือซึ่งจะรับขึ้นไปถึงเมืองชุมพร ด้วยเรือไฟที่มาส่งฉันเขาจะต้องรีบไช้จักรไปราชการที่อื่นอีก ขนะเมื่อฉันนั่งพักคอยเรือหยู่ที่บ้านด่านนั้น ได้สนทนากับขุนด่านและกรมการราสฎรชาวปากน้ำชุมพรหลายคน ซึ่งฉันได้รู้จักมาแต่ก่อนบ้าง ที่ยังไม่รู้จักบ้าง พูดจาไถ่ถามถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ตลอดไปจนเรื่องการทำมาหากินของราสฎร และเรื่องสัตว์สิงห์ต่าง ๆ คือเสือเปนต้น เขาจึงเล่าไห้ฟังเปนปากเดียวกันดังนี้ ว่าไนเวลานั้นมีเสือดุที่แขวงเมืองชุมพรตัวหนึ่ง เสือนั้นตัวไหญ่ยาวสัก 9 สอก เท้าเป๋ข้างหนึ่ง จึงเรียกกัน "อ้ายเป๋" เที่ยวกัดกินคนตามแขวงบ้านไหม่ บ้านละมุ เสียหลายคน ประมานกันแต่หกเจ็ดคนขึ้นไปถึงสิบคนยี่สิบคน และว่าเสือตัวนี้กล้าหานผิดกับเสือซึ่งเคยมีมาแต่ก่อน ถึงเข้ากัดคนกลางวันแสก ๆ บางที<noinclude></noinclude> awcep0fzr24iiyfc8pouhh00ss1rmp2 188275 188261 2022-07-30T09:30:56Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|19}}</noinclude>ถ้อยคำบ้างเล็กน้อย และเขียนเล่าเรื่องเสือตัวนั้นอันมีต่อมาเมื่อพายหลังยังไม่ปรากตไนหนังสือซึ่งฉันเขียนไว้แต่ก่อนเพิ่มเติมไห้สิ้นกะแสความเรื่องที่เขียนไว้แต่เดิม ดังต่อไปนี้ {{ก|เรื่อง เสือไหย่ที่เมืองชุมพร}} เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ กล่าวตามที่ฉันได้ยินด้วยหูและได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะฉะนั้น ท่านผู้อ่านอย่าได้สงสัยว่าเปนความเท็จซึ่งแต่งแต่โดยเดาเลย เปนความจริงแท้ทีเดียว เมื่อวันที่ 6 เมสายน (ร.ส. 109) นี้ ฉันไปถึงปากน้ำเมืองชุมพรลงเรือโบตขึ้นไปที่บ้านด่าน หาเรือซึ่งจะรับขึ้นไปถึงเมืองชุมพร ด้วยเรือไฟที่มาส่งฉันเขาจะต้องรีบไช้จักรไปราชการที่อื่นอีก ขนะเมื่อฉันนั่งพักคอยเรือหยู่ที่บ้านด่านนั้น ได้สนทนากับขุนด่านและกรมการราสฎรชาวปากน้ำชุมพรหลายคน ซึ่งฉันได้รู้จักมาแต่ก่อนบ้าง ที่ยังไม่รู้จักบ้าง พูดจาไถ่ถามถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ตลอดไปจนเรื่องการทำมาหากินของราสฎร และเรื่องสัตว์สิงห์ต่าง ๆ คือเสือเปนต้น เขาจึงเล่าไห้ฟังเปนปากเดียวกันดังนี้ ว่าไนเวลานั้นมีเสือดุที่แขวงเมืองชุมพรตัวหนึ่ง เสือนั้นตัวไหญ่ยาวสัก 9 สอก เท้าเป๋ข้างหนึ่ง จึงเรียกกัน "อ้ายเป๋" เที่ยวกัดกินคนตามแขวงบ้านไหม่ บ้านละมุ เสียหลายคน ประมานกันแต่หกเจ็ดคนขึ้นไปถึงสิบคนยี่สิบคน และว่าเสือตัวนี้กล้าหานผิดกับเสือซึ่งเคยมีมาแต่ก่อน ถึงเข้ากัดคนกลางวันแสก ๆ บางที<noinclude></noinclude> dp7apf6txnmzqdqksbp5odinn5l9zk2 188276 188275 2022-07-30T09:33:00Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|19}}</noinclude>ถ้อยคำบ้างเล็กน้อย และเขียนเล่าเรื่องเสือตัวนั้นอันมีต่อมาเมื่อพายหลังยังไม่ปรากตไนหนังสือซึ่งฉันเขียนไว้แต่ก่อนเพิ่มเติมไห้สิ้นกะแสความเรื่องที่เขียนไว้แต่เดิม ดังต่อไปนี้ {{ก|เรื่อง เสือไหย่ที่เมืองชุมพร|บ=font-size:120%}} เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ กล่าวตามที่ฉันได้ยินด้วยหูและได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะฉะนั้น ท่านผู้อ่านอย่าได้สงสัยว่าเปนความเท็จซึ่งแต่งแต่โดยเดาเลย เปนความจริงแท้ทีเดียว เมื่อวันที่ 6 เมสายน (ร.ส. 109) นี้ ฉันไปถึงปากน้ำเมืองชุมพรลงเรือโบตขึ้นไปที่บ้านด่าน หาเรือซึ่งจะรับขึ้นไปถึงเมืองชุมพร ด้วยเรือไฟที่มาส่งฉันเขาจะต้องรีบไช้จักรไปราชการที่อื่นอีก ขนะเมื่อฉันนั่งพักคอยเรือหยู่ที่บ้านด่านนั้น ได้สนทนากับขุนด่านและกรมการราสฎรชาวปากน้ำชุมพรหลายคน ซึ่งฉันได้รู้จักมาแต่ก่อนบ้าง ที่ยังไม่รู้จักบ้าง พูดจาไถ่ถามถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ตลอดไปจนเรื่องการทำมาหากินของราสฎร และเรื่องสัตว์สิงห์ต่าง ๆ คือเสือเปนต้น เขาจึงเล่าไห้ฟังเปนปากเดียวกันดังนี้ ว่าไนเวลานั้นมีเสือดุที่แขวงเมืองชุมพรตัวหนึ่ง เสือนั้นตัวไหญ่ยาวสัก 9 สอก เท้าเป๋ข้างหนึ่ง จึงเรียกกัน "อ้ายเป๋" เที่ยวกัดกินคนตามแขวงบ้านไหม่ บ้านละมุ เสียหลายคน ประมานกันแต่หกเจ็ดคนขึ้นไปถึงสิบคนยี่สิบคน และว่าเสือตัวนี้กล้าหานผิดกับเสือซึ่งเคยมีมาแต่ก่อน ถึงเข้ากัดคนกลางวันแสก ๆ บางที<noinclude></noinclude> 1htjnqx3h6hl991qih3e6kae5slitao 188279 188276 2022-07-30T09:46:34Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|19}}</noinclude>ถ้อยคำบ้างเล็กน้อย และเขียนเล่าเรื่องเสือตัวนั้นอันมีต่อมาเมื่อพายหลังยังไม่ปรากตไนหนังสือซึ่งฉันเขียนไว้แต่ก่อนเพิ่มเติมไห้สิ้นกะแสความเรื่องที่เขียนไว้แต่เดิม ดังต่อไปนี้ {{ก|เรื่อง เสือไหย่ที่เมืองชุมพร|บ=font-size:120%}} เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ กล่าวตามที่ฉันได้ยินด้วยหูและได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะฉะนั้น ท่านผู้อ่านอย่าได้สงสัยว่าเปนความเท็จซึ่งแต่งแต่โดยเดาเลย เปนความจริงแท้ทีเดียว เมื่อวันที่ 6 เมสายน (ร.ส. 109) นี้ ฉันไปถึงปากน้ำเมืองชุมพรลงเรือโบตขึ้นไปที่บ้านด่าน หาเรือซึ่งจะรับขึ้นไปถึงเมืองชุมพร ด้วยเรือไฟที่มาส่งฉันเขาจะต้องรีบไช้จักรไปราชการที่อื่นอีก ขนะเมื่อฉันนั่งพักคอยเรือหยู่ที่บ้านด่านนั้น ได้สนทนากับขุนด่านและกรมการราสฎรชาวปากน้ำชุมพรหลายคน ซึ่งฉันได้รู้จักมาแต่ก่อนบ้าง ที่ยังไม่รู้จักบ้าง พูดจาไถ่ถามถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ตลอดไปจนเรื่องการทำมาหากินของราสฎร และเรื่องสัตว์สิงห์ต่าง ๆ คือเสือเปนต้น เขาจึงเล่าไห้ฟังเปนปากเดียวกันดังนี้ ว่าไนเวลานั้นมีเสือดุที่แขวงเมืองชุมพรตัวหนึ่ง เสือนั้นตัวไหญ่ยาวสัก 9 สอก เท้าเป๋ข้างหนึ่ง จึงเรียกกัน "อ้ายเป๋" เที่ยวกัดกินคนตามแขวงบ้านไหม่ บ้านละมุ เสียหลายคน ประมานกันแต่หกเจ็ดคนขึ้นไปถึงสิบคนยี่สิบคน และว่าเสือตัวนี้กล้าหานผิดกับเสือซึ่งเคยมีมาแต่ก่อน ถึงเข้ากัดคนกลางวันแสก ๆ บางที<noinclude></noinclude> n2dni4hltwdnd41lv9u2hutvah1jk7f 188295 188279 2022-07-30T10:59:56Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|19}}</noinclude>ถ้อยคำบ้างเล็กน้อย และเขียนเล่าเรื่องเสือตัวนั้นอันมีต่อมาเมื่อพายหลังยังไม่ปรากตไนหนังสือซึ่งฉันเขียนไว้แต่ก่อนเพิ่มเติมไห้สิ้นกะแสความเรื่องที่เขียนไว้แต่เดิม ดังต่อไปนี้ {{ก|เรื่อง เสือไหย่ที่เมืองชุมพร}} เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ กล่าวตามที่ฉันได้ยินด้วยหูและได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะฉะนั้น ท่านผู้อ่านอย่าได้สงสัยว่าเปนความเท็จซึ่งแต่งแต่โดยเดาเลย เปนความจริงแท้ทีเดียว เมื่อวันที่ 6 เมสายน (ร.ส. 109) นี้ ฉันไปถึงปากน้ำเมืองชุมพรลงเรือโบตขึ้นไปที่บ้านด่าน หาเรือซึ่งจะรับขึ้นไปถึงเมืองชุมพร ด้วยเรือไฟที่มาส่งฉันเขาจะต้องรีบไช้จักรไปราชการที่อื่นอีก ขนะเมื่อฉันนั่งพักคอยเรือหยู่ที่บ้านด่านนั้น ได้สนทนากับขุนด่านและกรมการราสฎรชาวปากน้ำชุมพรหลายคน ซึ่งฉันได้รู้จักมาแต่ก่อนบ้าง ที่ยังไม่รู้จักบ้าง พูดจาไถ่ถามถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ตลอดไปจนเรื่องการทำมาหากินของราสฎร และเรื่องสัตว์สิงห์ต่าง ๆ คือเสือเปนต้น เขาจึงเล่าไห้ฟังเปนปากเดียวกันดังนี้ ว่าไนเวลานั้นมีเสือดุที่แขวงเมืองชุมพรตัวหนึ่ง เสือนั้นตัวไหญ่ยาวสัก 9 สอก เท้าเป๋ข้างหนึ่ง จึงเรียกกัน "อ้ายเป๋" เที่ยวกัดกินคนตามแขวงบ้านไหม่ บ้านละมุ เสียหลายคน ประมานกันแต่หกเจ็ดคนขึ้นไปถึงสิบคนยี่สิบคน และว่าเสือตัวนี้กล้าหานผิดกับเสือซึ่งเคยมีมาแต่ก่อน ถึงเข้ากัดคนกลางวันแสก ๆ บางที<noinclude></noinclude> 8ud8dnnw8ecas4snnftc4wt2hlr36z5 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/35 250 57546 188262 2022-07-30T09:14:08Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|20}}</noinclude>คนนั่งทอผ้าหยู่ไต้ถุนเรือน ก็เข้ามาฉวยเอาไป บางคนไปขึ้นพะองทำตาลก็มาคาบเท้าลากไป จนชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้าม ไม่อาจจะไปป่าหากินแต่คนเดียวสองคนได้ บางคนก็ว่าเปนเสือสมิงสักดิสิทธิไม่มีผู้ไดอาจจะไปดักหรือไปยิงจนทุกวันนี้ เขาเล่าไห้ฟังหย่างนี้ ได้สืบถามตามชาวเมืองจนกะทั่งกรมการทั้งเมืองชุมพรและเมืองกะบุรี ก็รู้เรื่องเสือดุตัวนี้แทบทุกคน ฉันจึงไห้ทำบัญชีรายชื่อคนถูกเสือกัด ซึ่งตามพาสาชาวชุมพรเขาเรียกว่า "เสือขบ" ไว้สำหรับกราบทูนพระเจ้าหยู่หัว ได้รายชื่อเขาจดมาไห้ดังนี้ อำเพอท่าแซะแขวงเมืองชุมพร จำนวนคนที่เสือขบ นายช่วยผัวอำแดงจันทร์ ตำบลบางรึกคนหนึ่ง อำแดงเกต บ้านหาดพังไกรคนหนึ่ง นายน้อย บ้านท่าแซะคนหนึ่ง นายเบี้ยว บ้านท่าแซะคนหนึ่ง อำแดงเช้าพรรยานายลอม บ้านคูริงคนหนึ่ง หลานนายยอด บ้านหาดพังไกรคนหนึ่ง นายนองผัวอำแดงสายทอง บ้านรับร่อคนหนึ่ง นายน้อย บุตรขุนตะเวนบ้านล่อคนหนึ่ง นายเชต บ้านหาดหงคนหนึ่ง รวมที่ได้รายชื่อ 9 คน บัญชีได้เพิ่มเติมมาจากเมืองกะบุรีมีรายการพิสดารออกไป 1) นายอ่อน หมายเลขกองกลาง หยู่บ้านรับร่อ ไปตัดจากมุงเรือนที่ปลายคลองรับร่อ เมื่อเดือนพรึสจิกายน เวลาบ่าย 5 โมง เสือกัดตายตามผีไม่ได้ 2) นายนอง ว่าที่หมื่นจบ คุมเลขกองด่าน หยู่บ้านหาดพังไกร ไปขึ้นทำน้ำตาลที่กลางนาหาดพังไกร เมื่อเดือนตุลาคมข้างขึ้น เวลากลางวัน{{วว}}<noinclude></noinclude> jewqw37pr2l79dkufkupl4azt43zdr4 188280 188262 2022-07-30T09:49:48Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|20}}</noinclude>คนนั่งทอผ้าหยู่ไต้ถุนเรือน ก็เข้ามาฉวยเอาไป บางคนไปขึ้นพะองทำตาลก็มาคาบเท้าลากไป จนชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้าม ไม่อาจจะไปป่าหากินแต่คนเดียวสองคนได้ บางคนก็ว่าเปนเสือสมิงสักดิสิทธิไม่มีผู้ไดอาจจะไปดักหรือไปยิงจนทุกวันนี้ เขาเล่าไห้ฟังหย่างนี้ ได้สืบถามตามชาวเมืองจนกะทั่งกรมการทั้งเมืองชุมพรและเมืองกะบุรี ก็รู้เรื่องเสือดุตัวนี้แทบทุกคน ฉันจึงไห้ทำบัญชีรายชื่อคนถูกเสือกัด ซึ่งตามพาสาชาวชุมพรเขาเรียกว่า "เสือขบ" ไว้สำหรับกราบทูนพระเจ้าหยู่หัว ได้รายชื่อเขาจดมาไห้ดังนี้ อำเพอท่าแซะแขวงเมืองชุมพร จำนวนคนที่เสือขบ นายช่วยผัวอำแดงจันทร์ ตำบลบางรึกคนหนึ่ง อำแดงเกต บ้านหาดพังไกรคนหนึ่ง นายน้อย บ้านท่าแซะคนหนึ่ง นายเบี้ยว บ้านท่าแซะคนหนึ่ง อำแดงเช้าพรรยานายลอม บ้านคูริงคนหนึ่ง หลานนายยอด บ้านหาดพังไกรคนหนึ่ง นายนองผัวอำแดงสายทอง บ้านรับร่อคนหนึ่ง นายน้อย บุตรขุนตะเวนบ้านล่อคนหนึ่ง นายเชต บ้านหาดหงคนหนึ่ง รวมที่ได้รายชื่อ 9 คน บัญชีได้เพิ่มเติมมาจากเมืองกะบุรีมีรายการพิสดารออกไป {{กม|วล3|1}}นายอ่อน หมายเลขกองกลาง หยู่บ้านรับร่อ ไปตัดจากมุงเรือนที่ปลายคลองรับร่อ เมื่อเดือนพรึสจิกายน เวลาบ่าย 5 โมง เสือกัดตายตามผีไม่ได้ {{กม|วล3|2}}นายนอง ว่าที่หมื่นจบ คุมเลขกองด่าน หยู่บ้านหาดพังไกร ไปขึ้นทำน้ำตาลที่กลางนาหาดพังไกร เมื่อเดือนตุลาคมข้างขึ้น เวลากลางวัน{{วว}}<noinclude></noinclude> m49naz73379wl0283bmemr72mzt8vfa 188281 188280 2022-07-30T09:54:21Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|20}}</noinclude>คนนั่งทอผ้าหยู่ไต้ถุนเรือน ก็เข้ามาฉวยเอาไป บางคนไปขึ้นพะองทำตาล ก็มาคาบเท้าลากไป จนชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้าม ไม่อาดจะไปป่าหากินแต่คนเดียวสองคนได้ บางคนก็ว่า เปนเสือสมิงสักดิสิทธิ ไม่มีผู้ไดอาดจะไปดักหรือไปยิงจนทุกวันนี้ เขาเล่าไห้ฟังหย่างนี้ ได้สืบถามตามชาวเมืองจนกะทั่งกรมการทั้งเมืองชุมพรและเมืองกระบุรี ก็รู้เรื่องเสือดุตัวนี้แทบทุกคน ฉันจึงไห้ทำบัญชีรายชื่อคนถูกเสือกัด ซึ่งตามภาสาชาวชุมพรเขาเรียกว่า "เสือขบ" ไว้สำหรับกราบทูนพระเจ้าหยู่หัว ได้รายชื่อเขาจดมาไห้ ดังนี้ อำเพอท่าแซะ แขวงเมืองชุมพร จำนวนคนที่เสือขบ นายช่วย ผัวอำแดงจันทร์ ตำบลบางรึก คนหนึ่ง อำแดงเกต บ้านหาดพังไกร คนหนึ่ง นายน้อย บ้านท่าแซะ คนหนึ่ง นายเบี้ยว บ้านท่าแซะ คนหนึ่ง อำแดงเช้า ภรรยานายลอม บ้านคูริง คนหนึ่ง หลานนายยอด บ้านหาดพังไกร คนหนึ่ง นายนอง ผัวอำแดงสายทอง บ้านรับร่อ คนหนึ่ง นายน้อย บุตรขุนตะเวน บ้านล่อ คนหนึ่ง นายเชต บ้านหาดหง คนหนึ่ง รวมที่ได้รายชื่อ 9 คน บัญชีได้เพิ่มเติมมาจากเมืองกระบุรีมีรายการพิสดารออกไป {{กม|วล3|1}}นายอ่อน หมายเลขกองกลาง หยู่บ้านรับร่อ ไปตัดจากมุงเรือนที่ปลายคลองรับร่อเมื่อเดือนพรึสจิกายน เวลาบ่าย 5 โมง เสือกัดตาย ตามผีไม่ได้ {{กม|วล3|2}}นายนอง ว่าที่หมื่นจบ คุมเลขกองด่าน หยู่บ้านหาดพังไกร ไปขึ้นทำน้ำตาลที่กลางนาหาดพังไกรเมื่อเดือนตุลาคม ข้างขึ้น เวลากลางวัน{{วว}}<noinclude></noinclude> qmv2r95ixt0tyb8m5mauyieemncc89s 188282 188281 2022-07-30T09:54:31Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|20}}</noinclude>คนนั่งทอผ้าหยู่ไต้ถุนเรือน ก็เข้ามาฉวยเอาไป บางคนไปขึ้นพะองทำตาล ก็มาคาบเท้าลากไป จนชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้าม ไม่อาดจะไปป่าหากินแต่คนเดียวสองคนได้ บางคนก็ว่า เปนเสือสมิงสักดิสิทธิ ไม่มีผู้ไดอาดจะไปดักหรือไปยิงจนทุกวันนี้ เขาเล่าไห้ฟังหย่างนี้ ได้สืบถามตามชาวเมืองจนกะทั่งกรมการทั้งเมืองชุมพรและเมืองกระบุรี ก็รู้เรื่องเสือดุตัวนี้แทบทุกคน ฉันจึงไห้ทำบัญชีรายชื่อคนถูกเสือกัด ซึ่งตามภาสาชาวชุมพรเขาเรียกว่า "เสือขบ" ไว้สำหรับกราบทูนพระเจ้าหยู่หัว ได้รายชื่อเขาจดมาไห้ ดังนี้ อำเพอท่าแซะ แขวงเมืองชุมพร จำนวนคนที่เสือขบ นายช่วย ผัวอำแดงจันทร์ ตำบลบางรึก คนหนึ่ง อำแดงเกต บ้านหาดพังไกร คนหนึ่ง นายน้อย บ้านท่าแซะ คนหนึ่ง นายเบี้ยว บ้านท่าแซะ คนหนึ่ง อำแดงเช้า ภรรยานายลอม บ้านคูริง คนหนึ่ง หลานนายยอด บ้านหาดพังไกร คนหนึ่ง นายนอง ผัวอำแดงสายทอง บ้านรับร่อ คนหนึ่ง นายน้อย บุตรขุนตะเวน บ้านล่อ คนหนึ่ง นายเชต บ้านหาดหง คนหนึ่ง รวมที่ได้รายชื่อ 9 คน บัญชีได้เพิ่มเติมมาจากเมืองกระบุรีมีรายการพิสดารออกไป {{กม|วล3|1}}นายอ่อน หมายเลขกองกลาง หยู่บ้านรับร่อ ไปตัดจากมุงเรือนที่ปลายคลองรับร่อเมื่อเดือนพรึสจิกายน เวลาบ่าย 5 โมง เสือกัดตาย ตามผีไม่ได้ {{กม|วล3|2}}นายนอง ว่าที่หมื่นจบ คุมเลขกองด่าน หยู่บ้านหาดพังไกร ไปขึ้นทำน้ำตาลที่กลางนาหาดพังไกรเมื่อเดือนตุลาคม ข้างขึ้น เวลากลางวัน{{วว}}<noinclude></noinclude> 5wwh63za820v7zajqp7rzhzc0yb4u6w 188283 188282 2022-07-30T09:55:15Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|20}}</noinclude>คนนั่งทอผ้าหยู่ไต้ถุนเรือน ก็เข้ามาฉวยเอาไป บางคนไปขึ้นพะองทำตาล ก็มาคาบเท้าลากไป จนชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้าม ไม่อาดจะไปป่าหากินแต่คนเดียวสองคนได้ บางคนก็ว่า เปนเสือสมิงสักดิสิทธิ ไม่มีผู้ไดอาดจะไปดักหรือไปยิงจนทุกวันนี้ เขาเล่าไห้ฟังหย่างนี้ ได้สืบถามตามชาวเมืองจนกะทั่งกรมการทั้งเมืองชุมพรและเมืองกระบุรี ก็รู้เรื่องเสือดุตัวนี้แทบทุกคน ฉันจึงไห้ทำบัญชีรายชื่อคนถูกเสือกัด ซึ่งตามภาสาชาวชุมพรเขาเรียกว่า "เสือขบ" ไว้สำหรับกราบทูนพระเจ้าหยู่หัว ได้รายชื่อเขาจดมาไห้ ดังนี้ อำเพอท่าแซะ แขวงเมืองชุมพร จำนวนคนที่เสือขบ นายช่วย ผัวอำแดงจันท์ ตำบลบางรึก คนหนึ่ง อำแดงเกต บ้านหาดพังไกร คนหนึ่ง นายน้อย บ้านท่าแซะ คนหนึ่ง นายเบี้ยว บ้านท่าแซะ คนหนึ่ง อำแดงเช้า ภรรยานายลอม บ้านคูริง คนหนึ่ง หลานนายยอด บ้านหาดพังไกร คนหนึ่ง นายนอง ผัวอำแดงสายทอง บ้านรับร่อ คนหนึ่ง นายน้อย บุตรขุนตะเวน บ้านล่อ คนหนึ่ง นายเชต บ้านหาดหง คนหนึ่ง รวมที่ได้รายชื่อ 9 คน บัญชีได้เพิ่มเติมมาจากเมืองกระบุรีมีรายการพิสดารออกไป {{กม|วล3|1}}นายอ่อน หมายเลขกองกลาง หยู่บ้านรับร่อ ไปตัดจากมุงเรือนที่ปลายคลองรับร่อเมื่อเดือนพรึสจิกายน เวลาบ่าย 5 โมง เสือกัดตาย ตามผีไม่ได้ {{กม|วล3|2}}นายนอง ว่าที่หมื่นจบ คุมเลขกองด่าน หยู่บ้านหาดพังไกร ไปขึ้นทำน้ำตาลที่กลางนาหาดพังไกรเมื่อเดือนตุลาคม ข้างขึ้น เวลากลางวัน{{วว}}<noinclude></noinclude> 6vupa7tb1jyxy0310rtixa6hwb2tj58 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/36 250 57547 188263 2022-07-30T09:14:48Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|21}}</noinclude> ตะวันเที่ยง พอกลับลงจากปลายตาลเสือกัดตาย ตามผีมาได้ครึ่งหนึ่ง 3) อำแดงแป้น ลูกขุนชนะ คุมเลขกองกลาง หยู่บ้านท่าญวน ไปหาผักริมนาท่าญวน เมื่อเดือนตุลาคม ข้างแรม กลางวันบ่าย 3 โมง เสือกัดตาย ตามผีได้ 4) นายแบน เปนเลขกองกลาง หยู่บ้านท่าญวน ไปหาตัวเลขจะพามาทำทางรับสเด็ดที่เมืองกะ เมื่อเดือนกุมพาพันธ์ เวลาพลบค่ำ เสือกัดตายที่นาป่าตอ อำเพอท่าญวน 5) อำแดงเลี้ยน พรรยานายพลอย เลขกองกลาง หยู่บ้านเขาปูน นั่งสานสาดหยู่ที่ไต้ถุนร้านไล่นกที่ไนไร่ เวลาตะวันเที่ยง เสือกัดตาย ตามผีได้ ตามคำที่เล่าและ สืบได้ชื่อกับจำนวนคนที่เสือกัด พอฟังเปนยุติได้ ว่าที่เมืองชุมพรเดี๋ยวนี้มีเสือตัวไหญ่ ดุร้ายกัดคนตายเสียหลายคน ชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้ามเสือตัวนั้นหยู่แทบทั่วกันทั้งเมือง นี่ว่าตามที่ได้ยินด้วยหู ทีนี้จะเล่าถึงที่ได้เห็นด้วยตาตัวเองต่อไป เมื่อฉันขึ้นไปถึงเมืองชุมพร แต่แรกเจ้าเมืองกรมการเขาจะไห้พักที่ทำเนียบริมจวนเจ้าเมือง แต่ฉันเห็นว่าห่างไกลจากธุระของฉัน จึงขอไปพักหยู่ที่ทำเนียบชายทุ่งริมที่ทำพลับพลารับสเด็ด ไนค่ำวันนั้นกรมการเขาจัดคนมากองไฟรอบที่พักฉัน (ซึ่งยังไม่ได้ทำรั้วล้อม) มีผู้คนนั่งหยู่ด้วยกันหลายสิบคน ทั้งคนที่ไปด้วยและชาวหัวเมืองพวกคนทำพลับพลาก็อีกหลายร้อยคน หยู่ไนชายทุ่งนั้นด้วยกัน ไนคืนแรกไปหยู่{{วว}}<noinclude></noinclude> cdrpi7uivn4kjgt75lez0dj4pks5jlj 188284 188263 2022-07-30T09:55:55Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|21}}</noinclude>ตะวันเที่ยง พอกลับลงจากปลายตาลเสือกัดตาย ตามผีมาได้ครึ่งหนึ่ง {{กม|วล3|3}}อำแดงแป้น ลูกขุนชนะ คุมเลขกองกลาง หยู่บ้านท่าญวน ไปหาผักริมนาท่าญวน เมื่อเดือนตุลาคม ข้างแรม กลางวันบ่าย 3 โมง เสือกัดตาย ตามผีได้ {{กม|วล3|4}}นายแบน เปนเลขกองกลาง หยู่บ้านท่าญวน ไปหาตัวเลขจะพามาทำทางรับสเด็ดที่เมืองกะ เมื่อเดือนกุมพาพันธ์ เวลาพลบค่ำ เสือกัดตายที่นาป่าตอ อำเพอท่าญวน {{กม|วล3|5}}อำแดงเลี้ยน พรรยานายพลอย เลขกองกลาง หยู่บ้านเขาปูน นั่งสานสาดหยู่ที่ไต้ถุนร้านไล่นกที่ไนไร่ เวลาตะวันเที่ยง เสือกัดตาย ตามผีได้ ตามคำที่เล่าและ สืบได้ชื่อกับจำนวนคนที่เสือกัด พอฟังเปนยุติได้ ว่าที่เมืองชุมพรเดี๋ยวนี้มีเสือตัวไหญ่ ดุร้ายกัดคนตายเสียหลายคน ชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้ามเสือตัวนั้นหยู่แทบทั่วกันทั้งเมือง นี่ว่าตามที่ได้ยินด้วยหู ทีนี้จะเล่าถึงที่ได้เห็นด้วยตาตัวเองต่อไป เมื่อฉันขึ้นไปถึงเมืองชุมพร แต่แรกเจ้าเมืองกรมการเขาจะไห้พักที่ทำเนียบริมจวนเจ้าเมือง แต่ฉันเห็นว่าห่างไกลจากธุระของฉัน จึงขอไปพักหยู่ที่ทำเนียบชายทุ่งริมที่ทำพลับพลารับสเด็ด ไนค่ำวันนั้นกรมการเขาจัดคนมากองไฟรอบที่พักฉัน (ซึ่งยังไม่ได้ทำรั้วล้อม) มีผู้คนนั่งหยู่ด้วยกันหลายสิบคน ทั้งคนที่ไปด้วยและชาวหัวเมืองพวกคนทำพลับพลาก็อีกหลายร้อยคน หยู่ไนชายทุ่งนั้นด้วยกัน ไนคืนแรกไปหยู่{{วว}}<noinclude></noinclude> 8qulylrv69vdwnsuw835p8fqq51egek 188285 188284 2022-07-30T10:04:05Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|21}}</noinclude>ตะวันเที่ยง พอกลับลงจากปลายตาล เสือกัดตาย ตามผีมาได้ครึ่งหนึ่ง {{กม|วล3|3}}อำแดงแป้น ลูกขุนชนะ คุมเลขกองกลาง หยู่บ้านท่าญวน ไปหาผัก{{ตตฉ|รม|ริม}}นาท่ายวนเมื่อเดือนตุลาคม ข้างแรม กลางวัน บ่าย 3 โมง เสือกัดตาย ตามผีได้ {{กม|วล3|4}}นายแบน เปนเลขกองกลาง หยู่บ้านท่ายวน ไปหาตัวเลขจะพามาทำทางรับสเด็ดที่เมืองกระเมื่อเดือนกุมพาพันธ เวลาพลบค่ำ เสือกัดตายที่นาป่าตอ อำเพอท่ายวน {{กม|วล3|5}}อำแดงเลี้ยน ภรรยานายพลอย เลขกองกลาง หยู่บ้านเขาปูน นั่งสานสาดหยู่ที่ไต้ถุนร้านไล่นกที่ไนไร่ เวลาตะวันเที่ยง เสือกัดตาย ตามผีได้ ตามคำที่เล่าและสืบได้ชื่อกับจำนวนคนที่เสือกัด พอฟังเปนยุติได้ว่า ที่เมืองชุมพรเดี๋ยวนี้มีเสือตัวไหย่ดุร้ายกัดคนตายเสียหลายคน ชาวบ้านชาวเมืองพากันครั่นคร้ามเสือตัวนั้นหยู่แทบทั่วกันทั้งเมือง นี่ว่าตามที่ได้ยินด้วยหู ทีนี้ จะเล่าถึงที่ได้เห็นด้วยตาตัวเองต่อไป เมื่อฉันขึ้นไปถึงเมืองชุมพร แต่แรกเจ้าเมืองกรมการเขาจะไห้พักที่ทำเนียบริมจวนเจ้าเมือง แต่ฉันเห็นว่า ห่างไกลจากธุระของฉัน จึงขอไปพักหยู่ที่ทำเนียบชายทุ่งริมที่ทำพลับพลารับสเด็ด ไนค่ำวันนั้น กรมการเขาจัดคนมากองไฟรอบที่พักฉัน (ซึ่งยังไม่ได้ทำรั้วล้อม) มีผู้คนนั่งหยู่ด้วยกันหลายสิบคน ทั้งคนที่ไปด้วยและชาวหัวเมืองพวกคนทำพลับพลาก็อีกหลายร้อยคน หยู่ไนชายทุ่งนั้นด้วยกัน ไนคืนแรกไปหยู่{{วว}}<noinclude></noinclude> og1vnmljtxbkih4qtg758t6spxmc8de หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/37 250 57548 188264 2022-07-30T09:18:14Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|22}}</noinclude>ฉันนอนหลับตลอดรุ่ง ต่อเช้าขึ้นจึงได้ทราบว่าเมื่อเที่ยงคืนพวกกองไฟร้องโวยวายกันขึ้น พวกที่ไปกับฉันไห้ไปสืบถาม ได้ความว่าได้ยินเสียงเสือเข้ามาร้องหยู่ที่ริมบึงต่อชายทุ่งนั้น เสียงที่ร้องนี้พวกที่ไปกับฉันได้ยินก็มี แต่คนพวกนั้นไม่เคยได้ยินเสียงเสือ ไล่เลียงเข้าก็เปนแต่ว่าได้ยินเสียง แต่จะเปนเสียงอะไรไม่รู้ ฉันถามกรมการว่าไนที่เหล่านั้นเสือเคยเข้ามาหรือไม่ เขาบอกว่าเคยเข้ามาหยู่บ้าง ก็เปนสงบกันไป จนค่ำวันที่สอง ฉันนอนกำลังหลับสนิท สะดุ้งตกไจได้ยินเสียงโวยวายโกลาหลกันไหญ่ ลุกทะลึ่งออกมาดูเห็นบรรดาพวกที่ไปกับฉันซึ่งนอนหยู่ไนเรือนหลังเดียวกัน บางคนปีนขึ้นไปหยู่บนขื่อก็มี ที่เข้าห้องปิดประตูก็มี นอกจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนหยู่บนที่นอนของตน ล้วนแต่โบกมือเฮ้อว ๆ ๆ ๆ หยู่ด้วยกันเต็มเสียง ฉันกำลังมัวนอนไม่รู้ว่าเรื่องราวอันได ก็พลอย เฮ้อว ไปด้วยกับเขาสักสองสามที จึงได้สติถามว่า "อะไรกัน" เขาบอกว่าเสือเข้ามา ฉันร้องห้ามไห้สงบโวยวายกันลง ไนขนะนั้นเดือนหงายสว่าง มองไปดูเห็นพวกที่ไปด้วยกันที่หยู่เรือนอีกหลังหนึ่งตรงกันข้าม ก็กำลังลุกขึ้นโบกมือร้อง เฮ้อว ๆ เหมือนเช่นพวกข้างนี้ ส่วนพวกหัวเมืองทั้งที่มาทำพลับพลาและมากองไฟล้อมทำเนียบ เบ็ดเส็ดเห็นจะกว่า 300 คน ดูรวมกันเปนจุก ๆ หยู่ที่นั่นหมู่หนึ่ง หยู่ที่นี่หมู่หนึ่ง เปนกลุ่ม ๆ กันไป ต่างร้องโวยวายกันทั่วทุกคน เสียงโวยวายไนเวลานั้น ถ้าจะประมานแต่ไนวังก็เห็นจะได้ยินถึงเสาชิงช้า ค่อยสงบลง ๆ จนเงียบกันเกือบเปนปรกติ ฉันจึงไห้คนไป<noinclude></noinclude> oo79nhqr3m2qlvxiq5vulg24rn89ke0 188286 188264 2022-07-30T10:11:43Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|22}}</noinclude>ฉันนอนหลับตลอดรุ่ง ต่อเช้าขึ้นจึงได้ซาบว่า เมื่อเที่ยงคืน พวกกองไฟร้องโวยวายกันขึ้น พวกที่ไปกับฉันไห้ไปสืบถามได้ความว่า ได้ยินเสียงเสือเข้ามาร้องหยู่ที่ริมบึงต่อชายทุ่งนั้น เสียงที่ร้องนี้พวกที่ไปกับฉันได้ยินก็มี แต่คนพวกนั้นไม่เคยได้ยินเสียงเสือ ไล่เลียงเข้าก็เปนแต่ว่า ได้ยินเสียง แต่จะเปนเสียงอะไรไม่รู้ ฉันถามกรมการว่า ไนที่เหล่านั้น เสือเคยเข้ามาหรือไม่ เขาบอกว่า เคยเข้ามาหยู่บ้าง ก็เปนสงบกันไป จนค่ำวันที่สอง ฉันนอนกำลังหลับสนิธ สดุ้งตกไจได้ยินเสียงโวยวายโกลาหลกันไหย่ ลุกทลึ่งออกมาดูเห็นบันดาพวกที่ไปกับฉันซึ่งนอนหยู่ไนเรือนหลังเดียวกันบางคนปีนขึ้นไปหยู่บนขื่อก็มี ที่เข้าห้องปิดประตูก็มี นอกจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนหยู่บนที่นอนของตน ล้วนแต่โบกมือเฮ้อว ๆ ๆ ๆ หยู่ด้วยกันเต็มเสียง ฉันกำลังมัวนอน ไม่รู้ว่าเรื่องราวอันได ก็พลอยเฮ้อวไปด้วยกับเขาสักสองสามที จึงได้สติถามว่า "อะไรกัน" เขาบอกว่า เสือเข้ามา ฉันร้องห้ามไห้สงบโวยวายกันลง ไนขนะนั้น เดือนหงายสว่าง มองไปดูเห็นพวกที่ไปด้วยกันที่หยู่เรือนอีกหลังหนึ่งตรงกันข้ามก็กำลังลุกขึ้นโบกมือร้องเฮ้อว ๆ เหมือนเช่นพวกข้างนี้ ส่วนพวกหัวเมืองทั้งที่มาทำพลับพลาและมากองไฟล้อมทำเนียบเบ็ดเส็ดเห็นจะกว่า 300 คน ดูรวมกันเปนจุก ๆ หยู่ที่นั่นหมู่หนึ่ง หยู่ที่นี่หมู่หนึ่ง เปนกลุ่ม ๆ กันไป ต่างร้องโวยวายกันทั่วทุกคน เสียงโวยวายไนเวลานั้น ถ้าจะประมานแต่ไนวัง ก็เห็นจะได้ยินถึงเสาชิงช้า ค่อยสงบลง ๆ จนเงียบกันเกือบเปนปรกติ ฉันจึงไห้คนไป<noinclude></noinclude> l39wjx5hcgvologsg1fdf0ftb1xkbhi หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/38 250 57549 188265 2022-07-30T09:20:48Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|23}}</noinclude>สืบถามไห้ได้ความว่า เสือมันเข้ามาทางไหน และได้ทำไครเปนอันตรายบ้างหรือหย่างไร สืบถามซักไซ้ก็ได้ความว่า ต้นเหตุเกิดที่โรงไว้ของข้างหลังเรือนฉันพัก โรงนั้นเปนโรงไหญ่ไม่มีฝาหยู่สองด้าน มีคนนอนหยู่หลายคน คนหัวเมืองคนหนึ่งละเมอเสียงโวยวายขึ้น คนหัวเมืองอีกคนหนึ่งนอนหยู่เคียงกัน ได้ยินเสียงเพื่อนกันโวยวายก็ตกไจลุกทะลึ่งขึ้นร้องว่า "เสือ" แล้วก็วิ่งหนีด้วยเข้าไจว่าเสือมากัดอ้ายคนละเมอ ส่วนอ้ายคนละเมอเห็นเขาวิ่งร้อง "เสือ เสือ" ก็สำคัญว่าเสือเข้ามา พลอยลุกขึ้นวิ่งร้องว่า "เสือ" ตามเขาไป อ้ายสองคนนี้ เข้าที่ไหนคนก็ลุกขึ้นร้องโวยวายต่อ ๆ ไปด้วย ครั้นได้ความชัดหย่างนี้ก็ได้แต่หัวเราะกันไป อีกกว่าชั่วโมงจึงสงบเงียบหลับกันไปอีก นี่แลที่ฉันได้เห็นไนเรื่องเสือตัวไหญ่นั้นด้วยตาของฉันเอง แต่มิไช่ได้เห็นตัวเสือไหญ่นั้นดอกนะ (เรื่องที่ลงหนังสือวชิรญานวิเสส หมดเพียงเท่านี้) หนทางบกที่เดินข้ามกิ่วกระ แต่เมืองชุมพรไปจนลำน้ำปากจั่น น เมืองกะบุรี ระยะทางเพียง 1,083 เส้น พวกชาวเมืองที่ไปมาค้าขาย เขาเดินวันเดียวตลอด แต่ขบวนสเด็ดผู้คนมากต้องกะไห้เดินเปน 2 วัน เพราะต้องข้ามเขาบรรทัดเปนทางกันดาร ได้ลองนับที่ต้องขึ้นเขาและลงข้ามไหล่เขามีถึง 31 แห่ง ข้ามลำธาร 53 แห่ง ลุยไปตามลำธาร 21 แห่ง พาหนะก็ไช้ได้แต่ช้างม้ากับคนเดินหาบหาม ขบวนคนมากต้องเดินช้าหยู่เอง เมื่อฉันล่วงหน้าไปตรวจทางครั้งนั้น ได้พบเห็นของประหลาดที่ไม่เคยรู้เห็นมาแต่ก่อนบางหย่าง จะเล่าไว้ด้วย{{วว}}<noinclude></noinclude> 5b6sajpp59uifqe8gb4g31t2s1cigzh 188287 188265 2022-07-30T10:17:24Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|23}}</noinclude>สืบถามไห้ได้ความว่า เสือมันเข้ามาทางไหน และได้ทำไครเปนอันตรายบ้างหรือหย่างไร สืบถามซักไซ้ก็ได้ความว่า ต้นเหตุเกิดที่โรงไว้ของข้างหลังเรือนฉันพัก โรงนั้นเปนโรงไหญ่ไม่มีฝาหยู่สองด้าน มีคนนอนหยู่หลายคน คนหัวเมืองคนหนึ่งละเมอเสียงโวยวายขึ้น คนหัวเมืองอีกคนหนึ่งนอนหยู่เคียงกันได้ยินเสียงเพื่อนกันโวยวายก็ตกไจลุกทลึ่งขึ้นร้องว่า "เสือ" แล้วก็วิ่งหนีด้วยเข้าไจว่า เสือมากัดอ้ายคนละเมอ ส่วนอ้ายคนละเมอเห็นเขาวิ่งร้อง "เสือ เสือ" ก็สำคัญว่า เสือเข้ามา พลอยลุกขึ้นวิ่งร้องว่า "เสือ" ตามเขาไป อ้ายสองคนนี้เข้าที่ไหน คนก็ลุกขึ้นร้องโวยวายต่อ ๆ ไปด้วย ครั้นได้ความชัดหย่างนี้ ก็ได้แต่หัวเราะกันไป อีกกว่าชั่วโมงจึงสงบเงียบหลับกันไปอีก นี่แลที่ฉันได้เห็นไนเรื่องเสือตัวไหญ่นั้นด้วยตาของฉันเอง แต่มิไช่ได้เห็นตัวเสือไหญ่นั้นดอกนะ (เรื่องที่ลงหนังสือวชิรญานวิเสส หมดเพียงเท่านี้) หนทางบกที่เดินข้ามกิ่วกระแต่เมืองชุมพรไปจนลำน้ำปากจั่นนะเมืองกระบุรีระยะทางเพียง 1,083 เส้น พวกชาวเมืองที่ไปมาค้าขายเขาเดินวันเดียวตลอด แต่ขบวนสเด็ดผู้คนมาก ต้องกะไห้เดินเปน 2 วัน เพราะต้องข้ามเขาบันทัดเปนทางกันดาร ได้ลองนับที่ต้องขึ้นเขาและลงข้ามไหล่เขามีถึง 31 แห่ง ข้ามลำธาร 53 แห่ง ลุยไปตามลำธาร 21 แห่ง พาหนะก็ไช้ได้แต่ช้างม้ากับคนเดินหาบหาม ขบวนคนมาก ต้องเดินช้าหยู่เอง เมื่อฉันล่วงหน้าไปตรวดทางครั้งนั้น ได้พบเห็นของประหลาดที่ไม่เคย{{ตตฉ|รูเห็น|รู้เห็น}}มาแต่ก่อนบางหย่าง จะเล่าไว้ด้วย{{วว}}<noinclude></noinclude> dknc2jm15dqjv8vzcgrfoqhk79dwlph หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/39 250 57550 188266 2022-07-30T09:21:20Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|24}}</noinclude>หย่างหนึ่งคือต้นไม้ไบมีพิสเรียกว่า "ตะลังตังช้าง" เปนต้นไม้ขนาดย่อม สูงราวห้าหกสอกขึ้นแซกแซมต้นไม้อื่นหยู่ไนป่า ไม้หย่างนี้ที่ครีบไบมีขนเปนหนามเล็ก ๆ หยู่รอบไบ ถ้าถูกขนนั้นเข้าก็เกิดพิสไห้ปวดเจ็บ เขาว่าพิสร้ายแรงถึงช้างกลัว เห็นต้นก็ไม่เข้าไกล้ เพียงเอาไบตะลังตังช้างจี้ไห้ถูกตัวช้างก็วิ่งร้องไป จึงเรียกว่า ตะลังตังช้าง ชาวเมืองชุมพรเล่าต่อไปว่า หาดริมลำธารแห่งหนึ่งไนทางที่ฉันไปนั้น เรียกกันว่า "หาดพม่าตาย" เพราะเมื่อพม่ามาตีเมืองไทยไนรัชกาลที่ 2 พักนอนค้างที่หาดนั้น พวกหนึ่งไม่รู้ว่าไบตะลังตังช้างมีพิสเอามาปูนอน รุ่งขึ้นก็ตายหมดทั้งพวก คนไปเห็นพม่านอนตายหยู่ที่หาดจึงเรียกกันว่า หาดพม่าตาย แต่นั้นมา แต่ฉันฟังเล่าออกจะสงสัยว่าที่จริงเห็นจะเปนเมื่อพม่าหนีไทยกลับไป มีพวกที่ถูกบาดเจ็บถึงสาหัสไปตายลงที่หาดนั้น จึงเรียกว่าหาดพม่าตายมาแต่เดิม เผอิญคนไปเห็นที่แถวนั้นมีต้นตะลังตังช้างชุม ผู้ที่ไม่รู้เหตุเดิมจึงสมมตว่าตายเพราะถูกพิสไบตะลังตังช้าง ถ้าเอาไบตะลังตังช้างมาปูนอนดังว่า คงรู้สึกพิสสงของไบไม้ตั้งแต่แรกพอหนีเอาตัวรอดได้ ไหนจะนอนทนพิสหยู่จนขาดไจตาย ยังมีบางคนกล่าวต่อไปอีกหย่างหนึ่งว่าไบตะลังตังช้างนั้น ถ้าตัดเอาครีบตรงที่มีขนออกเสียไห้หมดแล้ว ไช้เปนผักจิ้มน้ำพริกหรือไส่แกงกินอร่อยดี ดูก็แปลก แต่ฉันไม่ได้ทดลองไห้ไครกินไบตะลังตังช้างหรือเอาจี้ช้างไห้ฉันดู เปนแต่ไห้เอามาพิจารนาดู รูปร่างหยู่ไนประเพทไบไม้เหลี่ยม เช่นไบมะเขือ ขนาดเขื่องกว่าไบพลูสักหน่อยหนึ่ง แต่ที่ครีบมีขน<noinclude></noinclude> k6sk3w7rvok6qsjnnmbn1vwadlq4kvk 188288 188266 2022-07-30T10:27:06Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|24}}</noinclude>หย่างหนึ่ง คือ ต้นไม้ไบมีพิส เรียกว่า "ตะลังตังช้าง" เปนต้นไม้ขนาดย่อม สูงราวห้าหกสอก ขึ้นแซกแซมต้นไม้อื่นหยู่ไนป่า ไม้หย่างนี้ที่ครีบไบมีขนเปนหนามเล็ก ๆ หยู่รอบไบ ถ้าถูกขนนั้นเข้า ก็เกิดพิสไห้ปวดเจ็บ เขาว่า พิสร้ายแรงถึงช้างกลัว เห็นต้นก็ไม่เข้าไกล้ เพียงเอาไบตะลังตังช้างจี้ไห้ถูกตัว ช้างก็วิ่งร้องไป จึงเรียกว่า ตะลังตังช้าง ชาวเมืองชุมพรเล่าต่อไปว่า หาดริมลำธารแห่งหนึ่งไนทางที่ฉันไปนั้นเรียกกันว่า "หาดพม่าตาย" เพราะเมื่อพม่ามาตีเมืองไทยไนรัชกาลที่ 2 พักนอนค้างที่หาดนั้น พวกหนึ่งไม่รู้ว่า ไบตะลังตังช้างมีพิส เอามาปูนอน รุ่งขึ้นก็ตายหมดทั้งพวก คนไปเห็นพม่านอนตายหยู่ที่หาด จึงเรียกกันว่า หาดพม่าตาย แต่นั้นมา แต่ฉันฟังเล่า ออกจะสงสัยว่า ที่จิงเห็นจะเปนเมื่อพม่าหนีไทยกลับไป มีพวกที่ถูกบาดเจ็บถึงสาหัสไปตายลงที่หาดนั้น จึงเรียกว่า หาดพม่าตาย มาแต่เดิม ผเอินคนไปเห็นที่แถวนั้นมีต้นตะลังตังช้างชุม ผู้ที่ไม่รู้เหตุเดิม จึงสมมตว่า ตายเพราะถูกพิสไบตะลังตังช้าง ถ้าเอาไบตะลังตังช้างมาปูนอนดังว่า คงรู้สึกพิสสงของไบไม้ตั้งแต่แรก พอหนีเอาตัวรอดได้ ไหนจะนอนทนพิสหยู่จนขาดไจตาย ยังมีบางคนกล่าวต่อไปอีกหย่างหนึ่งว่า ไบตะลังตังช้างนั้น ถ้าตัดเอาครีบตรงที่มีขนออกเสียไห้หมดแล้ว ไช้เปนผักจิ้มน้ำพริกหรือไส่แกงกินอร่อยดี ดูก็แปลก แต่ฉันไม่ได้ทดลองไห้ไครกินไบตะลังตังช้างหรือเอาจี้ช้างไห้ฉันดู เปนแต่ไห้เอามาพิจารนาดู รูปร่างหยู่ไนประเภทไบไม้เหลี่ยม เช่น ไบมะเขือ ขนาดเขื่องกว่าไบพลูสักหน่อยหนึ่ง แต่ที่ครีบมีขน<noinclude></noinclude> dwx5mr0fh1niguv703idiywa41ook47 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/40 250 57551 188267 2022-07-30T09:21:51Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|25}}</noinclude>เหมือนขลิบรอบทั้งไบ ไบไม้มีพิสพวกนั้นยังมีอีก 2 หย่าง เรียกว่า "ตะลังตังกวาง" หย่างหนึ่ง "สามแก้ว" หย่างหนึ่ง แต่รูปไบรีปลายมน เปนไม้ต่างพรรนกับตะลังตังช้าง เปนแต่ที่ครีบมีขนเช่นเดียวกัน และว่าพิสสงอ่อนไม่ร้างแรงถึงตะลังตังช้าง ได้ยินเขาว่าทางข้างเหนือที่เมืองลำพูน ต้นตะลังตังกวางก็มี แต่ฉันไม่ได้เห็นแก่ตาเหมือนที่แหลมมลายู เมื่อไปถึงตำบล "บกอินทนิล" ไนแดนเมืองกะบุรี ซึ่งจัดเปนที่ประทับร้อน ไนวันที่ 2 ก็เห็นของประหลาดอีก ฉันได้ยินเสียงสัตว์ร้องหยู่ไนป่าที่ต้นเลียบไหญ่ไกล้ ๆ กับที่ประทับ ฟังเหมือนเสียงตุ๊กแก ไปดูก็เห็นตุ๊กแกมีหยู่ไนโพลงต้นเลียบนั้นหลายตัว ออกประหลาดไจเพราะเคยสำคัญมาแต่ก่อนว่าตุ๊กแกมีแต่ตามบ้านผู้เรือนคน เพิ่งไปรู้เมื่อครั้งนั้นว่าตุ๊กแกป่าก็มี ต่อนั้นมาอีกหลายปี ฉันตามสเด็ดไปเมืองชวาเมื่อ พ.ส. 2439 ตอนสเด็ดไปทอดพระเนตรพูเขาไฟโบรโม ประทับแรมหยู่ที่บนเขาโตสารี ห้องที่ฉันหยู่ไนโฮเต็ลไกล้กับห้องของนักปราชญ์ฝรั่งผู้เชี่ยวชาญวิชาสัตวสาสตร์คนหนึ่ง ซึ่งออกมาเที่ยวหาสัตว์แปลก ๆ ทางตะวันออกนี้ จะเปนเยอรมันหรือฮอลันดาหาทราบไม่ แต่ดูเปนคนแก่แล้วพูดกันได้ไนพาสาอังกริด จึงชอบพูดจาสนทนากัน แกบอกว่าที่ไนป่าเมืองชวามีสัตว์ประหลาดหย่างหนึ่ง เวลาคนเดินทางนอนค้างหยู่ไนป่า มันมักลอบมาอมหัวแม่ตีนดูดเลือดไปกิน คนนอนไม่รู้สึกตัวเปนแต่อ่อนเพลียไปจนถึงตายก็มี ฉันว่าสัตว์หย่างนั้นไนเมืองไทยก็มี เรียกว่า "โป่งค่าง" ฉันเคยได้ยินเขาเล่าว่ามันลอบดูดเลือดคนกินเช่น<noinclude>{{ก|4|4em}}</noinclude> qdy683a45nkvo6c5fm8tk7hddbn7ba9 188289 188267 2022-07-30T10:42:15Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|25}}</noinclude>เหมือนขลิบรอบทั้งไบ ไบไม้มีพิสพวกนั้นยังมีอีก 2 หย่าง เรียกว่า "ตะลังตังกวาง" หย่างหนึ่ง "สามแก้ว" หย่างหนึ่ง แต่รูปไบรีปลายมน เปนไม้ต่างพรรนกับตะลังตังช้าง เปนแต่ที่ครีบมีขนเช่นเดียวกัน และว่า พิสสงอ่อน ไม่ร้ายแรงถึงตะลังตังช้าง ได้ยินเขาว่าทางข้างเหนือที่เมืองลำพูน ต้นตะลังตังกวางก็มี แต่ฉันไม่ได้เห็นแก่ตาเหมือนที่แหลมมลายู เมื่อไปถึงตำบน "บกอินทนิล" ไนแดนเมืองกระบุรี ซึ่งจัดเปนที่ประทับร้อน ไนวันที่ 2 ก็เห็นของประหลาดอีก ฉันได้ยินเสียงสัตว์ร้องหยู่ไนป่าที่ต้นเลียบไหญ่ไกล้ ๆ กับที่ประทับ ฟังเหมือนเสียงตุ๊กแก ไปดูก็เห็นตุ๊กแกมีหยู่ไนโพรงต้นเลียบนั้นหลายตัว ออกประหลาดไจ เพราะเคยสำคัญมาแต่ก่อนว่า ตุ๊กแกมีแต่ตามบ้านผู้เรือนคน เพิ่งไปรู้เมื่อครั้งนั้นว่า ตุ๊กแกป่าก็มี ต่อนั้นมาอีกหลายปี ฉันตามสเด็ดไปเมืองชวาเมื่อ พ.ส. 2439 ตอนสเด็ดไปทอดพระเนตรพูเขาไฟโบรโม ประทับแรมหยู่ที่บนเขาโตสารี ห้องที่ฉันหยู่ไนโฮเต็ลไกล้กับห้องของนักปราชญ์ฝรั่งผู้เชี่ยวชาญวิชาสัตวสาสตรคนหนึ่งซึ่งออกมาเที่ยวหาสัตว์แปลก ๆ ทางตะวันออกนี้ จะเปนเยอรมันหรือฮอลันดาหาซาบไม่ แต่ดูเปนคนแก่แล้ว พูดกันได้ไนภาสาอังกริด จึงชอบพูดจาสนทนากัน แกบอกว่า ที่ไนป่าเมืองชวา มีสัตว์ประหลาดหย่างหนึ่ง เวลาคนเดินทางนอนค้างหยู่ไนป่า มันมักลอบมาอมหัวแม่ตีนดูดเอาเลือดไปกิน คนนอนไม่รู้สึกตัว เปนแต่อ่อนเพลียไปจนถึงตายก็มี ฉันว่า สัตว์หย่างนั้นไนเมืองไทยก็มี เรียกว่า "โป่งค่าง" ฉันเคยได้ยินเขาเล่าว่า มันลอบดูดเลือดคนกินเช่น<noinclude>{{ก|4|4em}}</noinclude> aoobse54jnv11xnpgrafi5v6x8fnf0b หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/41 250 57552 188268 2022-07-30T09:22:27Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|26}}</noinclude>นั้น แต่ฉันไม่เคยเห็นรูปร่างของมันว่าเปนหย่างไร แกบอกว่าแกหาตัวสัตว์หย่างนั้นได้ที่ไนเมืองชวาหลายตัว ฉันอยากเห็น แกจึงพาเข้าไปดูไนห้องสำนักงานของแก เห็นเอาไส่ขวดแช่เหล้าไว้ เข้าไปพิจารนาดูก็ตุ๊กแกเรานี่เอง จึงหวนรำลึกขึ้นทันทีถึงตุ๊กแกไนโพรงต้นเลียบที่บกอินทนิล คงเปนตุ๊กแกป่านั่นเองที่เราเรียกกันว่า ตัวโป่งค่าง เมื่อฉันไปพักหยู่ที่เมืองระนอง ก็มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง สมัยนั้นยังไม่มีตำรวจพูธร กรมหมื่นปราบปรปักส ผู้บัญชาการทหารเรือ ซงจัดไห้ทหารเรือหมวดหนึ่ง มีนายทหารเรือคุมไปสำหรับรักสาที่พักของฉัน ทหารเรือพวกนั้นจึงไปด้วยกันกับฉันจนถึงเมืองระนอง วันหนึ่งฉันกำลังนั่งหยู่กับพระยาระนอง (คอซิมก้อง ซึ่งพายหลังได้เปนพระยาดำรงสุจริตฯ สมุหเทสาพิบาลมนทลชุมพร) และพระกะบุรี (คอซิมบี้ ซึ่งพายหลังได้เปนพระยารัสฎานุประดิสฐ์ สมุหเทสาพิบาลมนทลพูเก็ต) ข้าราชการที่ไปกับฉันก็นั่งหยู่ด้วยหลายคน ขนะนั้นนายทหารเรือเข้าไปบอกว่าทหารเรือป่วยไปคนหนึ่ง อาการเปนไข้ตัวร้อนและมีเม็ดผุดขึ้นตามผิวหนัง ดูเหมือนจะออกฝีดาด พอพระยาระนองกับพระกะบุรีได้ยินก็ตกไจ ออกปากว่าน่าจะเกิดลำบากเสียแล้ว เพราะราสฎรแถวนั้นยังกลัวฝีดาดยิ่งนัก ผิดกับชาวหัวเมืองชั้นไน ถ้ารู้ว่ามีคนออกฝีดาดหยู่ที่นั่นเห็นจะพากันหลบหนี ไม่มีไครทำการรับสเด็ด ฉันก็ตกไจ ถามว่าจะทำหย่างไรดี เจ้าเมืองทั้งสองคนบอกว่า ตามประเพนีของราสฎรทางนั้น ถ้ามีคนออกฝีดาดที่บ้านไหน{{วว}}<noinclude></noinclude> gu69mexvmuqiu4el8pewpeck5y7qbwh 188290 188268 2022-07-30T10:52:17Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|26}}</noinclude>นั้น แต่ฉันไม่เคยเห็นรูปร่างของมันว่าเปนหย่างไร แกบอกว่า แกหาตัวสัตว์หย่างนั้นได้ที่ไนเมืองชวาหลายตัว ฉันอยากเห็น แกจึงพาเข้าไปดูไนห้องสำนักงานของแก เห็นเอาไส่ขวดแช่เหล้าไว้ เข้าไปพิจารนาดูก็ตุ๊กแกเรานี่เอง จึงหวนรำลึกขึ้นทันทีถึงตุ๊กแกไนโพรงต้นเลียบที่บกอินทนิล คงเปนตุ๊กแกป่านั่นเองที่เราเรียกกันว่า ตัวโป่งค่าง เมื่อฉันไปพักหยู่ที่เมืองระนอง ก็มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง สมัยนั้นยังไม่มีตำหรวดภูธร กรมหมื่นปราบปรปักส์ ผู้บันชาการทหานเรือ ซงจัดไห้ทหานเรือหมวดหนึ่ง มีนายทหานเรือคุมไปสำหรับรักสาที่พักของฉัน ทหานเรือพวกนั้นจึงไปด้วยกันกับฉันจนถึงเมืองระนอง วันหนึ่ง ฉันกำลังนั่งหยู่กับพระยาระนอง (คอซิมก้อง ซึ่งพายหลังได้เปนพระยาดำรงสุจริตฯ สมุหเทสาภิบาลมนทลชุมพร) และพระกระบุรี (คอซิมบี้ ซึ่งพายหลังได้เปนพระยารัสดานุประดิถ สมุหเทสาภิบาลมนทลภูเก็ต) ข้าราชการที่ไปกับฉันก็นั่งหยู่ด้วยหลายคน ขนะนั้น นายทหานเรือเข้าไปบอกว่า ทหานเรือป่วยไปคนหนึ่ง อาการเปนไข้ตัวร้อนและมีเม็ดผุดขึ้นตามผิวหนัง ดูเหมือนจะออกฝีดาด พอพระยาระนองกับพระกระบุรีได้ยินก็ตกไจ ออกปากว่า น่าจะเกิดลำบากเสียแล้ว เพราะราสดรแถวนั้นยังกลัวฝีดาดยิ่งนัก ผิดกับชาวหัวเมืองชั้นไน ถ้ารู้ว่า มีคนออกฝีดาดหยู่ที่นั่น เห็นจะพากันหลบหนี ไม่มีไครทำการรับสเด็ด ฉันก็ตกไจ ถามว่า จะทำหย่างไรดี เจ้าเมืองทั้งสองคนบอกว่า ตามประเพนีของราสดรทางนั้น ถ้ามีคนออกฝีดาดที่บ้านไหน{{วว}}<noinclude></noinclude> duijfpe443ojs7j7hz2oy7mns955ybe 188292 188290 2022-07-30T10:57:58Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|26}}</noinclude>นั้น แต่ฉันไม่เคยเห็นรูปร่างของมันว่าเปนหย่างไร แกบอกว่า แกหาตัวสัตว์หย่างนั้นได้ที่ไนเมืองชวาหลายตัว ฉันหยากเห็น แกจึงพาเข้าไปดูไนห้องสำนักงานของแก เห็นเอาไส่ขวดแช่เหล้าไว้ เข้าไปพิจารนาดูก็ตุ๊กแกเรานี่เอง จึงหวนรำลึกขึ้นทันทีถึงตุ๊กแกไนโพรงต้นเลียบที่บกอินทนิล คงเปนตุ๊กแกป่านั่นเองที่เราเรียกกันว่า ตัวโป่งค่าง เมื่อฉันไปพักหยู่ที่เมืองระนอง ก็มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง สมัยนั้นยังไม่มีตำหรวดภูธร กรมหมื่นปราบปรปักส์ ผู้บันชาการทหานเรือ ซงจัดไห้ทหานเรือหมวดหนึ่ง มีนายทหานเรือคุมไปสำหรับรักสาที่พักของฉัน ทหานเรือพวกนั้นจึงไปด้วยกันกับฉันจนถึงเมืองระนอง วันหนึ่ง ฉันกำลังนั่งหยู่กับพระยาระนอง (คอซิมก้อง ซึ่งพายหลังได้เปนพระยาดำรงสุจริตฯ สมุหเทสาภิบาลมนทลชุมพร) และพระกระบุรี (คอซิมบี้ ซึ่งพายหลังได้เปนพระยารัสดานุประดิถ สมุหเทสาภิบาลมนทลภูเก็ต) ข้าราชการที่ไปกับฉันก็นั่งหยู่ด้วยหลายคน ขนะนั้น นายทหานเรือเข้าไปบอกว่า ทหานเรือป่วยไปคนหนึ่ง อาการเปนไข้ตัวร้อนและมีเม็ดผุดขึ้นตามผิวหนัง ดูเหมือนจะออกฝีดาด พอพระยาระนองกับพระกระบุรีได้ยินก็ตกไจ ออกปากว่า น่าจะเกิดลำบากเสียแล้ว เพราะราสดรแถวนั้นยังกลัวฝีดาดยิ่งนัก ผิดกับชาวหัวเมืองชั้นไน ถ้ารู้ว่า มีคนออกฝีดาดหยู่ที่นั่น เห็นจะพากันหลบหนี ไม่มีไครทำการรับสเด็ด ฉันก็ตกไจ ถามว่า จะทำหย่างไรดี เจ้าเมืองทั้งสองคนบอกว่า ตามประเพนีของราสดรทางนั้น ถ้ามีคนออกฝีดาดที่บ้านไหน{{วว}}<noinclude></noinclude> dred7iiqu0kw86sls70x7mug5f7tmi1 หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/42 250 57553 188269 2022-07-30T09:22:50Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|27}}</noinclude>พวกชาวบ้านช่วยกันปลูกทับกะท่อมไห้คนเจ็บไปหยู่ต่างหาก หายาและข้าวปลาอาหารไปวางไว้ไห้ที่กะท่อม แล้วพวกชาวบ้านพากันทิ้งบ้านเรือนไปหยู่เสียไห้ห่างไกล จนคนไข้หายสนิทจึงกลับมา ถ้าคนไข้ตายก็เผาเสียไห้สูญไปด้วยกันกับกะท่อม เขาอยากไห้ฉันส่งทหารเรือคนที่เจ็บไปไว้ที่เกาะว่างผู้คน กลางลำน้ำปากจั่น เขาจะไห้ไปปลูกทับกะท่อมที่อาสัย และจะลองหาคนที่ออกฝีดาดแล้วไปช่วยหยู่รักสาพยาบาล มิฉะนั้น ถ้าฉันพาคนไข้กลับไปด้วย ไปถึงไหนราสฎรที่มาทำงานหยู่ที่นั่นก็คงพากันหลบหนีไปหมด ฉันสงสารทหารเรือคนไข้ ยังมิรู้ที่จะว่าประการได พระทิพจักส์ฯ หมอที่ไปประจำตัวฉันพูดขึ้นว่า จะไปตรวจดูเสียไห้แน่ก่อน แกไปสักครู่หนึ่งเดินยิ้มกลับมา บอกว่าไม่ต้องซงพระวิตกแล้ว คนเจ็บเปนแต่ออกอีสุกอีไสมิไช่ฝีดาด เพราะเม็ดที่ขึ้นห่าง ๆ กันไม่เปนพืดเหมือนเม็ดฝีดาด พิสไข้ก็ไม่ร้ายแรงเหมือนหย่างออกฝีดาด รักสาไม่กี่วันก็หาย ได้ฟังดังนั้นก็โล่งไจไปด้วยกันหมด ขากลับจากเมืองระนอง พระทิพจักส์ฯ แกรับคนไข้มาไนเรือลำเดียวกับแก เมื่อขึ้นเดินบก ฉันก็ไห้จัดช้างตัวหนึ่งไห้คนไข้นอนมาไนสัปคับ นำหน้าช้างตัวที่ฉันขี่มาจนถึงเมืองชุมพร รักสาต่อมาไม่กี่วันก็หายเปนปรกติ ต่อเมื่อคนไข้หายสนิทแล้ว พระทิพจักส์ฯ จึงกะซิบบอกฉันว่า ที่จริงทหารเรือคนนั้นออกฝีดาดนั่นเอง แต่ออกหย่างบางพิสสงไม่ร้ายแรง แกเห็นพอจะพามาได้จึงคิดเอากลับมา ฉันก็มิรู้ที่จะว่าประการได นอกจากขอบไจ เพราะรอดลำบากมาได้ด้วยมายาของแก {{มปก}}<noinclude></noinclude> qit9pt3fs8vi1inyyrwo7bw9soi8nf4 188291 188269 2022-07-30T10:54:33Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|27}}</noinclude>พวกชาวบ้านช่วยกันปลูกทับกะท่อมไห้คนเจ็บไปหยู่ต่างหาก หายาและข้าวปลาอาหารไปวางไว้ไห้ที่กะท่อม แล้วพวกชาวบ้านพากันทิ้งบ้านเรือนไปหยู่เสียไห้ห่างไกล จนคนไข้หายสนิธจึงกลับมา ถ้าคนไข้ตาย ก็เผาเสียไห้สูญไปด้วยกันกับกะท่อม เขาหยากไห้ฉันส่งทหานเรือคนที่เจ็บไปไว้ที่เกาะว่างผู้คนกลางลำน้ำปากจั่น เขาจะไห้ไปปลูกทับกะท่อมที่อาสัย และจะลองหาคนที่ออกฝีดาดแล้วไปช่วยหยู่รักสาพยาบาล มิฉะนั้น ถ้าฉันพาคนไข้กลับไปด้วย ไปถึงไหนราสดรที่มาทำงานหยู่ที่นั่นก็คงพากันหลบหนีไปหมด ฉันสงสารทหานเรือคนไข้ ยังมิรู้ที่จะว่าประการได พระทิพจักส์ฯ หมอที่ไปประจำตัวฉันพูดขึ้นว่า จะไปตรวดดูเสียไห้แน่ก่อน แกไปสักครู่หนึ่งเดินยิ้มกลับมา บอกว่า ไม่ต้องซงพระวิตกแล้ว คนเจ็บเปนแต่ออกอีสุกอีไส มิไช่ฝีดาด เพราะเม็ดที่ขึ้นห่าง ๆ กันไม่เปนพืดเหมือนเม็ดฝีดาด พิสไข้ก็ไม่ร้ายแรงเหมือนหย่างออกฝีดาด รักสาไม่กี่วันก็หาย ได้ฟังดังนั้นก็โล่งไจไปด้วยกันหมด ขากลับจากเมืองระนอง พระทิพจักส์ฯ แกรับคนไข้มาไนเรือลำเดียวกับแก เมื่อขึ้นเดินบก ฉันก็ไห้จัดช้างตัวหนึ่งไห้คนไข้นอนมาไนสับปะคับนำหน้าช้างตัวที่ฉันขี่มาจนถึงเมืองชุมพร รักสาต่อมาไม่กี่วันก็หายเปนปรกติ ต่อเมื่อคนไข้หายสนิธแล้ว พระทิพจักส์ฯ จึงกะซิบบอกฉันว่า ที่จริงทหานเรือคนนั้นออกฝีดาดนั่นเอง แต่ออกหย่างบาง พิสสงไม่ร้ายแรง แกเห็นพอจะพามาได้ จึงคิดเอากลับมา ฉันก็มิรู้ที่จะว่าประการได นอกจากขอบไจ เพราะรอดลำบากมาได้ด้วยมายาของแก {{มปก}}<noinclude></noinclude> sru8j44negiik8buaxsc625wyyb6snk หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/43 250 57554 188270 2022-07-30T09:23:10Z Venise12mai1834 8884 /* ยังไม่พิสูจน์อักษร */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|28}}</noinclude>เมื่อสเด็ดเลียบหัวเมืองปักสไต้ฝ่ายตะวันตกเมื่อ ร.ส. 109 สมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงได้ซงพระราชนิพนธ์ไว้โดยพิสดาร พิมพ์หยู่ไนหนังสือ "เรื่องสเด็ดประพาสแหลมมลายู" แล้ว ฉันจะเล่าแต่เรื่องเสือไหญ่ต่อไป เมื่อสเด็ดกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ต่อมาไม่ช้าไน พ.ส. 2433 นั่นเอง ได้ข่าวว่าเสือไหญ่ที่เมืองชุมพรถูกยิงตายแล้ว ฉันอยากรู้เรื่องที่ยิงเสือตัวนั้น ไห้สืบถาม ได้ความว่าชาวเมืองชุมพรคนหนึ่ง มีกิจธุระจะต้องเดินทางไปไนป่า เอาปืนติดมือไปด้วย แต่มิได้ตั้งไจจะไปยิงเสือ เดินไปไนเวลากลางวัน พอเลี้ยวต้นไม้ที่บังหยู่ริมทางแห่งหนึ่งก็เจอะ อ้ายเป๋ เสือไหญ่ประชันหน้ากันไกล้ ๆ ชายคนนั้นมีสติเพียงลดปืนลงจากบ่า ขึ้นนกหลับตายิงไปตรงหน้าแล้วก็ทิ้งปืน วิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เปนเพราะพบเสือไกล้ ๆ ข้างฝ่ายเสือก็เห็นจะไม่ได้คาดว่าจะพบคน คงยืนชะงักหยู่ ลูกปืนจึงถูกที่หัวเสือตายหยู่กับที่ สิ้นชีวิตเสือไหญ่เพียงนั้น แต่ยังไม่หมดเรื่อง ฉันนึกถึงความหลังเกิดอยากได้หนังหรือหัวกะโหลกเสือตัวนั้น ไห้ไปถามหา ได้ความว่า เมื่ออ้ายเป๋ถูกยิงตายแล้ว กำนันนายตำบลเอาซากไปส่งต่อพระยาชุมพร (ยัง) พระยาชุมพรออกเงินไห้เปนบำเหน็จแก่คนยิง แล้วได้ซากเสือไว้มิรู้ที่จะทำหย่างไร มีเจ๊กไปขอซื้อว่าจะเอาไปทำยา พระยาชุมพรก็เลยขายซากไห้เจ๊กไป ฉันไห้ลงไปถามหาช้าไปจึงไม่ได้หนังหรือหัวกะโหลกอ้ายเป๋ดังประสงค์ เปนสิ้นเรื่องเสือไหญ่เมืองชุมพรเพียงเท่านี้<noinclude></noinclude> 5fimru5hklrhr4lenl9ioku6qwcaa2l 188277 188270 2022-07-30T09:44:36Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="1" user="Venise12mai1834" />{{ก|28}}</noinclude>เรื่องสเด็ดเลียบหัวเมืองปักส์ไต้ฝ่ายตะวันตกเมื่อ ร.ส. 109 สมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงได้ซงพระราชนิพนธ์ไว้โดยพิสดาร พิมพ์หยู่ไนหนังสือ "เรื่องสเด็ดประพาสแหลมมลายู" แล้ว ฉันจะเล่าแต่เรื่องเสือไหย่ต่อไป เมื่อสเด็ดกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ต่อมาไม่ช้าไน พ.ส. 2433 นั่นเอง ได้ข่าวว่า เสือไหย่ที่เมืองชุมพรถูกยิงตายแล้ว ฉันหยากรู้เรื่องที่ยิงเสือตัวนั้น ไห้สืบถามได้ความว่า ชาวเมืองชุมพรคนหนึ่งมีกิจธุระจะต้องเดินทางไปไนป่า เอาปืนติดมือไปด้วย แต่มิได้ตั้งไจจะไปยิงเสือ เดินไปไนเวลากลางวัน พอเลี้ยวต้นไม้ที่บังหยู่ริมทางแห่งหนึ่งก็เจอะอ้ายเป๋เสือไหย่ประชันหน้ากันไกล้ ๆ ชายคนนั้นมีสติเพียงลดปืนลงจากบ่าขึ้นนกหลับตายิงไปตรงหน้าแล้วก็ทิ้งปืนวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เปนเพราะพบเสือไกล้ ๆ ข้างฝ่ายเสือก็เห็นจะไม่ได้คาดว่าจะพบคน คงยืนชะงักหยู่ ลูกปืนจึงถูกที่หัวเสือตายหยู่กับที่ สิ้นชีวิตเสือไหย่เพียงนั้น แต่ยังไม่หมดเรื่อง ฉันนึกถึงความหลัง เกิดอยากได้หนังหรือหัวกะโหลกเสือตัวนั้น ไห้ไปถามหาได้ความว่า เมื่ออ้ายเป๋ถูกยิงตายแล้ว กำนันนายตำบนเอาซากไปส่งต่อพระยาชุมพร (ยัง) พระยาชุมพรออกเงินไห้เปนบำเหน็ดแก่คนยิง แล้วได้ซากเสือไว้ มิรู้ที่จะทำหย่างไร มีเจ๊กไปขอซื้อ ว่าจะเอาไปทำยา พระยาชุมพรก็เลยขายซากไห้เจ๊กไป ฉันไห้ลงไปถามหาช้าไป จึงไม่ได้หนังหรือหัวกะโหลกอ้ายเป๋ดังประสงค์ เปนสิ้นเรื่องเสือไหย่เมืองชุมพรเพียงเท่านี้ {{สกอ|sp|100}} {{มปก}}<noinclude></noinclude> ejiboemd5oirtjhxoo4dfo5a998gxua 188278 188277 2022-07-30T09:45:22Z Venise12mai1834 8884 /* พิสูจน์อักษรแล้ว */ proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|28}}</noinclude>เรื่องสเด็ดเลียบหัวเมืองปักส์ไต้ฝ่ายตะวันตกเมื่อ ร.ส. 109 สมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงได้ซงพระราชนิพนธ์ไว้โดยพิสดาร พิมพ์หยู่ไนหนังสือ "เรื่องสเด็ดประพาสแหลมมลายู" แล้ว ฉันจะเล่าแต่เรื่องเสือไหย่ต่อไป เมื่อสเด็ดกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ต่อมาไม่ช้าไน พ.ส. 2433 นั่นเอง ได้ข่าวว่า เสือไหย่ที่เมืองชุมพรถูกยิงตายแล้ว ฉันหยากรู้เรื่องที่ยิงเสือตัวนั้น ไห้สืบถามได้ความว่า ชาวเมืองชุมพรคนหนึ่งมีกิจธุระจะต้องเดินทางไปไนป่า เอาปืนติดมือไปด้วย แต่มิได้ตั้งไจจะไปยิงเสือ เดินไปไนเวลากลางวัน พอเลี้ยวต้นไม้ที่บังหยู่ริมทางแห่งหนึ่งก็เจอะอ้ายเป๋เสือไหย่ประชันหน้ากันไกล้ ๆ ชายคนนั้นมีสติเพียงลดปืนลงจากบ่าขึ้นนกหลับตายิงไปตรงหน้าแล้วก็ทิ้งปืนวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เปนเพราะพบเสือไกล้ ๆ ข้างฝ่ายเสือก็เห็นจะไม่ได้คาดว่าจะพบคน คงยืนชะงักหยู่ ลูกปืนจึงถูกที่หัวเสือตายหยู่กับที่ สิ้นชีวิตเสือไหย่เพียงนั้น แต่ยังไม่หมดเรื่อง ฉันนึกถึงความหลัง เกิดอยากได้หนังหรือหัวกะโหลกเสือตัวนั้น ไห้ไปถามหาได้ความว่า เมื่ออ้ายเป๋ถูกยิงตายแล้ว กำนันนายตำบนเอาซากไปส่งต่อพระยาชุมพร (ยัง) พระยาชุมพรออกเงินไห้เปนบำเหน็ดแก่คนยิง แล้วได้ซากเสือไว้ มิรู้ที่จะทำหย่างไร มีเจ๊กไปขอซื้อ ว่าจะเอาไปทำยา พระยาชุมพรก็เลยขายซากไห้เจ๊กไป ฉันไห้ลงไปถามหาช้าไป จึงไม่ได้หนังหรือหัวกะโหลกอ้ายเป๋ดังประสงค์ เปนสิ้นเรื่องเสือไหย่เมืองชุมพรเพียงเท่านี้. {{สกอ|sp|100}}<noinclude></noinclude> ic9d9dk4rz2gy19fesjuakto23z8gai 188293 188278 2022-07-30T10:58:07Z Venise12mai1834 8884 proofread-page text/x-wiki <noinclude><pagequality level="3" user="Venise12mai1834" />{{ก|28}}</noinclude>เรื่องสเด็ดเลียบหัวเมืองปักส์ไต้ฝ่ายตะวันตกเมื่อ ร.ส. 109 สมเด็ดพระพุทธเจ้าหลวงได้ซงพระราชนิพนธ์ไว้โดยพิสดาร พิมพ์หยู่ไนหนังสือ "เรื่องสเด็ดประพาสแหลมมลายู" แล้ว ฉันจะเล่าแต่เรื่องเสือไหย่ต่อไป เมื่อสเด็ดกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ต่อมาไม่ช้าไน พ.ส. 2433 นั่นเอง ได้ข่าวว่า เสือไหย่ที่เมืองชุมพรถูกยิงตายแล้ว ฉันหยากรู้เรื่องที่ยิงเสือตัวนั้น ไห้สืบถามได้ความว่า ชาวเมืองชุมพรคนหนึ่งมีกิจธุระจะต้องเดินทางไปไนป่า เอาปืนติดมือไปด้วย แต่มิได้ตั้งไจจะไปยิงเสือ เดินไปไนเวลากลางวัน พอเลี้ยวต้นไม้ที่บังหยู่ริมทางแห่งหนึ่งก็เจอะอ้ายเป๋เสือไหย่ประชันหน้ากันไกล้ ๆ ชายคนนั้นมีสติเพียงลดปืนลงจากบ่าขึ้นนกหลับตายิงไปตรงหน้าแล้วก็ทิ้งปืนวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เปนเพราะพบเสือไกล้ ๆ ข้างฝ่ายเสือก็เห็นจะไม่ได้คาดว่าจะพบคน คงยืนชะงักหยู่ ลูกปืนจึงถูกที่หัวเสือตายหยู่กับที่ สิ้นชีวิตเสือไหย่เพียงนั้น แต่ยังไม่หมดเรื่อง ฉันนึกถึงความหลัง เกิดหยากได้หนังหรือหัวกะโหลกเสือตัวนั้น ไห้ไปถามหาได้ความว่า เมื่ออ้ายเป๋ถูกยิงตายแล้ว กำนันนายตำบนเอาซากไปส่งต่อพระยาชุมพร (ยัง) พระยาชุมพรออกเงินไห้เปนบำเหน็ดแก่คนยิง แล้วได้ซากเสือไว้ มิรู้ที่จะทำหย่างไร มีเจ๊กไปขอซื้อ ว่าจะเอาไปทำยา พระยาชุมพรก็เลยขายซากไห้เจ๊กไป ฉันไห้ลงไปถามหาช้าไป จึงไม่ได้หนังหรือหัวกะโหลกอ้ายเป๋ดังประสงค์ เปนสิ้นเรื่องเสือไหย่เมืองชุมพรเพียงเท่านี้. {{สกอ|sp|100}}<noinclude></noinclude> 47u8v51nl7m7l9wrkj2bb3qnuwezp2u นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 3 0 57555 188294 2022-07-30T10:59:25Z Venise12mai1834 8884 สร้างหน้าด้วย "{{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[../]] | ปี = 2487 | ผู้สร้างสรรค์ = สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = นิทานที่ 3 เรื่อง เสือไหย่เมืองชุมพร | ผู้มีส่ว..." wikitext text/x-wiki {{หัวเรื่อง | ชื่อ = [[../]] | ปี = 2487 | ผู้สร้างสรรค์ = สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ | บรรณาธิการ = | ผู้แปล = | ส่วน = นิทานที่ 3 เรื่อง เสือไหย่เมืองชุมพร | ผู้มีส่วนร่วม = | ก่อนหน้า = [[../นิทานที่ 2/]] | ถัดไป = [[../นิทานที่ 4/]] | หมายเหตุ = | สถานีย่อย = ภาคใต้ของไทย/พยาธิวิทยา }} <pages index="นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf" from="32" to="43"/> ovvi2telev837mmhu60mna3o9s9cmvl